5 กุมภาพันธ์ 2552 13:01 น.
เพียงพลิ้ว
3 กุมภาพันธ์ 2552 14:52 น.
เพียงพลิ้ว
เชิญนั่งลงตรงนี้ที่กลางสวน
รับกลิ่นอวลมาลีหลากสีสัน
ชื่นผกาหอมหวานลานชีวัน
ละความฝันหยุดพักใจสักครา
กอกุหลาบทาบทอรักประจักษ์ไหม
รดน้ำใจทุกค่ำฉ่ำเสน่หา
ซ่อนห่วงใยไว้มอบปลอบคนล้า
เปลื้องพันธนาแน่นหนักลงสักวัน
คาร์เนชั่นหมั่นถนอมกลิ่นหอมอ่อน
ยามร้าวรอนจะมอบเพื่อปลอบขวัญ
ยามทุกข์เหงาเฝ้าซับให้ฉับพลัน
ส่งกล่อมขวัญลบเรื่องเคยเปลืองใจ
เยอบีร่าสวยเด่นเห็นนัยสื่อ
ชูช่อสื่อภาษาว่าเหนื่อยไหม
รวยระรินกลิ่นละมุนละไม
ฝากดอกไม้บอกรู้สึกลึกดวงมาน
แกลดิโอลัสช่อยาวขาวพิสุทธิ์
เปรียบประดุจศรัทธาความกล้าหาญ
ได้สัมผัสสัจจะงามตระการ
สื่อวิญญาณคนปลูกผูกพันจริง
ซับความยอกด้วยดอกมัมสวยล้ำค่า
ปรารถนาลบท้อต่อทุกสิ่ง
มีรอยจำน้ำใจให้พักพิง
ปล่อยใจนิ่งลืมร้ายคลายทุกปม
นานาพันธุ์ดอกไม้ไร้ดอกโศก
ดอกรักโบกทักทายหายขื่นขม
โปรดปล่อยใจชื่นผกาชีวารมย์
ปลูกไว้ห่มใจคนดี......มีพลัง
29 มกราคม 2552 11:17 น.
เพียงพลิ้ว
อบอวลละมุนละไมด้วยรู้สึก
อบอุ่นคึกคะนองปองผองเพื่อน
สนุกสนานสำราญหากลบเกลื่อน
มิแชเชือนเลื่อนนัดขัดข้องใจ
สิ่งรอบข้างไม่สวยงามยามสับสน
อ่อนแอจนหน้าซบหมอนนอนร้องไห้
รู้สึกดีมีคนถามความเป็นไป
ดำเนินในนามของมิตรสนิทกัน
ซาบซึ้งในเรื่องจริงสิ่งปรากฎ
เรื่องทั้งหมดหาใช่แต่ในฝัน
คือตำนานนิยามความผูกพัน
ไม่แปรผันหักเหไร้เล่ห์กล
ทุกทุกครั้งที่พบล้วนสบสุข
ไม่มีทุกข์เกเรไร้เหตุผล
ห่วงคนนั้นคนนี้เหมือนร้อนรน
กลัวต้องทนอารมณ์คนใกล้ตัว
คอยรักษามิตรหอมถนอมไว้
รับรู้ได้สิ่งดีมีอยู่ทั่ว
รักจะคบพบมิตรอย่าคิดกลัว
อาจต่างขั้วคือเกลอเสมอมา
ความรู้สึกผูกมัดเหมือนเกลียวเชือก
แนบแน่นเปรียบเทือกเขาใกล้ร่องผา
เหมือนดังนกไม่ออกห่างข้างขอบฟ้า
เทียบเท่าเวลายิ่งนานยิ่งกลมเกลียว
ความเป็นฉันสิ่งเธอเป็นเห็นความต่าง
ลดช่องว่างยิ่งใหญ่ให้เหลือเสี้ยว
มีจุดร่วมความคิดถึงเป็นหนึ่งเดียว
สายใยเหนียวแน่นหนักประจักษ์ดี
อุ่นสัมพันธ์เมื่อพบได้คบหา
รู้คุณค่าแม้ต่างหว่างวิถี
คอยห่วงใยซึ่งกันมั่นไมตรี
ในวันนี้ยอมรับประดับทรวง
ปลอบประโลมโน้มน้าวคราวจิตตก
มิตรภาพยกระดับใจให้โชติช่วง
คบเพื่อนดีมีค่ากว่าทั้งปวง
รู้ตักตวงรู้จักมอบรู้ขอบคุณ
ผิดอะไรได้เพื่อนคอยเตือนว่า
ยามอ่อนล้าเติมพลังความหวังกรุ่น
ยามทำดีพร้อมเสริมต่อเติมทุน
แสนอบอุ่นได้คบหาครบอารมณ์
whitelily---ผู้กำกับ(ใจ...ใครสักคน)
แมงกุ๊ดจี่---ผู้สั่งกับ(แกล้ม)
เพียงพลิ้ว----ผู้กินกับแกล้ม)
27 มกราคม 2552 08:05 น.
เพียงพลิ้ว
เส้นทางฝันนั้นเสี่ยงสักเพียงไหน
ฉันเต็มใจเคียงคู่อยู่เสมอ
หลากเงื่อนไขประสบผ่านพบเจอ
รู้เถิดเธอร่วมโศกสุขทุกกรณี
อุปสรรคหนักหนาอาจมาขวาง
รวมหัวใจร่วมสร้างไม่ห่างหนี
ก้าวเดินไปเพียงเราเท่าที่มี
จะวันนี้วันไหนใจนำพา
จะสุขทุกข์เศร้าเราพร้อมก้าว
ถนนทอดยาวจับมือมั่นสู้ปัญหา
ยามหนาวเหน็บเจ็บช้ำซับน้ำตา
ยามอ่อนล้าเติมแรงพร้อมแบ่งปัน
แกร่งเถิดเธออย่าเผลอหมองเธอต้องแกร่ง
ขวัญโรยแรงส่งเสบียงคอยเคียงขวัญ
วันเธอยิ้มอิ่มใจไปทั้งวัน
ใยสัมพันธ์กรุ่นหอมล้อมสายใย
สิ่งดีดีมีมากจากแรกเริ่ม
ค่อยค่อยเติมกำลังจนยิ่งใหญ่
ช่วยต่อสู้สู่ชัยชนะสะสมไป
เพื่อเราได้สิ่งค่าล้ำกำนัลตน
พบทุกข์เข็ญผ่านมาไม่ล้าถอย
มือเราคอยยึดจับไร้สับสน
แม้นสิ่งร้ายปรากฎจงอดทน
ยามหมองหม่นปัดเป่าจนเบาบาง
หากชีวิตคิดท้อไม่ต่อสู้
ฝันคงอยู่ที่เดิมเผลอเริ่มห่าง
ตั้งมั่นสู่ความหมายแห่งปลายทาง
สองคนสร้างรางวัลฝันละมุน
ใครลบหลู่ดูหมิ่นอย่าสิ้นหวัง
ถูกใครชังหวั่นไหวมีไหล่หนุน
มีห่วงหาอาทรเป็นก้อนทุน
มีไออุ่นโอบห้อมหอมคารม
เมื่อสองใจตกลงประสงค์มั่น
ร่วมฝ่าฟันถึงวันอันเหมาะสม
ได้รักแท้ล้ำค่ามาชื่นชม
นำรักห่มโลกสวยด้วยแรงใจ
22 มกราคม 2552 15:25 น.
เพียงพลิ้ว
สายใยรักหักลาน้ำตาหลั่ง
รักกลายชังระทมสุดขมขื่น
ยากระงับดับโศกโลกพังครืน
ไห้สะอื้นไฟเศร้าแผดเผาทรวง
สิ้นสัมพันธ์ฝันดับดาวลับแล้ว
หายใจแผ่วอกสะเทือนตอนเดือนล่วง
ใจเคยปักว่ารักแท้แค่ลมลวง
เฝ้าแหนหวงโหยหาล้าระทม
เยื่อใยงามก้าวข้ามยากลำบากนัก
ฝืนใจหักเพียงใดไม่อาจข่ม
มิพบเจอแต่เผลอจำแต่คำคม
ความหวานบ่มชวนไหวใจกระเจิง
จบเสียเถิดหัวใจใยหลงผิด
เดินหลงทิศหลงทางฝันค้างเติ่ง
หมดเวลาเห่ฝันสิ้นบันเทิง
น้ำตาเจิ่งนองแก้มแล้วแย้มยิ้ม