17 กรกฎาคม 2552 11:04 น.
เพียงพลิ้ว
สมัยเรียนมหาวิทยาลัย ฉันมีเพื่อนสนิทหลายคน คนที่สนิทที่สุดก็คือหญิงอ้อ รูมเมทตั้งแต่ปีหนึ่งจนถึงปีสี่ ส่วนคนอื่นก็พักอยู่คนละหอพักในบริเวณใกล้เคียงเดินไปมาหาสู่กันได้ เราส่วนใหญ่เป็นเด็กจากภาคอีสานยกเว้นหญิงอ้อ ลูกไล่ของฉันเองที่มาจากนนทบุรี เราแต่ละคนก็มีนิสัยและพฤติกรรมไปคนละแบบ ทั้งนี้เพราะสิ่งแวดล้อมของเพื่อนแต่ละคนไม่เหมือนกัน เช่น ฉันเป็นคนเกเร พูดตรง ไม่อ้อมค้อม นักเลงโตนิดหน่อย ส่วนหญิงอ้อเรียบร้อยปานผ้าพับไว้ เป็นที่แปลกใจของเพื่อนๆว่า "ทำไมถึงคบกันได้"
"ปูกับซินจะแวะมาบ้านเราเย็นวันพฤหัส ให้เอาเสื้อผ้าไปนอนบ้านเรานะ" อ๋อย เพื่อนสนิทคนหนึ่งที่เรียนด้วยกันและได้ทำงานร่วมกันบอกฉันในเย็นวันอังคาร ความจริงเราสองคนก็ไม่ค่อยลงรอยกันแต่ไหนแต่ไรแล้ว เนื่องจากว่าคุณเธอบำเพ็ญตนเป็นกูรูในทุกเรื่องจนบางครั้งฉันอดขัดคอไม่ได้นั่นเอง แต่ว่าเพื่อนก็คือเพื่อน เราจึงทำความเข้าใจกันได้เสมอ
"อืม แล้วเราจะทำอะไรกันกินล่ะ" นี่แหละฉันตัวจริง ห่วงแต่เรื่องกินเสมอ
"ตำส้มตำแล้วก็ย่างอาหารทะเล ซินบอกจะเอาปลาร้าจากอุบลมาฝาก"
ซินเป็นเพื่อนสนิทคนหนึ่งของฉันที่นิสัยคล้ายๆกัน ชอบเล่นกีฬา พูดตรงๆ แต่ที่แตกต่างกันนักคือซินเป็นคนมีความพยายามมุ่งมั่นสูงมาก ในขณะที่ปูเป็นคนเรียนดี ทะเยอทะยาน พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ไม่ว่าเราจะแตกต่างกันเพียงใด แต่เรายังคบกันได้ น่าอัศจรรย์จริงๆ
เมื่อกาลเวลาผ่านไปตามวัฏจักรของโลก ต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันไปทำงานเมื่อเรียนจบ ฉันมีโอกาสได้พบเพื่อนบ้างนอกจากอ๋อยที่พบเกือบทุกวันก็มีซินและหญิงอ้อที่ไปหามาหาสู่กันบ่อย รู้ว่าจะได้พบปูด้วย รู้สึกตื่นเต้นบ้าง เนื่องจากปูเป็นสาวมั่นมีอะไรให้ตื่นเต้นเสมอ เวลาที่พบกันเธอไม่ละเลยที่จะสอบถามความเคลื่อนไหวของเพื่อนๆ
ฉันเลิกงานเย็นวันพฤหัส อ๋อยก็บอกว่า"ปูกับซินมาถึงแล้ว" สองสาวมารับฉันที่ที่ทำงานแล้วเราก็ไปตลาดกัน สี่สาวแยกย้ายกันซื้ออาหารที่ตนอยากกิน ฉันได้เมนูตำซั่วสูตรดั้งเดิมที่เราเคยกินด้วยกัน และน้ำพริกปลาร้า(ป่นปลาทู) และข้าวจี่ ส่วนอ๋อยได้ผลไม้และอาหารทะเล
เราไปถึงบ้านอ๋อยกันตอนเกือบหกโมงเย็น ไม่รอช้าต่างแยกย้ายกันทำงานตามถนัด คุณนายไฮโซปูล้างผัก ปลอกทุเรียน(บอกว่าอย่าซื้อๆ ก็บอกว่าอยากกิน) โชคดีทุเรียนเหม็นไม่มาก เธอบอกว่าคงเป็นทุเรียนศรีษะเกษ บ้านเธออยู่ศรีษะเกษปลูกทุเรียนไม่มีกลิ่น ซินดี้แอบซื้อชะอมมาแกล้งอีก ตายแน่ๆทั้งทุเรียนและชะอม โชคดีที่อ๋อยก็ไม่ชอบชะอม ซินเลยอดลวกชะอม สมน้ำหน้า อิอิ
บรรยากาศแห่งความเป็นเพื่อนยังเหมือนเดิม สารพัดเรื่อวราวทื่นำมาเล่าสู่กันฟัง แอบจิกแอบกัดกันพอหอมปากหอมคอ จะหาคำหวานจากกลุ่มนี้ คงไม่มีแน่
ความเป็นลูกอีสานของเรายังคงเข้มข้นเสมอ เมื่อเราอยู่ด้วยกันเราพูดภาษาอีสานกัน เมื่อีศัพท์โบราณๆหลุดออกมาจากคนใดคนหนึ่ง ก็จะเป็นที่ขบขันกัน เนื่องจากว่าเราไม่ค่อยได้ใช้คำเหล่านี้บ่อยนักในชีวิตประจำวัน
ซินยังคงความเป็นหนึ่งเสมอในด้านการตำส้มตำ วันนี้ตำซั่วให้กิน ใส่แคบหมู ใส่ผักดองไปด้วย รสชาติเผ็ดปางตาย ฉันกินแต่ตำซั่วไปครกหนึ่งปากเจ่อไปหมดเลย ไม่ยอมกินมะเขือเทศเล่นเอาเพื่อนๆบ่นให้ไม่รู้สึกกินของดี ซินลืมเอาปลาร้าจากบ้านมาฝาก เราเลยได้กินปลาร้าจากตลาด เลยไม่อร่อยเท่าไร สงสัยไม่มีหนอน ปูว่า
ฉันทำน้ำพริกปลาร้าหรือว่าป่นปลาทูให้เพื่อนกิน ปูชอบมากเอาข้าวจี่มาจิ้ม แล้วต่อด้วยข้าวสวย สงสัยว่าคุณนายไฮโซไม่ได้กินอาหารอีสานมานาน
อ๋อย เจ้าของบ้านทำหน้าที่ย่างอาหารทะเล คุณนายปูสาวเก่งจัดการเรื่องเครื่องดื่ม งดเหล้าข้าพรรษา
ทำอาหารเสร็จเราก็นั่งล้อมวงกินข้าวกัน หน้าบ้านนั่งเอง รสชาติอาหารและรสชาติการสนทนาออกรสออกชาติมากขึ้นเรื่อยๆ ถ้าไม่ได้ทำงานวันนี้ สงสัยคุยกันได้ทั้งคืนแน่เลย ปูชอบดูละครวงเวียนหัวใจชอบน้องพิงค์กี้ ส่วนซินกับอ๋อยคุยกันต่ออย่างเมามัน ส่วนฉันเด็กดีอาบน้ำนอนก่อนใคร แต่ยังประทับใจในบรรยากาศการพบเพ่อนเก่าเสมอ
สิบเอ็ดโมงครึ่งส่งสาวๆกลับบ้าน พร้อมคำอวยพรตามธรรมเนียมและเราคงได้พบกันอีกนะจ๊ะเพื่อนๆ