31 กรกฎาคม 2552 14:10 น.
เพียงพลิ้ว
ฟ้าสีทึมครึ้มฝนคนสะบั้น
ความผูกพันรอบกายคล้ายอยู่ห่าง
เหมือนไร้แล้งแรงใจในเส้นทาง
ดั่งเคว้งคว้างสิ้นหลักพักพึ่งพา
เหมือนเหนื่อยหน่ายคล้ายท้อต่อทุกสิ่ง
หวังแอบอิงไมตรีอันมีค่า
มองทางใดไม่เห็นเซ่นน้ำตา
ยิ่งอ่อนล้าอ่อนไหวใจอ่อนแอ
ฝากคำถามข้ามฟ้ามาทักท้วง
เอาความห่วงโหยหามาตีแผ่
เห็นคุณค่าบ้างไหมในรักแท้
หรือเพียงแค่รู้จักแล้วลักเลือน
รู้สึกดีต่อกันในวันก่อน
ยังอาทรคงมั่นหรือผันเคลื่อน
ค่อนคืนเพ้อละเมอความถามดาวเดือน
วอนฟ้าเตือนหนึ่งใจห่วงใยกัน
คะนึงครวญหวนคำเคยฉ่ำกรุ่น
ไว้เป็นทุนเติมแรงแห่งไฟฝัน
ยังสวยสดงดงามความผูกพัน
แต่ทางนั้นยังเหลือดอกเยื่อใย?
ขอคำตอบปลอบขวัญในวันเหงา
หวังบรรเทาอาการฟุ้งซ่านได้
เพียงกระซิบทุกสิ่งอย่างจริงใจ
อาจร้องไห้หรือยิ้มออกเชิญบอกเลย
15 กรกฎาคม 2552 08:27 น.
เพียงพลิ้ว
ด้วยหัวใจโลดแล่นขาดแก่นสาร
ร้าวทรมานอยากมีรักให้พักฝัน
คอยไถ่ถามตามหามานานวัน
มอบรักนั้นแด่หนึ่งใครไม่เลือนลา
สุดห้วงใจได้รักอย่างหนักแน่น
มิเคยแคลนไฟฝันพันห่วงหา
อุ่นสายใยไมตรีกล่อมชีวา
ปรารถนาสัมผัสรักรัดรึง
คือความหมายประกายฝันอันหวานฉ่ำ
คือรอยจำดวงจิตเฝ้าคิดถึง
คือรู้สึกลึกล้ำร่ำติดตรึง
คือคำนึงจากคนนี้มีต่อใคร
รักแสนรักหนักหนาแต่คราเริ่ม
คอยเติมแต่งห่อห่มอารมณ์ไหว
เพียงแต่เธอผู้เดียวขอเกี่ยวใจ
รักมอบให้ทั้งหมดจรดดวงมาน
ความรักนี้มีใครซึ้งไหมหนอ
หรือต้องรอพึ่งพาปาฏิหาริย์
หวั่นกระอักไฟรักมอดตลอดกาล
คนสงสารเห็นใจเกรงไม่มี
พรมพร่างคำร่ำหอมกล่อมเรือนขวัญ
ขอเกี่ยวพันความหมายอย่าหน่ายหนี
ขอสัมผัสสัจธรรมรักนำชี้
ปลูกไมตรีดอกรักหวานบานหรือโรย
7 กรกฎาคม 2552 08:30 น.
เพียงพลิ้ว
หากฝืนจักยิ่งช้ำ.........................ใจเอ๋ย
รับว่ามิเหมือนเคย......................ห่างแล้ว
ไหวหวานผ่านควรเฉย...............อกนิ่ง
นับแต่วันคลาดแคล้ว..................ดิ่งห้วงอดีตกาล
จมภวังค์จ่อมเศร้า.......................นานวัน
ฟันฝ่าความผูกพัน.......................ยากข้าม
ขัดขืนด่านความฝัน......................พลาดท่า
ตระหนักควรหักห้าม.....................หยุดเพ้ออาลัย
คงเป็นได้เท่านี้............................ความหลัง
นับแต่นาทีชัง..............................ซ่อนหน้า
เหมือนเดิมมิคาดหวัง...................คืนที่
เจ็บบ่อยหมดความกล้า.................เหนี่ยวรั้งใจคน
ความเป็นไปแต่ต้น......................จนจบ
เพียงแค่มิอาจลบ..........................รักร้าว
วันคืนที่ประสบ.............................ชัดแจ่ม
ยากยิ่งถอนตัวก้าว.......................หลุดพ้นสิเนหา
ถึงเวลารับรู้..................................ความจริง
ไออุ่นเคยแอบอิง..........................เหือดแห้ง
เพียงตนพึ่งพักพิง...........ปลอบกล่อม ขวัญเอย
เคืองขุ่นสววรค์แกล้ง.............เท่านั้นโศกศัลย์
วันฝนลาสั่งฟ้า..............................มาถึง
ปลดปล่อยใจรำพึง........................ร่ำไห้
อาลัยแด่รักขึง...............................ปลายแผ่ว
โอดพร่ำทำใจได้...........................เยื่อสิ้นใยสูญ
3 กรกฎาคม 2552 14:03 น.
เพียงพลิ้ว
อารมณ์เพี้ยนเปลี่ยนย้ายหลายกระแส
ใจปรวนแปรหลายทางช่างสับสน
เหมือนเข้มแข็งแกร่งกล้าคำปรารมภ์
คล้ายเป็นคนอ่อนไหวในท่าที
ขี้น้อยใจไร้เหตุผลขี้บ่นด้วย
รูปไม่สวยน่าเมินเดินจากหนี
สิ่งที่เห็นเป็นอยู่ดูไม่ดี
เป็นคนมีสมญาว่าบงการ
บัญญัติกฎกำหนดไว้ให้ใครอื่น
ผู้ขัดขืนกระเด็นเป็นทางผ่าน
ห้าม ห้าม ห้าม ท่องคำสุดชำนาญ
มิอ่อนหวานน่าถนอมเป็นจอมใจ
คอยติดตามความเป็นอยู่ไม่รู้จบ
แต่แรกคบถามอยู่นั่นรักฉันไหม
จู้จี้อยู่เคียงข้างอ้างห่วงใย
ยามห่างไกลฝากลมถามข้ามขอบฟ้า
หัวเราะรื่นชื่นใจใครเป็นห่วง
คนหึงหวงเอิบอิ่มยิ้มเปื้อนหน้า
สะอื้นไหวใครเมินเกินอัตรา
สุดเริงร่ายามเราเข้าใจกัน
ฉันเป็นฉันอย่างนี้ที่ได้เห็น
พอจะเป็นได้ไหมคนร่วมฝัน
มีรักจริงอิงไว้ให้ผูกพัน
ยอมรับฉันได้ไหมหัวใจเธอ