5 มิถุนายน 2552 11:10 น.
เพียงพลิ้ว
เคยร้าวรานผ่านสุขจำทุกสิ่ง
เคยพักพิงยังอุ่นละมุนฝัน
คงงดงามหวามไหวในผูกพัน
วันต่อวันห่วงใยไม่คลอนคลาย
ฝากความหมายสายใจไปถามข่าว
ฝากเรื่องราวฝากฝันกันห่างหาย
ฝากน้ำเสียงเคียงข้างยามห่างกาย
ฝากประกายใจรักทักทายแทน
คือห่วงหาอาทรเหมือนตอนเริ่ม
เพียงแต่เติมเยื่อใยให้เหนียวแน่น
คำปลอบหวังยังเอ่ยไม่เคยแคลน
คงเหมือนแม้นเพื่อนสนิทมิตรคนไกล
คือไออุ่นที่ครุ่นหามาแต่งขวัญ
คือผูกพันห่อห่มอารมณ์ไหว
คือไมตรีดีงามถ่ายความนัย
คือหัวใจมอบผ่านกาลเวลา
สายลมรักทักไปไม่ผิดที่
ยังคงมีใจหนึ่งซึ่งห่วงหา
สายฝนโปรยคิดถึงไปตรึงตรา
ปรารถนาเคียงฝันทุกวันงาม
พาดสายฝันพันใจให้แน่นหนา
สุดปลายฟ้าฝากรักไปทักถาม
หยุดเมื่อพบสบความจริงที่วิ่งตาม
สองใจข้ามอุปสรรคด้วยรักจริง
2 มิถุนายน 2552 14:16 น.
เพียงพลิ้ว
เจ็บ..จบ...จากพรากจริงไม่อิงฝัน
ความผูกพันคลายมนต์คนห่างหนี
ถูกมองข้ามความหมายสายใยมี
จนวันนี้เหนื่อยเกินขอเมินรัก
อย่ามาพ้อขอใจให้ความหวัง
คร้านจะชั่งคมคำไร้น้ำหนัก
หวั่นหวานหูเริ่มรู้สึกแล้วยึกยัก
เบื่อจมปลักปวดปร่าล้าคอยใคร
อย่ามาอ้อนวอนว่าท้าเคียงคู่
ก็ทราบรู้เรื่องรักหนักไฉน
เสียเวลามาอ้อนมิอ่อนใจ
เหนื่อยเกินให้อกหมองลองรักลวง
อย่ามาล้อพอให้ใจถลำ
สิ่งพึงจำเคยหวานนั้นผ่านล่วง
เพียงลมปากฝากรักไม่ตักตวง
เกรงตกบ่วงพันธนามิกล้าลอง
อย่ามาเชิญชวนชมคุณสมบัติ
แม้นรึงรัดอย่างไรไม่อาจต้อง
โชคชะตาให้มาพบสบครรลอง
ขีดให้หมองให้ตรอมพร้อมอยู่แล้ว
เธอเป็นเธอ ฉันเป็นฉัน....นั้นแตกต่าง
คนละทางตัดสินใจได้แน่แน่ว
พบ..พลันพราก..ฝากให้เห็นพอเป็นแนว
หายใจแผ่วแต่ไม่พ้อขอรักจริง
25 พฤษภาคม 2552 07:49 น.
เพียงพลิ้ว
รักในฝันพันธะเสน่ห์หาย
มิท้ายทายหมดแรงแสวงหา
มิเคยครองห้องใจใครสักครา
เลยมิกล้าหวังต่อด้วยท้อเกิน
รู้ใจ..ว่าไกลจริงยิ่งเจ็บปวด
คนร้าวรวดคงแค่ยิ้มแก้เปิ่น
สติเอยเคยเตลิดอย่าเพริดเพลิน
ถูกหมางเมินคืนเรือนหยุดเลื่อนลอย
ฝ่าฝนพร่างหมายล้างใจให้รักดับ
เคยระยับงามลออขอปลดปล่อย
ชาตินี้ไร้สิ่งหนุนคนบุญน้อย
คิดเอื้อมสอยยากแท้จำแปรทาง
ปลูกสัมพันธ์วันใสไร้ดอกผล
ถอนรากต้นขจัดสิ้นมลทินด่าง
ยิ้มแย้มรับกับฟ้าว่าฝันค้าง
ขออยู่อย่างผู้แพ้แต่โดยดี
ฟ้าบันดลคนช้ำให้ต่ำต้อย
ฝันเคียงรอยเคียงคู่ดูริบหรี่
รู้เจ็บจริงนิ่งคิดสิทธิตนมี
ถึงวันนี้ใจปลงคงพรากจริง
ความห่วงหาอาทรถูกทอนบั่น
สิ้นไฟฝันจะฝ่าด้นเตือนตนนิ่ง
มิมีใครให้รักไว้พักพิง
เหลือเพียงสิ่งมิควรจำ...น้ำใจคน
18 พฤษภาคม 2552 12:23 น.
เพียงพลิ้ว
สดับฝนคนร้าวหนาวลมล่อง
ฝันจะครองรักคลอก็ไกลเหลือ
อยู่ห่างลิบเกินหยิบหวัง?ยังคลุมเครือ
คล้ายมีเยื่อบอบบางกั้นขวางไว้
คิดถึง ใจพึงปลื้มน่าดื่มด่ำ
เป็นรอยจำแสนหวานผ่านวันใส
อกสะบั้นวันนี้มิมีใคร
เศร้ากระไรครวญค่ำยากอำพราง
ฝากสายลมพรมถามความรู้สึก
ว่าเคยนึกถึงกันไหมยามไกลห่าง
ขอคำตอบปลอบจิตไร้ทิศทาง
หากเมินหมางโปรดเฉยอย่าเอ่ยคำ
หวานคำวาทปรารถนากว่าใดสิ้น
หากยลยินคงไหวใจรำส่ำ
ประสงค์เพียงเสียงกระซิบระยิบจำ
โปรดกล่าวย้ำคิดถึงเพียงหนึ่งนี้
แม้นนิ่งเฉยมิเอ่ยใดไม่ประหวั่น
เส้นทางฝันเอื้อมหยิบไม่ริบหรี่
ยังแอบหวังดื่มด่ำคำคนดี
สายใยมีเสมอมิเผลอลา
อยากพบคนมีสิทธิมอบคิดถึง
ใจดวงหนึ่งบางเปราะเที่ยวเสาะหา
เพียงน้อยนิดคิดคำนึงสุดตรึงตรา
มีคุณค่าลึกซึ้งต่อหนึ่งใจ
13 พฤษภาคม 2552 11:37 น.
เพียงพลิ้ว
เหมือนลม....พรมใจให้ฉ่ำชื่น
เย็นชั่วคืนแล้วพัดเลยมิเคยหวน
เหลือเพียงรอยอาลัยไว้คร่ำครวญ
แด่ผู้ด่วนใจปักหลงรักลม
รักเหมือนลม..แผ่วผ่านแรกหวานซึ้ง
ยังไม่ถึงดั่งปองต้องขื่นขม
คงความหลังครั้งเก่าให้เจ่าจม
ทุกข์ทับถมสุดเหงาเปล่าเดียวดาย
นำความเย็นเข่นฆ่าอุราหม่น
หลงใหลมนต์ลมพลิ้วใจปลิวหาย
เฝ้าถวิลทุกขณะถึงพระพาย
ทุรนทุรายเท่าไรไม่กลับคืน
รักของเธอเสมือนลมพรมแล้วห่าง
ยามลาร้างปล่อยใครไห้สะอื้น
ฉันนั้นเล่าใช่ลมนิ่งขมกลืน
ยิ่งดึกดื่นยิ่งเหงาเศร้าหาลม