25 มกราคม 2550 11:06 น.
เพียงพลิ้ว
อยากหนุนแขนแทนหมอนก่อนหลับไหล
รับอุ่นไอสักหน่อยค่อยฝันหวาน
คงฝันดีหลับสนิทนิทรานาน
คีตกานต์แห่งใจได้มาเยือน
ความคิดถึงคนดีมีเสมอ
ห่วงใยเอ่ออกนิ่ง...จริง...เสมือน
เฝ้าปรารมภ์พรมเอ่ยมิเคยเลือน
เป็นมากกว่าพี่เพื่อน....มิตรเรือนใจ
สายลมร้อนตอนมีนาพัดพารัก
มาทายทักจนเตลิดอกเพริดไหว
กอดหมอนอุ่นคล้ายสนิทแนบชิดใจ
คิดการณ์ไกลผูกพันฝันลมลม
ธันวากลายสายลมหนาวแต่ผ่าวอก
รักรุมรกปลาบปลื้มลืมขื่นขม
คิดถึงซ้ำบ่อยบ่อยรอยคารม
สายฝันพรมไออุ่นละมุนทรวง
ฝากหัวใจใส่หมอนที่นอนข้าง
วอนคนไกลกอดบ้างอย่างห่วงแหน
หนทางไกลได้เพียงพรอดกอดหมอนแทน
หากมอบแขนให้หนุนเป็นบุญแล้ว
รินกลิ่นกล่อมหอมโชคโมกแห่งรัก
นำความภักดิ์ใสผ่องของนางแก้ว
พร้อมคิดถึงห่วงใยไม่ผิดแนว
ไร้วี่แววรักจางจากทางใจ
24 มกราคม 2550 07:29 น.
เพียงพลิ้ว
ยางหัวใจไม่มีเท่าที่ทราบ
ไอรักอาบทำทุกอย่างเพื่อสร้างฝัน
ร้อยคมคำนำเสนอเปรอกำนัล
คิดถึงลั่นไม่เบื่อเมื่อรักรุม
ยางมนุษย์หยุดไว้เมื่อใจหลง
เฝ้าพะวงคลุ้มคลั่งดั่งไฟสุม
ยางไม่เหลือเมื่อชอบรีบกอบกุม
กลับต้องกลุ้มยามรับผลตนทำมา
คนหมดยางทำอะไรไร้ความคิด
ผูกดวงจิตกับเล่ห์เสน่หา
ทำตามใจรักคลั่งสั่งบัญชา
ออกนอกหน้าเกินเหตุสังเวชใจ
ฝากหัวใจไฟฝันดวงขวัญภักดิ์
หวังเพียงรักแจ้งชัดจำรัสใส
อาทรตามข้ามฟ้ากาคนไกล
มิสนใครนินทาว่าสิ้นยาง
รักดูดดื่มลืมคิดเรื่องผิดชอบ
ออกนอกกรอบลืมพังเพยกล่าวเอ่ยอ้าง
รักคิดถึงพึงพร่ำน้ำใจนาง
ฝันเคียงข้างคนรักเฝ้าภักดี
พรมคิดถึงตรึงใจไกลเสมอ
คอยละเมอยามรักทิ้งศักดิ์ศรี
ฝากห่วงใยไถ่ถามข้ามนที
ณ วันนี้ หัวใจไร้ยางอาย
22 มกราคม 2550 07:16 น.
เพียงพลิ้ว
เปิดหัวใจรับลมพลิ้วพรมพัด
รักรึงรัดรวยรื่นชื่นถวิล
ไหวหวามลู่สู่ห้วงลึกดวงจินต์
มิรู้สิ้นไออุ่นกรุ่นชีวา
สายลมเหนือเอื้อใจฝากให้ฝัน
ร้อยรำพันคมหวานผ่านเวหา
โลมสำนึกผนึกทาบอาบอุรา
รับรู้ค่าคะนึงตรึงดวงมาน
รับลมเทเสน่หาน่าถนอม
คิดถึงล้อมงดงามฝากความหวาน
รองอุ่นไอใยเยื่อลมเจือจาร
เคล้าผสานสองรู้สึกจารึกลง
สองหัวใจเคียงข้าง ณ กลางหาว
หมู่เดือนดาวระยิบกะพริบส่ง
อกเคยเปื้อนโสภิตดังจิตจง
คล้ายเดินหลงไพรงามแห่งความรัก
ฝากหัวใจไปกับลมพรมตอบกลับ
โปรดรองรับคิดถึงซึ้งประจักษ์
มอบรอยคำอมฤตศักดิ์สิทธิ์ภักดิ์
ลมสลักแรงร้อนให้ผ่อนเบา
ยามทุกข์ท้อทรมาร่วมฝ่าฝัน
ฝากดวงขวัญลอยลมพรมไปเฝ้า
หนาวหรือร้อนซึมซับรับบรรเทา
ลมล่องเร้าลอยล่วงบอกห่วงใย
16 มกราคม 2550 08:03 น.
เพียงพลิ้ว
คว้าลมระทมหมอง
จิตะร้องเพราะขื่นขม
ขวนขวายตะกายลม
นิรสมพระพายไกล
ครั่นคร้ามเพราะความต่าง
อุระคว้างเพราะหวั่นไหว
ช่องว่างระหว่างวัย
ระยะใจก็ไกลกัน
เพียงคิดพินิจหวัง
ชลหลั่งประดับขวัญ
ไขว้เขว ณ เหมันต์
ประลุฝันก็ยากเย็น
หมางเมินและเหินห่าง
รติร้างวินิจเห็น
กังวลกมลเป็น
ฤ จะเร้นจะซ่อนมิด
สิ้นสายพระพายผ่าน
เฉพาะกาลก็หมดสิทธิ์
สิ้นแรงแสวงชิด
ธุระจิตมิสมภักดิ์
โหยไห้พิไลหา
สติล้าพะวงหนัก
อาดูรจะสูญรัก
และประจักษ์วิมานลม
12 มกราคม 2550 09:00 น.
เพียงพลิ้ว
เพียงพลิ้วเพ้อพร่ำเพริดเตลิดรัก
หาญห้ามหักโหยไห้ไม่สมหวัง
จากจรจบเจ็บจริงแล้วชิงชัง
นวลน้องนั่งนึกนิ่งยิ่งอ่อนแอ
มนต์มิ่งโมกแมกไม้เหมือนใครย้ำ
คุ้นคมคำใครเคยเอ่ยรักแน่
มอบหมอนมุ่งหมายเหมือนเตือนดวงแด
ลอยล่วงแลลมล่องคล้องใจปลิว
กุมกรุ่นกลิ่นกลมกล่อมหอมดอกโมก
โชยเชยโชคชมชื่นระรื่นหวิว
รักรึงรัดรื่น-ร้าวผ่านแนวทิว
ลอยละลิ่วเลื่อนล่องฟ่องตามลม
รื่นรมย์รวยระรินกลิ่นโมกสาย
ร่ำเรียงรายร้อยรักสมัครสม
หอมหวนไห้โหยหาแต่คารม
พลิ้วพร่างพรมเพียงเพ้อว่าเผลอรัก