29 พฤศจิกายน 2548 08:12 น.
เพียงพลิ้ว
ฉันมีฉัน.วันไหนใจแน่วแน่
จะดูแลความรักมิผลักไส
รักษ์มิตรภาพแสนสวยด้วยจริงใจ
เอาใจใส่รักตนจนเบ่งบาน
ฉันมีเธอ....เสมอไปไม่ผันเปลี่ยน
หนาวร้อนเวียนไถ่ถามความรักหวาน
ยามท้อถอยคอยปลอบใจให้สำราญ
สองประสานผูกสัมพันธ์งามมั่นคง
เธอมีเธอ....เสมอมาแม้คราท้อ
ฝืนสู้ต่อตามประสาพญาหงส์
กาลแปรเปลี่ยนเพียรรักปักษาดง
มิเคยหลงแบ่งใจให้ใครครอง
เธอมีฉัน....พันผูกร่วมปลูกรัก
มั่นสมัครชีวิตนี้มีเราสอง
อุปสรรคหลากภาระร่วมประคอง
ความหม่นหมองช่วยบรรเทาเราสองคน
เรามีเราเท่านั้นร่วมปันสุข
เรื่องร้ายรุกร่วมต้านทานทุกหน
เรามีเราเท่าเทียมเปี่ยมกมล
สุขเหลือล้นสองเราเคียงเงาใจ
22 พฤศจิกายน 2548 08:45 น.
เพียงพลิ้ว
ทำไมต้องเจ็บลึกถึงปานนั้น
ใจมิสร้างอย่างวันต่อวันได้
เธอเหงาฉันเหงาสักเท่าไร
หัวใจมิใช่สร้างเพียงวันเดียว
เจ็บลึกให้ใครหัวเราะเยาะง่าย
สุดท้ายก็ไม่แม้แลเหลียว
เธอคงร่ำน้ำตาอาดูรดายเดียว
โปรดเคี่ยวกรำหัวใจให้ดี
โลกสวยด้วยฉันเธอพันผูก
ใครผิดถูกปลูกฝังไว้ไยหลีกหนี
หัวใจใครมักง่ายร้ายสิ้นดี
คุยกันให้มีหวังที่เพริศพราย........
รู้มานานว่าผ่านเจ็บแผลเย็บลึก
ไห้..รู้สึก..ผลึกตำ..จำ...ใจหาย
ต้องยอมรับความจริงยิ่งนิยาย
สิ่งสุดท้ายกลายกลับซับน้ำตา
เราคือเรา..อาจเขลาคิดพิศวาส
หัวใจพลาดวาดเหเสน่หา
หัวใจนี้ยังมีมนต์ดลรักมา
ซึ้งวิญญารู้ค่ารักรู้จักวาง
หลับให้สุขทุกข์ให้พอ..ขอคิดใหม่
เติมหัวใจให้เกินอย่าเมินหมาง
เดือนยังพราวดาวยังพุ่งฟ้า...รุ่งราง
เย็นน้ำค้างวางอารมณ์..อาลัย
จากหัวใจใครคนเก่าเศร้ามาก่อน
เคยเร่าร้อนตอนดึกลึก..ร่ำไห้
ไม่มีแล้วแก้วมณีเร้นหนีไกล
มิร่ำไรใจซม..ละ...ร่มเย็น
แสนคิดถึงตรึงไว้ในดวงจิต
แสนเจ็บพิษรักปิดไว้มิให้เห็น
แสนรำพึงซึ้งน่าน้ำตากระเด็น
แสนที่เป็นเช่นนี้....คืนหนี้กรรม
19 พฤศจิกายน 2548 16:52 น.
เพียงพลิ้ว
จิตใจประชาธิปไตยไทยอ่อนล้า
ห่วงใยและไห้หามายาเกลื่อน
คนรุ่นหลังหวังคว้าดาราเดือน
แผ่นดินเหมือนอะไรที่ไม่รู้
การศึกษาน่าทุเรศเศษเดนชั่ว
สอนแต่ตัวรอดหัวใจไทยหดหู่
บ้านเมืองมีเรื่องไม่ใช่ของกู
สื่อก็หมูเข้าปากหมาไม่กล้าโยง
มีคนหนึ่งเกิดกล้ามิบ้าคลั่ง
มิใช่ดังหวังประโยชน์โขยง
เรียนรู้บ้านถูกปล้นด้วยกลโกง
กล้าเปิดโปงใครปล้นชาติกวาดแผ่นดิน
เมืองไทยในตอนนี้ความดีพ่าย
หลงอุบายเงินเสกตัวเลขสิ้น
เอาน้ำแรงภาษีขยี้กิน
คนเดินดินกินกิเลสจมเลศนัย
สารพันปัญหาเศรษฐกิจ
ยิ่งทุกข์ยากหากชีวิตมิคิดใหม่
ค่านิยมขมขื่นกลืนคนไทย
จะไม่เหลืออะไรในชีวิต
สนธิรู้ชูธงให้คนไทยรู้
เป็นคุณูปการต้านสิ่งผิด
เผด็จการใหม่หลอนฟื้นรอนลิด
เสื้อคลุมสิทธิเสรีไม่มีจริง
ระวังเหตุการณ์ตุลาจะมาอีก
แต่ไม้ซีกไม่หลีกซุงจะยุ่งยิ่ง
ร่วมมัดฝอยร้อยใจไม่ประวิง
ไม่หยุดนิ่งทิ้งจิตกล้าสู้ชนะ
สามัคคีสนธิใจไม่โดดเดี่ยว
ทางลดเลี้ยวไม่เดียวดายสหายกระจะ
เพื่อลูกหลานอนาคตไม่ลดละ
ชูธงประชาธิปไตยใหม่อีกครั้ง
ศึกษาจิตใจประชากล้าต่อสู้
น้อมเรียนรู้ประวัติศาสตร์วาดหวัง
วีรชนนิรนามงามประดัง
นัยเบื้องหลังถั่งถ้อยร้อยบูชา
สัจจะปัจจุบันถูกกั้นปิด
สื่อเบือนบิดคิดตามน้ำเงินว่า
คนรับรู้ความรู้น้อยด้อยราคา
กองทุนมาแจกหนี้ภาษีใคร
เงินต่อเงินเพลินชีวิตหนี้ถม
จมกับจมเรื่องฟุ้งเฟ้อจนเผลอไผล
เคยสงบ..จบวัฒนธรรมไทย
ดิ้นรนในวิถีปลอมแปลกมอมเมา
มีผู้แทนแค้นนักไร้ศักดิ์ศรี
ปากเสียงมีไว้รับเงินกับเ ห่ า
ประชาชนถูกปล้นชาติเงินฟาดเอา
โกงเงินเรามาแจกแลกคะแนน
องค์กรอิสระไม่ตลก
มีเพื่อยกมือให้ใครหนักแน่น
ความเป็นธรรมคำเฟื่องในเมืองแมน
คนยากแผ่นดินไทยไม่เคยมี
วุฒิสภาคาอำนาจคำหลอก
ใครอยู่คอกใครออกหน้าใครบ้าจี้
ใครรับใช้ประชาชนใครคนดี
ใครชั่วที่สุดนับอัปยศ
ราชการงานเมืองเรื่องรับใช้
นักการเมืองยิ่งใหญ่...กลัวไล่ปลด
สนองตัณหาให้ซีไม่ลด
ประชาชนทนกดดัน..อดทน
องค์กรประชาชนกี่คนรู้
บทบาทอยู่แห่งไหนใครเห็นหน
ชาวนากรรมกรถูกซ่อนกล
หลงทางจนอ่อนล้าสามัคคี
นักศึกษาปัญญาชนกล่นเหลวไหล
ปัญหาในชาติหาใช่หน้าที่
เริงวัยวันบันเทิงเถกิงมี
ความรู้งามความดีเด่นไม่เห็นจริง
บ้านเมืองทุกข์ร้อนปัญหาสารพัด
การเมืองจัดการคนจนมุมยิ่ง
รับไม่มีจ่ายทีมากยากท้วงติง
ฝากทุกสิ่งชีวิตคว้างฤาอย่างไร
บ่นเรื่องเคยรู้เห็นเป็นจริงต่อ
มิเอาคอขึ้นเขียงเพียงบอกใบ้
คนเกิดแล้วต้องตายมัวกลัวทำไม
ลูกหลานหมองทุกข์ร้องไห้นาน...ไม่ดี
๑๑๑๑๑
โดย.......plaing_piu
17 พฤศจิกายน 2548 08:24 น.
เพียงพลิ้ว
น้ำตาหล่นหลั่งรินไม่สิ้นสาย
ใจสลายแตกยับกับผิดหวัง
เหลือแววตาเหม่อลอยคอยลำพัง
ไร้ภวังค์ พังสิ้นความยินดี
เจ็บครั้งนี้เจ็บหนักเกินรักษา
ในอุรากลัดหนองพุพองฝี
แผลในใจลุกลามตามราวี
หลอนฤดี..ทุกคราด้วยจาบัลย์
คนที่รักปันใจให้คนอื่น
คนขมขื่นคือฉันนี้ที่โศกศัลย์
รักร้างลาหลอกลวงดวงชีวัน
ลืมเลือนกัน..ทิ้งไปไม่ใยดี
เจ็บนี้ไม่มีวันจาง...
ทุกเส้นทางมืดดับอับแสงสี
เหลือเพียงซากทุกข์ระทมถมทวี
ชีวิตนี้ไร้ใจไม่เหมือนเดิม