20 มกราคม 2552 08:16 น.
เพียงพลิ้ว
สุดปลายฝันตะวันทอลอออ่อน
ทอดอาทรเยื่อใยให้ถวิล
คนใจน้อยละห้อยหามิชาชิน
ด้วยมิสิ้นคิดถึงจึงคร่ำครวญ
น้อยไป....ไม่มากพอต่อคนหนึ่ง
เพ้อรำพึงหวังใครได้คิดหวน
ถนอมรักให้ส่งกลิ่นประทิ่นนวล
ขออย่าด่วนทิ้งดอกหวั่นยอกเกิน
คล้ายเส้นทางระหว่างเราทอดเงาหมอง
สายใยคล้องเจือจางไกลห่างเหิน
เคยงดงามความหมายพรายพริ้มเพลิน
สิ้นดำเนินแล้วทิพคีตลีลา?
น้อยใจ...น้อยใจมากใครคิดจาก
รักเกิดยากลาง่ายคล้ายสิ้นค่า
เพียงอาวรณ์งอนง้อคลอน้ำตา
ไปมิลาผิดใดไม่รู้เลย
หากมีบุญหนุนใจใครได้บ้าง
อย่าลาร้างจากไกลโดยไม่เอ่ย
ยังเหลือไหมไออุ่นที่คุ้นเคย
หรือรำเพยจากกันดีนั้นดีแล้ว
เหมือนลม..รู้สึกแรก...รู้แตกต่าง
เย็นแล้วคว้างใจหายสายลมแผ่ว
เพียงรอยจำย้ำกระจ่างใครพร่างแพรว
เกินนิ่งแนวยอมรับกับความจริง
13 มกราคม 2552 16:16 น.
เพียงพลิ้ว
แม้นรับรู้อยู่ห่างห่างอย่างห่วงห่วง
มิอาจล่วงน้ำใจให้ผิวเผิน
กลัวหลงตนตีความผิดคิดไกลเกิน
ยังประเมินไม่ถูกความผูกพัน
ด้วยไม่เคยเอ่ยนัยให้ประจักษ์
ค่าความรักซึมซาบเพียงภาพฝัน
ไมตรีย้ำสัมผัสบ้างในบางวัน
มากกว่านั้นหัวใจไม่กล้าคิด
หวั่นหลงคำถลำเพริดใจเกิดแผล
ลวงหรือแท้ไม่ประจักษ์จำหักจิต
ความหวังดีมีฝากมากกว่ามิตร?
อยากมีสิทธิสอบถามถึงความจริง
ความสนิทมิตรภาพชวนวาบหวาม
ทบทวนความเป็นไปในทุกสิ่ง
ความคิดถึงรึงรัดพัดไหวติง
ปฏิเสธยากยิ่งอยากอิงรัก
ใจเอย...เคยเจ็บช้ำไม่จำหรือ
หยุดคิดดื้อค้นใครให้ประจักษ์
เพียงสายลมพรมหวานผ่านมาทัก
ไม่แน่นหนักเพียงนิดหยุดคิดไกล
ความกังขาในอารมณ์เกินข่มข้าม
ขอไถ่ถามให้รู้รักอยู่ไหน
ขอลบความคลุมเครือของเยื่อใย
วอนตอบใจตามนึกรู้สึกจริง
7 มกราคม 2552 10:10 น.
เพียงพลิ้ว
หัวใจเก็บกอบกำจำนัยรัก
ยิ่งประจักษ์ว่างามมากความหมาย
สารพันปัญหาร่วมท้าทาย
ฝ่าฝันร้ายด้วยกันหลายวันคืน
สองใจล่วงห้วงสุขทั้งทุกข์หม่น
ก่อดอกผลเสน่หาอารมณ์ชื่น
ชะตาขีดให้เคียงขวัญอย่างมั่นยืน
ร่วมสะอื้นยิ้มแย้มหลายแรมเดือน
ผ่านรื่นรสบทอ้อนชวนอ่อนไหว
กำลังใจเติมเต็มสายมิคลายเคลื่อน
คอยผูกพันขวัญประดับมิลับเลือน
มากกว่าเพื่อนมากกว่ารักตระหนักดี
สื่อสายใยไม่เคลื่อนผูกเรือนขวัญ
ความสัมพันธ์อวลหอมถนอมถี่
ใจบางบอบกอบกำคำแสนดี
เยื่อใยนี้ระยับนับวันงาม
หนึ่งใจหวังบังอาจเอื้อมวาสนา
ต้นมกราฝากลมเชยเอื้อยเอ่ยถาม
ไม่มีเลศเจตนามาคุกคาม
เพียงตอบความทุกสิ่งอย่างจริงใจ
หากว่ามีวาสนาร่วมฝ่าดั้น
ขอผูกพันเคียงข้างเส้นทางใหม่
อยากรับรู้เป็นคู่คิดสิทธิของใคร
ควรคู่ไหมคนนี้ที่รักเธอ
30 ธันวาคม 2551 09:34 น.
เพียงพลิ้ว
ขอลาทีปีเก่าเข้าปีใหม่
ขอพาใจประสบพบความหมาย
ขอพาขวัญนิ่งพิสุทธิ์หยุดเดียวดาย
ขอพร่างพรายพาฝันงามมั่นยืน
อายุเพิ่มเริ่มใหม่ไม่ยึดติด
นำชีวิตเปลี่ยนผันสู่วันชื่น
สิ่งงามล้ำดำเนินไปไม่คลายคืน
ความขมขื่นฝากฟ้าขอลาไกล
อกเคยยอกบอกลาทุกข์นำสุขสู่
ขอเรียนรู้คิดกว้างทางสดใส
ขอสุขภาพเข้มแข็งเหนือแรงใด
สร้างหลักชัยที่ดีแก่ชีวิต
ขอแพรวพราวก้าวไกลในหน้าที่
เป็นคนดีสถิรสถิต
อยู่แห่งใดเป็นสุขไปทุกทิศ
จงสัมฤทธิสมหวังดั่งต้องการ
พร่ำขอพรอ้อนคุณพระ ณ วันใหม่
วาดหวังใดสมคิดอธิษฐาน
ขออำนาจคุณไตรรัตน์ขจัดพาล
บุญบันดาลสุขสตามแนวแว่วเพียงพร
22 ธันวาคม 2551 15:13 น.
เพียงพลิ้ว
อกนี้...มีใครเข้าใจบ้าง
บนเส้นทางสุขชื่นชั่วคืนหาย
บาดอารมณ์ข่มกลืนขื่นเดียวดาย
หาความหมายแห่งใจไม่อาจค้น
ผ่านเจ็บจำคำร้ายหลายคราวครั้ง
สิ้นความหวังร้าวฤดีอกสีหม่น
เฝ้าเพียรลบจบมิลงปลงกับตน
ยิ่งสับสนฤาคนนี้มิดีพอ
วาสนาสิ้นถวิลหาคำว่ารัก
ไม่ประจักษ์เสน่หาอารมณ์ก่อ
ดาวรักดับอับแสงแสงแห่งฟ้าทอ
ค่อนดึกท้อดาวเคลื่อนเหมือนรักเลย
เพียงครวญคร่ำรำพันหวั่นวิตก
สะท้านอกเพียงคิดคิดหมดสิทธิ์เอ่ย
ต้องลมหนาวร้าวรอนเหมือนก่อนเคย
ฟังคำเย้ยยิ่งตรมสาสมแล้ว
ขอยอมแพ้กระแสใจไหลเชี่ยวกราก
ผ่านลำบากแต่ต้นจนปลายแผ่ว
แรงอ่อนเกินดำเนินไปไม่ถูกแนว
ใจจมแกร่วฝันค้างอย่างมั่นยืน
เมาอารมณ์ข่มใจไม่ยึดติด
เมาชีวิตงอกงามกลางความขื่น
เมาความฝันลืมเท็จจริงนิ่งขมกลืน
เมาใจฝืนทนนิ่งยิ่งตรอมตรม
ความรู้สึกลึกล้ำเกินกำหนด
จะหากฎเกณฑ์ใดมาใช้ข่ม
ทุกข์ท้อกลิ่นหอมชวนจ่อมจม
เมาอารมณ์เมาชีวิตเดินผิดทาง