หลังจากอ่านกระทู้ “14 ตุลา..มีนัดกับอัลมิตรากันดีไหม” เพียงพลิ้วก็คุยกับเพื่อนห้าเจ้าจอมว่าใครจะมาเที่ยวได้บ้าง เพื่อนๆต่างก็บอกว่าติดภารกิจกัน เพียงพลิ้วก็ลังเลเหมือนกันที่เหล่าเจ้าจอมจะไม่มาเที่ยวด้วย ก็คิดถึงนี่นาทั้งทีเราเพิ่งเจอกันเมื่ออาทิตย์ก่อนเอง แต่ไหนๆพี่ๆทั้งหลายก็เคยเจอหน้าตากันมาหมดแล้ว พี่อ้อย ร้อยฝัน ก็เคยเจอกันเมื่อปี 2548 ที่ระยอง ก็นับถือกันเป็นพี่ช้างกับน้องช้าง ก็อุตส่าห์จะมาด้วย ไม่ได้เจอกันกันแล้ว ต้องไปเจอพี่ช้างสักหน่อย ส่วนพี่กุ้งหนามแดง พี่แก้วประภัสสร พี่กิ่งโศก พี่อัลมิตราก็เพิ่งจะเจอกันมาตอนไปเที่ยวอัมพวาที่แสนจะสนุก อิ่มอร่อยตลอดทริป แล้วยังจะได้เจอน้องกวีปกรณ์และลุงดาวศรัทธาเป็นครั้งแรกอีกด้วย แค่คิดก็สนุกแล้ว 14 ตุลาคม 255 เพียงพลิ้วตื่นแต่เช้า รีบโทรหาพี่อ้อยว่าถึงไหนแล้ว เสียงพี่อ้อยบอกว่า เพิ่งเลยฉะเชิงเทรา เพียงพลิ้วก็เลยใจเย็น ตื่นมาทำขนมจีนน้ำยาเจตามคำเรียกร้องของแฟนคลับ ลูกชิ้นกำลังจะลอยแล้ว กำลังจะได้กิน พี่อ้อยก็โทรมาว่าถึงแล้ว เพียงพลิ้วกับน้องก็เลยไปรับพี่อ้อยมาเข้าที่พัก ให้พี่อ้อยนอนพักผ่อนก่อน แล้วค่อยตื่นมาอาบน้ำและกินข้าวเตรียมตัวไปเที่ยว เราไปรอน้องกรตามเวลานัดหมาย มองรถที่ผ่านไป พร้อมลุ้นว่าคันไหนนะ และแล้ว รถคันหนึ่งถอยหลังกลับมา เราก็เลยเดินไปหาด้วยความมั่นใจว่า “ใช่แน่ๆ” และในที่สุดก็ใช่จริงๆ บรรดานายแบบและนางแบบก็ได้พบกัน ต่างก็แนะนำและทักทายกันพอหอมปากหอมคอ พี่กุ้งเจอน้องกร น้องกรเจอพี่กุ้ง เขาต่างมาเพื่อกันและกันในงานนี้ แล้วก็เริ่มภารกิจสำคัญ แชะ เชะ แชะ โชคดีที่วันนี้ฝนไม่ตกไม่งั้นก็ แฉะ แฉะ แฉะ (ตอนที่กำลังเขียนอยู่นี้วันที่ 15 ตุลาคม 2555 เวลา 15.40 น. ฝนกำลังตกค่ะ) พวกเราเริ่มทำงานกันตามกำลัง เพียงพลิ้วอาสาเป็นตากล้องสมัครและ นางแบบสมัครเล่น โดยมีอัลมิตราและกวีปกรณ์เป็นนางแบบนายแบบมืออาชีพ ส่วนพี่กุ้งหนามแดงไม่ค่อยชอบถ่ายรูป แต่ก็ไม่วายมีรูปถ่ายมาเยอะพอสมควรในงานนี้ พี่ร้อยฝันก็ถ่ายรูปบ้าง งานนี้กล้องเพียงพลิ้วมีรูปพี่อัลมิตราเยอะมาก เพราะว่าเธอเป็นนางแบบมืออาชีพ สามารถแอ็คชั่นได้ทุกท่า เพียงพลิ้วก็เลยสนุกถ่าย พร้อมกับยื่นกล้องให้น้องกรช่วยถ่ายเป็นระยะ แล้วตัวเอง แว้บไปเป็นนางแบบ งานนี้น้องกรน่ารักมาก เป็นทั้งคนขับรถ ตากล้อง นายแบบ น่ารักมากมาย พี่กุ้งหนามแดงผู้ไม่ชอบถ่ายรูปแอบแซวพี่อัลมิตราว่า “เธอเกิดมาเพื่อสิ่งนี้จริงๆ” จากหลักฐานและพยานที่ปรากฏและรวบรวมได้ เราคงปฏิเสธไม่ได้จริงๆว่าที่พูดนั้นเป็นความจริง สถานที่แห่งนี้เหมาะกับผู้รักศิลปะละชื่นชมการถ่ายรูปมาก เมื่อวานเป็นวันอาทิตย์ทำให้มีคนเยอะมากพอสมควร บางรูปจะต้องรอคิวถ่ายรูปกันเลยทีเดียว บางรูปดูรูปแล้วสงสัย “ทำไปได้อย่างไร” เราถ่ายรูปหมู่บ้าง เดี่ยวบ้างตามความพอใจ และแล้วพี่อ้อยถูกถูกแซวว่าใส่กางเกงขาก๊วย เสื้อยืด สะพายย่าม เดินทางมาจากชัยภูมิเพื่อมางานนี้โดยเฉพาะ ก็ได้พบรูปภาพที่สร้างมาเพื่อพี่ช้างและน้องช้างโดยเฉพาะ เราชวนกันเข้าโขลง แล้วถ่ายรูปด้วยกัน แต่พอถ่ายเดี่ยวแล้ว เราก็รู้ว่า พี่อ้อยใส่ชุดนี้แล้วเหมาะมาก เหมาะกับการเป็นครวญช้างนั่นเอง ภาพถัดมาก็ยังเหมาะกับพี่อ้อยอีกเช่นกัน ภาพปราสาทหินโบราณเข้ากับชุด แต่ว่านางแบบมืออาชีพของเราหรือจะยอมแพ้ ยังแอ็คชั่นได้ทุกที่เหมือนเดิม นางแบบมืออาชีพอย่างพี่อัลมิตราสามารถทำอะไรได้ทุกอย่างเพื่อการถ่ายรูป ไม่รู้ว่าพี่อิมได้ค่าตัวเท่าไร ^_^ เพียงพลิ้วเสนอซีนให้ พี่อิมก็ทำตามหมดเลย ทั้งรองเท้าตกน้ำ ทั้งตกน้ำให้พี่กุ้งช่วย แล้วยังเสนอซีนเอง ให้ทำหมวกตกน้ำ เพียงพลิ้วสนองตาม โดยหมวกลงน้ำให้ถ่ายทันที เรียกกันว่า ทำงานกันเป็นทีมเลยทีเดียว ณ ที่แห่งนี้ เหมือนเราได้ไปเที่ยวในหลายสถานที่ สวนสัตว์ เมืองโบราณ แล้วยังมีมัมมี่(แมว)อีกด้วย พี่กุ้งกับพี่อ้อยก็น่ารัก อุตส่าห์ไปทำหน้าแมวให้เพียงพลิ้ว พี่อ้อยทำเหมือนมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ภาพนี้ดูเหมือนว่าปู่กิ่งจะถูกรุมสกรัมโดยพี่แบมและพี่อิม มุมนี้ พี่อิมบอกว่าถ้าไม่ได้ถ่าย จะไม่ยอมกลับ เราก็ได้ส่องหลุมดำ หาขุมทรัพย์ฟาโรห์กันสมใจ เราขึ้นมาชั้นสองกันแล้ว นางแบบของเรายังมีเรี่ยวแรงอยู่ ยังโพสต์ท่าได้ตลอด ไม่มีเหนื่อย มาถึงมุมผีเสื้อและนางฟ้า พี่อ้อยกับพี่กุ้งก็หายไปจากวัฏจักร คำพูดสุดท้ายที่แจ้งไว้คือ “มุมนี้ไม่เหมาะกับพวกพี่” ดูเหมือนว่าพี่แบมจะเจอเพื่อน และพี่กิ่งโศกจะเจอของโปรดเข้าแล้ว ^_^ ส่วนน้องกรทำท่าได้ถูกใจพี่มาก หลังๆมา ดูเหมือนว่าเพียงพลิ้วจะเริ่มเหนื่อย โยนกล้องให้น้องกรไปชั่วคราว โดยมีพี่อิมเป็นนางแบบ ใกล้จะถึงทางออกแล้ว ถามหาพี่อ้อยกับพี่กุ้งก็รู้แล้วว่าหมดแรง ออกไปรอที่จุดนัดพบ แต่พวกเรายังคงมีแรงอยู่บ้าง ขอต่ออีกหน่อย นักหมาย 11.45 น. นี่แค่ 10.55 น. เอง และแล้วนางแบบของเราก็หิว ต้องรีบไปแล้ว เดี๋ยวลุงดาวจะรอนาน วันนี้มีขบวนแห่เจ้ากินเจที่พัทยาด้วย เดี๋ยวรถจะติด เราก็ถ่ายรูปอีกนิดหน่อยแล้วรวมพลกันไปสัตหีบด้วยท้องที่ร้องจ๊อกๆ รอการเติมเต็ม รถของเรามีสมาชิกเพิ่มอีกหนึ่งคนคือพี่กุ้งหนามแดง ในรถไม่มีเสียงเงียบเลย ขาไปสัตหีบ คุยกันสนุกสนานตลอดทาง ในที่สุด เราก็มาถึงร้านพอพุงของลุงดาว ลุงดาวออกมาต้อนรับ พี่อิมก็แจกของฝาก ของขลังกับเสื้อโปโลสีชมพูให้ทุกคน เดี๋ยวเพียงพลิ้วจะใส่นะคะ ตอนนี้พุงยังไม่ยุบ อิอิ คุณป้าใจดีทำอาหารอร่อยมากค่อยๆนำเสนออาหารทีละอย่าง ปูนึ่ง ปลาทอด ปลาหมึกไข่เค็ม ไข่เจียวเห็ดนางรม ต้มยำทะเล พล่ากุ้ง อะไรอีกนะ เพียงพลิ้วดูไม่หมด เยอะเกิน คุณลุงดาวทำกาแฟ คุณป้าทำอาหาร พวกเรารอกิน เจ้าของบ้านน่ารักที่สุดค่ะ เพียงพลิ้วก็ถ่ายรูปรอ ได้เวลาทานอาหารแล้ว เพียงพลิ้วกินเจ แต่ก็ทานร่วมโต๊ะกับเพื่อนๆได้ค่ะ ทุกคนดูมีความสุขในการกินมาก น้องกรก้มหน้าก้มตาคุยอย่างเดียว ข้าวหมดไปสามจาน พี่อ้อยกินข้าวเสร็จแกะปูไปอีกสี่ตัว ต่อด้วยไอศกรีม หลักฐานมีอย่างชัดเจน อาหารที่คุณป้าเตรียมสำหรับเพียงพลิ้วที่กินเจอยู่คนเดียว ซุปผักโขม ผัดผักเจ็ดสี สเต๊กเต้าหู้ ทุกเมนูรับประกันความอร่อยค่ะ ไว้ออกเจ เพียงพลิ้วจะไปใหม่นะคะคุณป้าขา ไม่รู้อาหารที่คุณลุงเตรียมให้เยอะแค่ไหน แต่เราใช้เวลากินกันสองชั่วโมงค่ะ เรา(น้องกร พี่กุ้ง พี่อ้อย+กานต์)ลงมติว่าควรจะเปลี่ยนชื่อร้านเป็น ร้านลงพุง หรือร้านล้นพุงค่ะ เพราะว่าเราอิ่มกันทั้งคืนเลยค่ะ ถึงตอนนี้แบตเตอรี่กล้องเพียงพลิ้วหมดพอดี ต่อไปไม่ได้ถ่ายแล้ว ต้องพึ่งมือถือ คุณลุงคุณป้าพาไปไหว้เสด็จเตี่ยบนเขา รองเท้าเพียงพลิ้วขาดที่นั่น (ขาดทุกงาน) คุณลุงพามาซื้อที่หาดเตยงาม แล้วเราก็ร่ำลาคุณลุงคุณพ่อผู้ใจดีและน่ารัก แล้วเราก็ไปไหว้พระต่อที่วัดญาณ แล้วไปต่อที่สวนองุ่น เพียงพลิ้วต้องพึ่งพากล้องพี่อ้อยที่ปานนี้ไม่รู้จะถึงบ้านหรือยัง เสร็จจากสวนองุ่นไม่พอ เรายังมาต่อที่ตลาดน้ำสี่ภาค พัทยา มาถึงก็ค่ำแล้ว เดินดูของเล็กน้อยเราก็กลับกัน อยากให้เห็นสภาพตอนไปกับตอนกลับจัง ตอนมาสวยกันเชียว ขากลับเริ่มหมดสภาพ อิอิ ถึงเวลาแยกย้ายกัน พี่แบมแจกว่านรวยไม่เลิก (ฤกษ์ (ไม่ได้ล็อกอิน)) พี่แบมบอกว่าทุกคนจะปลูกให้งานออกดอกได้ไม่เท่ากัน น้องคนที่นั่งสมาธิคนหนึ่งปลูกแล้วออกดอกบ่อยมาก ทำเอาเราเครียด กลัวต้นไม้จะไม่ออกดอก ของใครออกดอกบอกเพียงพลิ้วด้วยนะคะ อิอิ ทุ่มตรงได้เวลาแยกย้าย น้องกรนำทางพี่ๆไปที่มอเตอร์เวย์ แล้วเราก็แยกทางกันกลับบ้าน น้องกรมาส่งเพียงพลิ้วกับร้อยฝัน แล้วเราก็ไปซื้อตั๋วสำหรับวันนี้ แล้วไปตลาดอาหารอะไรกินกันหน่อย เผื่อหิว ทั้งที่ตอนนั้นยังอิ่มอยู่เลย เพียงพลิ้วกับร้อยฝัน(พี่ช้าง+น้องช้าง)ทานข้าวเย็นด้วยกันและก็พักผ่อน พี่ช้างดูเหนื่อยมาก ปวดขาจากการเดินทางไกล แล้วยังต้องเดินทางกลับ เราเลยนอนไวหน่อย เพียงพลิ้วก็ไปส่งพี่อ้อยขึ้นรถกลับบ้านแล้วมาประชุมต่ออีกสองชั่วโมง แล้วก็มาเขียนบันทึกความประทับใจจากการเที่ยวครั้งนี้ ขอบคุณเพื่อนร่วมทริปทุกท่านค่ะสำหรับความสนุกสนาน สำหรับความทรงจำที่น่าประทับ สำหรับอาหารอร่อยๆ เราได้ทำบุญร่วมกันแล้ว ต่อไปคงได้พบกันอีกค่ะ ^__^