"วันนี้จะทำผัดซีอิ๊ว ทำอย่างไรเหรอ" เสียงทางลพบุรีถามมา แหม ถามถูกคนเสียด้วย "เอาทุกอย่างเทรวมกัน แล้วคนๆให้เข้ากัน" บอกสูตรไปแล้วไม่รู้ว่าจะทำตามหรือเปล่าหนอ "เสน่ห์ปลายจวัก สำคัญนะ" แม่คอยสอนลูกๆเสมอ แต่โชคร้ายจังลูกชายคนโตของแม่เท่านั้นที่ทำอาหารอร่อย "พูดยังกับว่าตัวเองทำอร่อย" เสียงพ่อแซวมา ก็จริงของพ่อนี่นา อิอิ แม่ไม่ค่อยชอบทำอาหาร แต่แม่ขยันทำงานนอกบ้าน เมนูที่อร่อยที่สุดที่ทุกคนเรียกร้องคือ ทดอมันปลาตะเพียนที่แม่ทำนานมากถึง 3 ชั่วโมงกว่าจะได้กิน แต่พอได้ชิมก็รู้สึกว่าคุ้มค่ากับการรอจริงๆ "ไม่อร่อย กินข้าววันละสองจานทุกทีเลย" "แหม ก็แซวไปงั้นแหละ ไม่อร่อยลูกๆจะมีแต่คนอ้วนๆเหรอ" กลับบ้านเมื่อเดือนที่แล้ว เห็นหลานๆกินอาหารอีสานทุกวัน คุณน้าเพียงพลิ้วก็เลยลองทำอาหารฝรั่งให้กินบ้านทั้งที่ๆไม่เคยทำ พ่อก็บอกลองดูๆ วันนั้นแม่ครัวมือใหม่กมือหนึ่งมือตะหลิวหมือหนึ่งถือโทรศัพท์ ถามสูตรจากพี่เหน่งคนสวยอยู่ตลอดเวลา เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน ผลงานออกมาทุกคนบอกอร่อยๆ แต่กินคนละจานเท่านั่น กินเสร็จจะตำส้มตำกินกันบอกว่า กินอะไรก็ไม่เหมือนอาหารบ้านเรา ก็ได้ เดี๋ยวคุณน้าเพียงพลิ้วจัดให้ อาหารอีสานเมนูโปรด ตำถั่ว ว่าแล้วก็วิ่งเข้าสวนครัวของแม่เด็กพริกขี้หนูสุดยอดความเผ็ดและถั่วฝักยาวมากำใหญ่ เปิดดูตู้เย็นสำรวจมะเขือเทศ มีลูกเดียวเอง ไม่เป็นไร เดี๋ยวแสดงฝีมือสุดยอดตำถั่วให้ชิม ว่าแล้วก็ตำพริกสักสิบห้าเม็ด แบบว่าที่บ้านกินเผ็ด ตำถั่วให้แหละพอประมาณ เติมน้ำมะขามแทนมะนาว เพราะว่ามะนาวแพง ใส่น้ำปลา มะเขือเทศ และที่สำคัญที่สุด น้ำปลาร้าและตัวปลาร้า กลิ่นหอมได้ใจเลยทีเดียวปลาร้าบ้านเรา อิอิ ผลงานก็ออกมาเป็นแบบนี้ค่ะ มีของกินคู่ตำถั่วเป็นปลาหมึกแดดเดียวทอด ปลาหมึกนี้น้าแพท เพื่อนสนิทของฉันซื้อไปฝากหลานๆ เสียงหลานๆบอกว่า "นอกจากตำถั่ว ห้ามทำอะไรอีกนะ" เสียงแม่บอกว่า "หนูล้างจานน่ะดีแล้วลูก" อิอิพ่อยังบอกอีกว่า "ขนาดล้างจานยังจานแตกเลย อยู่เฉยๆดีกว่า" อะไรจะสบายปานนั้นเพียงพลิ้ว พี่สาวที่น่ารักเห็นอาหารไม่เข้าตาม ก็ทำเมนูสุดโปรดของน้องสาวมาแจม ฉันชอบกินแกงหน่อไหม้ดอง(หน่อไม้ส้ม)ใส่ไก่ที่สุดเลยอร่อยมากินคนเดียวไปตั้งเยอะเลย มิหนำซ้ำแย่งกินตับไก่กับหลานอีกด้วย อิอิ เสน่ห์ปลายจวักนี่ฝึกได้จริงๆด้วย เมื่อก่อนพี่สาวของเพียงพลิ้วทำอาหารไม่เป็นเลย เดี๋ยวจืดเดี๋ยวเค็ม แต่ตอนนี้เป็นแม่ครัวประจำหมู่บ้านเลยทีเดียว กลับบ้านทีไรน้องสาวถึงได้น้ำนึกขึ้นพรวดๆ เฮ้อก็มีอร่อยนี่นา หลังจากกลับบ้านมา ฉันก็เข้าครัวมากขึ้น ด้วยความความหวังว่าหลานจะได้ขอเติมสปาเก๊ตตี้ฝีมือฉันบ้าง อิอิ ไม่ได้หวังมีเสน่ห์ปลายจวักหรอกค่ะ ขอแค่หลานๆจะเลิกบอกว่า "ให้แม่ทำดีกว่า" อิอิ
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นสิบโมงเช้าวันแรงงาน ฉันกำลังฝันหวานอยู่เลยเชียว จำเป็นต้องตื่นขึ้นมารับโทรศัพท์คุณแม่ที่โทรมาปลุกทุกวันหยุดด้วยเกรงว่าลูกสาวจะนอนเยอะเกินไป "เดี๋ยวอ้วน" คุณแม่บอกอย่างนี้ ลูกสาวอ้วนแล้วยังจะกลัวอ้วนอีก น้องชายแซวอยู่บ่อยๆ คุยกับคุณแม่แล้วนึกขึ้นมาได้ว่าวันนี้คุณเฌอมาลย์จะมาเที่ยวพัทยากับครอบครัว แต่ตอนนี้คงยังมาไม่ถึง ยังพอมีเวลาทำงานบ้านอยู่ ว่าแล้วก็รีบลงมือเลย ทำงานบ้านได้สักพักก็หิว จึงต้มมาม่าใส่หมูสับกับกะหล่ำปลี ท้องอิ่มหนังตาจะหลับอีกแหละทั้งๆที่เพิ่งตื่น ก็เลยหยิบหนังสือคู่สร้างคู่สมฉบับล่าสุดที่พี่เหน่งสุดสวยฝากซื้อมาอ่านก่อน อ่านแต่ดวงคงไม่สึกหรอหรอกมั้ง แอบคิดในใจ ตรวจดูชะตาดูสักหน่อย ดวงความรักกับการเงินจำไม่ได้ จำได้ว่า "จะมีลาภจากผู้ใหญ่ทางไกล แต่ไม่ใช่เงินทอง อาจจะเป็นจูบเบาๆ" นึกในใจว่าเพิ่งกลับบ้านมายังไม่ได้กลับบ้านเร็วๆนี้สักหน่อย และคุณแม่คงไม่มาหรอกช่วงนี้ ใครน้อจะมาจูบ อิอิ เที่ยงแล้วปานนนี้คุณเฌอมาลย์เธอคงมาถึงแล้วโทรไปหาสักหน่อย คุยกันได้ความว่า มาถึงแล้วอยู่จอมเทียน อยู่ตรงตึกสูงๆ มีต้นตาลคู่ แล้วโทรศัพท์ของฉันก็ถูกตัดไปทั้งที่เงินและวันในโทรศัพท์ยังไม่หมดสักหน่อย เป็นงงเลย จะหากันเจอไหมวันนี้ แล้วคุณนายเธอก็โทรมาบอกว่า ตอนนี้"นอนอยู่เต๊นท์สอง เต๊นท์แรกเป็นฝรั่ง" เสียงผู้ชายแทรกเขามาว่า "อยู่หน้าต้นตาลคู่ มีตึกสูง" เสียงใครหนอ ไม่ใช่เสียงพี่เขยคุณเธอสักหน่อย ต้องรีบไปจะได้รู้ว่ามากับใคร อิอิ "สักพักกานต์จะไปหาค่ะ" "มาเลย มาแล้วพี่เลี้ยงเอง" เสียงนี้จำได้ว่าเสียงพี่เดือนพี่สาวของคุณเฌอมาลย์นั่นเอง พี่เดือนใจดีเสมอเลย ว่าแล้วก็รีบแต่งตัวรีบไปทำธุระให้เสร็จแล้วรีบไปหาคุณเธอดีกว่า เพื่อนๆก็หนีไปเที่ยวระยองกันหมดเลย ชวนใครไปด้วยก็ไม่ได้ นั่งมอเตอร์ไซด์ไปดีกว่า เร็วดี "ไปจอมเทียนค่ะ" "80 บาทครับ" ว่าแล้วก็ใส่หมวกกันน็อคซิ่งกกันเลยค่ะ แดดร้อนทีเดียววันนี้ รถก็ติด ซึ่งเป็นธรรมดาของพัทยาในช่วงวันหยุด คนขับมอเตอร์ไซด์ถามว่าจะลงช่วงไหน บอกเขาว่าตรงที่มีต้นตาลคู่กับตึกสูงท้ายหาด แต่พอไปถึงต้นหาด ฉันก็ตาดีเหลือเกินแอบมองเห็นตึกสูงและตาลคู่ริมถนนพอดี ถนนริมหาดรถก็ติด แดดก็ร้อน ก็เลยบอกให้มอเตอร์ไซด์จอด แล้งจะลงเดินหาเอง คงไม่ไกลเท่าไร เดินไปได้สิบนาทีก็ยังไม่มีวี่แววจะกับคู่อริทั้งที่กวาดสายตามองอย่างละเอียด จะโทรหาก็โทรออกไม่ได้ กลุ้มใจจัง มองไปตรงไหนก็มีตาลคู่เต็มไปหมด แงๆๆๆ จะได้เดินอีกนานไหมเนี่ย และแล้วเหมือนสวรรค์จะเห็นใจ คุณเธอโทรมาบอกว่าใกล้ถึงยัง นั่งรอนานแล้วนะ เขาจะขื้นเรือกันหมดแล้ว รออยู่คนเดียว "แล้วนั่งอยู่ตรงไหนล่ะ" "ตอนนี้อยู่หน้าธนาคารไทยพาณิชย์ แถวนั้นมีรึเปล่า" "ไม่ใช่ เดินมาเจอร้าน Sinata แล้วก็ธนาคารกสิกรไทย แล้วก็ร้านหมอฟัน แล้วก็จะเจอตาลคู่กับตึกสูง" "ตาลคู่อีกแล้วนี่เห็นมาหลายคู่แล้วนะ ฮ่วย" อันนี้บ่นในนี้นะคะ "ถ้างั้นถ้าอีกสิบนาทีไม่เจอกัน โทรมาอีกนะคะ กานต์โทรออกไม่ได้ค่ะ" "ได้ รีบมาแล้วกัน เขาจะขึ้นเรือกันแล้ว" ยังอุตส่าห์ห่วงว่าจะไม่ได้สนุกกับเขาอีกแน่ะ ขอบคุณมากค่ะ เดินๆ ร้อนๆ ตาก็มองๆ มือก็หิ้วมะม่วงไปขายสวน หนักๆ เดินมองรอบๆยังไม่เจอเป้าหมาย เดินมาได้สามสิบนาทีแล้ว โอย ร้อนจัง เหงื่อก็เริ่มตก "ถึงไหนแล้ว เรือจะออกแล้วนะ" "ไม่ต้องรอแล้วค่ะ ให้เขาเล่นกันเลย" ขอบคุณจริงๆค่ะที่รอกานต์ น่ารักกันทั้งบ้านเลยบ้านนี้ "แล้วอยู่ตรงไหนล่ะคะ" "เขาบอกซอย 12" โอยน่าจะบอกตั้งแต่แรกนะคะ จะได้ลงรถตรงนั้นเลย จะได้ไม่ต้องมองหาตึกสูงตาลคู่ ว่าแล้วก็ถามแม่ค้าส้มตำว่าตอนนี้หนูอยู่ไหนคะ อิอิ "ซอย 11" คือคำตอบ "เดินผ่านธนาคารและตึกสูงอีกสองตึกก็ถึงแล้ว" โอย ตึกสูงอีกแล้วเหรอนั่น "เดินมาเลยนะคะเต๊นท์ที่สอง นั่งอยู่เก้าอี้แถวแรก" นั่นยังไม่วายบอกทางอีก ใจฉันชื้นขึ้นมาหน่อย อีกแค่ซอยเดียว แต่ที่ไหนได้ ซอยหนึ่งห่างกันเป็นกิโล ได้ออกกำลังกายโดยไม่ตั้งใจอีกแล้ว อิอิ เย้ นั่นไงเต๊นที่ 1 มีฝรั่งนั่งอยู่ เอ แล้วเต๊นท์ไหนไม่มีฝรั่งเนี่ย เสียงคุณเธอบอกว่าเจอเราแล้ว แต่เราสิยังไม่เจอคุณเธอเลย เดินไปอีกหน่อย เป็นเวลาสี่สิบนาทีพอดีเลยที่ฉันเดิน เห็นพี่กบโบกมือให้ คุณเฌอมาลย์นั่งหันหลังให้อยู่ ค่อยยังชั่วหน่อย ก็ทักทายกันตามประสาคนคุ้นเคย แอบมองเจ้าสองเสียง"ต้นตาลคู่ ตึกสูง"เสียหน่อย อ้อ คนขับรถตู้นั่นเอง บอกทางเสียงงเลย อิอิ นี่ไง ตึกสูง ตาลคู่ เจ้าปัญหา เหอๆหาตั้งนาน "กินอะไรดีกานต์" พี่กบ พี่สะใภ้คุณเฌอมาลย์ถาม บ้านนี้ใจดีทั้งบ้าน บอกแล้ว น่ารักจริงใจมีอะไรว่ากันตรงๆ ดูเหมือนจะเป็นกรรมพันธุ์ "กานต์กินน้ำเปล่าก่อนค่ะ" แบบว่า เหนื่อยอ่ะ อิอิ จอมโวยวายก็รู้ใจคอยเทน้ำใส่แก้วให้เป็นระยะ พร้อมกับคำว่า "สมน้ำหน้า เจ้าถิ่นยังไงมาไม่ถูก" "ขอบคุณค่ะ ชื่นใจดีจัง" "พี่สั่งข้าวผัดกุ้งไว้ให้แล้วล่ะ" พี่กบบอก "ขอบคุณมากค่ะ" ว่าแล้วก็ดื่มน้ำต่อ อิอิ สักพักข้าวผัดกุ้งก็มา "อร่อยไหม อร่อยเหมือนจานแรกไหม" พี่กบชิม แล้วบอก "อร่อย" สักพักข้าวผัดจานใหญ่ก็มาถึง พี่กับกับคุณเฌอมาลย์ขอมาเป็นกับแกล้มคนละจาน(เปล) อิอิ พอท้องอิ่มสายตาก็กวาดมองรอบโต๊ะหาร่อยรอยความเสียหาย เหล้ารีเจนซี่หมดไปประมาณสองขวดแล้ว เหล้า 100 pipers อีก 3 ขวด โหมากันไม่ถึงครั่งวันกินกันไปขนาดนี้เลยเหรอ มองออกไปทะเล เห็นพี่ๆน้องๆกำลังจะเล่นบานาน่าโบ๊ทกัน มีเจ้าที่มาที่โต๊ะแล้วบอกว่าคนขับเรือเจ้านี้นิสัยไม่ได ชอบโกงเวลา ทำไมไม่รอที่เขาหาให้ คุณจอมโวยวายกลัวเสียเปรียบเรือ วิ่งตาตั้งรอหาดไปหาพรรคพวกบอกว่าให้ดูเวลาได้ นึกขำในใจงานนี้เธอลงทุนวิ่งเองเลยแฮะ พี่กบว่าขาขึ้นคงหอบแฮกเลยเนาะ อิอิ จริงๆด้วยกลับมาหอบแฮกเลย กินไปกินมา พี่กบตาลาย หาว่าฉันกินเหล้าจะให้กินเหล้าด้วยอีก ดีนะมีพยานว่าไม่ได้กินเหล้า กินเป๊บซี่ ดีนะที่ไม่กินได้กลับลพบุรีกับเฌอมาลย์แน่เลย เราสองคนมาห้องน้ำหน้าตึกสูงกันเลย ได้ชมตึกสูงใกล้ๆ แล้วถ่ายรูปไว้ซะเลย หายากนักนะ ฮึ สักพักพี่เดือนและพรรคพวกก็มาถึง พี่เดือนเล่าถึงความสนุกสนานในการเล่นบานาน่าโบ๊ทให้ฟัง พี่เดือนคงสนุกมาก พูดถึงวีรกรรมตนเองไปน้ำตาไหลไปด้วย คนฟังขำกันใหญ่เลย พี่เดือนบอกว่าฉันอ้วนขึ้น อยากให้ลดลงสักสองกิโล เจอคราวก่อนน่ารักแล้ว ที่บอกเพราะเรารักกันนะ ขอบคุณมากค่ะพี่เดือน ส่วนพี่กบกับคนขับรถปล่อยมุขอะไรก็ไม่รู้ เกี่ยวกับกะเพราไก่ดาวนี่แหละ ฟังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไร แต่คงตลกมากเลย เห็นพี่กบพูดทีไรหัวเราะทุกที ส่วนคุณนายเฌอมาลย์คงเมื่อย อยากนวดแขนนวดไหล่ เห็นโต๊ะข้างๆนวดยิ่งอยากนวด พอเขานวดเสร็จก็ให้พี่กบเรียกไปถามว่า "นวดดีไหม" โชคดีที่เขาไม่ได้ยิน อิอิ แต่ในที่สุดเธอก็ได้นวดสมใจ พี่เขยที่น่ารักของเธอมาถึงก็เล่าให้ฟังว่า "นอนไม่หลับเลยไปเดินเล่น เลยโดนจับ จ่ายไปสองร้อย" เสียงฮือฮาจากในโต๊ะว่าไปทำอะไรให้โดนจับ "หมอจับเส้น" เท่านั้นแหละ ฮากระจาย อิอิ ห้าโมงครึ่งแล้ว ได้เวลากลับบ้านแล้ว ต่างก็ช่วยกันขนของขั้นรถ ก่อนขึ้นรถพี่เดือนก็กอดฉัน หอมแก้มฉัน อ้าวคำทำนายเป็นจริงเสียแล้ว ได้จูบเบาๆจากญาติผู้ใหญ่ อบอุ่นจังเลย "พี่เดือนไปกอดมันทำไม" จอมโวยวายโวยตามคอนเซ็ป อิจฉาเขาล่ะสิ อิอิ "กอดมัน มันน่ารักไอ้คนนี้" พี่เดือนบอก "ขอบคุณมากค่ะพี่เดือน" "เมื่อไรจะไปลพบุรีอีก เมื่อไรจะได้กินขนม" เสียงพี่เดือนถาม "ปลายปีค่ะ ไปตอนทานตะวันบานค่ะ " ฉันได้นั่งเพราะจะลงตรงพัทยากลาง ซึ่งเป็นทางผ่านพอดี รถติดตามเคยเพราะผู้คนต่างทยอยกลับบ้าน เสียงบอกแวะปั๊มเข้าห้องน้ำตั้งแต่อยู่จอมเทียน อิอิ ก็กินน้ำเข้าไปกันเยอะขนาดนั้นไม่เข้าห้องน้ำยังไงไหว แต่กว่าจะได้เข้าก็พัทยาใต้นั่นแหละเพราะว่าเลยปั๊มบ้าง เข้าปั๊มไม่มีห้องน้ำบ้าง ก่อนกลับยังพากันซื้อรีเจนซี่กับ100 pipers ขึ้นรถไปอีก พอขึ้นรถได้ก็ร้องพลงกันเสียงดังพอสมควรเลยแหละ น่าสนุก ถ้าไม่ทำงานวันนี้ สงสัยกลับลพบุรีด้วยแน่ๆเลย เย้ ถึงบ้านแล้ว ร่ำลากันแล้วก็จากกันไปเพื่อมาพบกันใหม่เดือนหน้า เสียงรายงานจากลพบุรีว่าถึงบ้านเที่ยงคืน เพราะจอดเข้าห้องน้ำตลอดทาง ร้องเพลงกันตลอดทางเลย รวมๆแล้วหมดรีเจนซี่ 3 ขวด 100 pipers อีก 5 ขวด โหไม่เสียชื่อจริงเลยนะคะ อิอิ เดือนหน้าเจอกันใหม่นะคะเฌอมาลย์ ที่นี่เลย พร้อมปู 3 กิโล ตามคำสัญญาค่ะ