6 กุมภาพันธ์ 2550 07:37 น.
เพียงพลิ้ว
รื่นอารมณ์พรมหยอกดอกไม้สวย
รื่นระรวยมาลีหลากสีสัน
รื่นนาสิกบุปผานานาพันธุ์
รื่นชีวันช่อบานตระการตา
หอมโมกขาวใบดกปกดอกซ่อน
หอมขจรกรุ่นตลบสบนาสา
หอมอ่อนช้อยมิรู้จางร้างโรยรา
หอมยิ่งกว่าดอกใดได้สำแดง
กุหลาบรินกลิ่นปรุงยามรุ่งสาง
หยดน้ำค้างวาววับคราวจับแสง
ขอโทษด้วยลืมพ่นยาฆ่าแมลง
ใบเว้าแหว่งด้วยภัยเพลี้ยน่าเสียดาย
มะลิพุ่มกลุ่มใหญ่ในสวนศรี
เขียวขจีกิ่งไสวใบมากหลาย
ใส่ปุ๋ยเกินจึงออกดอกประปราย
แต่มิวายส่งกลิ่นประทิ่นใจ
จำปีจำปาอวลช่างหวนหอม
ถูกดมดอมคลอเคล้าเจ้าเจ็บไหม
ดินเป็นกรดรดน้ำน้อยเกินไป
ดอกมิใหญ่งดงามตามที่ควร
ชื่นกลิ่นหวามตามลมพรมพัดผ่าน
ชื่นดวงมานช่อดอกชูอยู่เต็มสวน
ชื่นมิ่งไม้พืชพันธุ์สุดรัญจวน
ชื่นหมู่มวลสุมามาลย์หวานอารมณ์
หวานหัวใจได้ชมดมบุปผา
หวานอุรารวยรื่นลืมขื่นขม
หวานวาสนาคราใดได้สูดดม
หวานยามชมชื่นผกาชีวางาม
2 กุมภาพันธ์ 2550 07:36 น.
เพียงพลิ้ว
คิดถึง
ซาบซึ้งบ้างไหมในความหวาน
หรือเพราะเพียงพร่ำอย่างชำนาญ
จึงผ่านเหมือนลมพรมชั่วคราว
ห่วงหา
ปลายฟ้าฝากใจไปถามข่าว
อบอุ่นหรือเคืองในเรื่องราว
คงร้าวหากชังรังเกียจกัน
อาทร
คำอ้อนจัดวางไว้กลางฝัน
รับไว้เคียงข้างแทนรางวัล
กำนัลให้เสมอเธอแสนดี
รักมาก
ขอฝากความหมายอย่าหน่ายหนี
ขอพรอ้อนฟ้าโปรดปรานี
พรุ่งนี้สมหวังดังใจวาด
1 กุมภาพันธ์ 2550 07:30 น.
เพียงพลิ้ว
ปวดขมับรวดร้าว..............แทบตาย
ฝันใฝ่ถึงมิวาย........................ห่วงล้น
นอนซมป่วยทางกาย.............ใจเปื่อย
เจ็บกว่าขาแพลงซ้น...............ลื่นล้มวันวาน
เสมือนกายใจรุ่มร้อน............ไฟสุม
รักผ่าวระอุรุม.........................กร่อนเนื้อ
พิษไข้ไล่กอบกุม..................อกแน่น
โรคแข่งรักพ่นเชื้อ................อ่อนล้าทรมาน
เจ็บป่วยเพียงแค่แพ้...............ฟ้าดิน
มิว่าง ณ ดวงจินต์...................จึ่งไข้
โหยหาเร่าถวิล.......................หวงห่วง
รักห่างยากครองได้...............ร่ำร้องป่วยการ
กายอ่อนแอเกิดด้วย..............อากาศ
ใจพ่ายพิษ สวาท..................ยากแก้
วาบไหวหวั่นพลั้งพลาด...........ผวาตื่น
ผสานจิตต่อรักแท้...................สร่างไข้มิหมาย