28 กุมภาพันธ์ 2550 09:06 น.
เพียงพลิ้ว
ความรักของสาวหนุ่มน่ากลุ้มจิต
หวั่นแรงฤทธิ์หึงหวงบ่วงตัณหา
คนสูงวัยใจดีมีเมตตา
คนชรารักเถิดจักเชิดชู
มีคนแก่ดูแลใจไม่หน่ายหนี
วาจามีมนต์ขลังฟังรื่นหู
มีคนเฒ่าเฝ้าแนะและเป็นครู
สอนให้รู้สิ่งไหนใคร่ควรทำ
คนชราน่ารักเป็นหนักหนา
มีเมตตายามเศร้าเล่าเรื่องขำ
เตือนให้มีชีวิตงามตามเพลงกรรม
ค่าสูงล้ำเป็นบุญใจที่ได้เจอ
เห็นคนแก่แค่เห็นใจเต้นตึก
แรกรู้สึกอยากเคียงคู่อยู่เสมอ
คนชราหาได้ให้ปรนเปรอ
คอยเสนอสนองดั่งต้องการ
คนผมหงอกหยอกใจไม่ปล่อยเหงา
ผมดอกเลากล่อมเพลงบรรเลงหวาน
วาดอารมณ์บ่มรักอย่างดักดาน
ขอพบพานไอรักอาบตราบวายชนม์
คนสูงวัยใจดีมีธรรมะ
มีสาระขอบเขตของเหตุผล
มีทีเด็ดมัดทรวงดวงกมล
รักเหลือล้น..ทรัพย์สมบัติ..จัดใส่พาน
27 กุมภาพันธ์ 2550 07:39 น.
เพียงพลิ้ว
ไปหาหมอรักษาอาการไข้
วินิจฉัยสั่งยาตำราหลวง
ยาหมดแล้วยังแปลบแสบในทรวง
ยังคงห่วงคนไกลไม่วายเว้น
ป่วยกายหาย....ไข้ใจไม่ยอมสร่าง
ยาทุกอย่างกินมามากหายยากเข็ญ
ว้าวุ่นว้างอย่างนี้ที่ใจเป็น
แสนลำเค็ญโรคร้ายทำลายใจ
น้ำตานวลครวญครืน...สะอื้นอก
อ่อนสะทกสะท้านวาบหวานไหว
ผสานจิตติดตรึงคิดถึงไกล
ด้วยพิษไข้เฝ้าคิดคล้ายติดยา
กายสร่างไข้ใจยังโศกหญิงโชคร้าย
คำนึงสายสัมพันธ์หมั่นห่วงหา
หึงหวงคนไม่รู้อยู่ไกลตา
วานลมฟ้าหอบใครให้มาคลอ
หัวใจเหงาเฝ้าพิไรไห้โหยหา
ได้โปรดมาเยี่ยมบ้างอย่างร้องขอ
คนป่วยใจวอนไกลตามาพะนอ
แค่นี้พอโรคเร้น......เห็นหน้าคุณ
โรคร้ายนี้พึ่งพายาวิเศษ
ด้วยมีเวทย์มนต์ขลังพลังหนุน
บอกด้วยเสียงจากใจละไมละมุน
รักอุ่นอุ่นคือยารักษาใจ
23 กุมภาพันธ์ 2550 08:36 น.
เพียงพลิ้ว
ลมกรีดเล็บเก็บดอกหญ้ามาจุมพิต
เด็ดเชยชิดชมสีคลี่กลีบใส
ลมสะบัดพัดหนอนหวังชอนไช
พลิ้วโบกไล่แมลงปอล้อดอกงาม
ดอกหญ้าเอียงกลีบนิ่มพริ้มตาหลับ
เพลิดเพลินกับลมพลิ้วหวิวไหวหวาม
ซึ้งพระพายหมายคู่อยู่ทุกยาม
เอนโอนตามลมชื่นรื่นกำนัล
ลมละลิ่วผิวเพลงบรรเลงกล่อม
ดอกหญ้าน้อมรับธรรมชาติไปวาดฝัน
ใจปลาบปลื้มดื่มด่ำลมรำพัน
คำคัดสรรมาล้อต่อผกา
ดอกหญ้าอ้อนวอนลมพาชมโลก
วานลมโบกเกสรฟ่องท่องเวหา
กุมหัวใจเกาะเกี่ยวเที่ยวนภา
ชมพฤกษากลิ่นระรวยสวยละลาน
ยามลมร้างยิ้มลออรอลมพัด
คอยสัมผัสสำเนียงเสียงลมหวาน
ดอกหญ้าน้อยคอยลมพรมดวงมาน
เพียงพลิ้วผ่านเย้าหยอกดอกยิ้มปราย
เป็นดอกหญ้าของสายลมคอยชมชื่น
สุขทุกคืนลมถามฝากความหมาย
หายวังเวงเพลงผิวพลิ้วผ่านกลาย
เพลงพระพายแผ่วซึ้งตรึงดวงแด
22 กุมภาพันธ์ 2550 07:40 น.
เพียงพลิ้ว
ทำตาปรอยอย่างไร้................เดียงสา
ของเล่นยามรับมา..................ตื่นเต้น
หัวเราะไม่มารยา...................เริงรื่น
หน้าชื่นมิเคยเร้น..................เมื่อได้ดังใจ
หิวอาหารร่ำไห้........................งอแง
ฝันใฝ่ใครดูแล........................เรียกร้อง
เบิกบานดั่งดวงแข...................ยามรับ รักเอย
ดิ้นด่าวคราวขัดข้อง..................ขุ่นขึ้งมิสมปอง
รู้สึกบริสุทธิ์แท้.........................เด็กเอย
เติบใหญ่มิหาญเปรย................เอ่ยอ้าง
รักเกลียดไม่กล้าเผย................เก็บซ่อน
ผิดถูกยังคงค้าง.........................เอ่อล้นดวงมาน
พัฒนาการผ่านพ้น.....................วัยเยาว์
หมองหม่นจำทนเอา....................ต่อสู้
แอบนัยดั่งคนเขลา.....................กอดแน่น
ดีชั่วใจตนรู้................................แค่นั้นเพียงพอ
20 กุมภาพันธ์ 2550 10:58 น.
เพียงพลิ้ว
ดึกร้าว....หนาวน้ำตาอุราคว้าง
อุษาสางยังไม่หลับลงกับหมอน
อยากตัดใจสิ้นคำว่า..อาวรณ์
อยากลิดรอนเยื่อใยคนไม่พอ
คนสุดท้ายไม่อาจเป็นเช่นวาดหวัง
เจ็บเจียนคลั่งรักหวานหยุดสานต่อ
ไม่เคยเห็นน้ำใจใครคนรอ
คนคอยท้ออยากหลบพ้นคนไม่จริง
รักไม่งามเพราะความต่างห่างองศา
คำก่อนลาเธอฝากไว้ในใจหญิง
น้ำตาหยดอดสูผู้ถูกทิ้ง
มิอาจนิ่งต่อเหตุผลคนใจร้าย
เวลาล่วงดวงใจไม่เคยจบ
ยากจะลบแม้นรักไปไร้ความหมาย
ดึกผวาอาทรมิคลอนคลาย
เสมือนคล้ายจำนนคนไม่แคร์
ระลึกซ้ำบ่อยบ่อยรอยอดีต
ดั่งถูกกรีดด้วยคมวาทเป็นบาดแผล
ลวงให้รักแล้วเร้นไปไม่ดูแล
ขอยอมแพ้น้ำใจคนไม่รัก
อยากอยู่อย่างเจียมตนไม่ด้นฟ้า
ยอมรับว่าชีวิตติดกับดัก
แม้นคนไกลไม่รู้ค่าคำว่า ภักดิ์
ยังตระหนักรักล้นคน(ไม่)ดี