3 กรกฎาคม 2552 14:03 น.
เพียงพลิ้ว
อารมณ์เพี้ยนเปลี่ยนย้ายหลายกระแส
ใจปรวนแปรหลายทางช่างสับสน
เหมือนเข้มแข็งแกร่งกล้าคำปรารมภ์
คล้ายเป็นคนอ่อนไหวในท่าที
ขี้น้อยใจไร้เหตุผลขี้บ่นด้วย
รูปไม่สวยน่าเมินเดินจากหนี
สิ่งที่เห็นเป็นอยู่ดูไม่ดี
เป็นคนมีสมญาว่าบงการ
บัญญัติกฎกำหนดไว้ให้ใครอื่น
ผู้ขัดขืนกระเด็นเป็นทางผ่าน
ห้าม ห้าม ห้าม ท่องคำสุดชำนาญ
มิอ่อนหวานน่าถนอมเป็นจอมใจ
คอยติดตามความเป็นอยู่ไม่รู้จบ
แต่แรกคบถามอยู่นั่นรักฉันไหม
จู้จี้อยู่เคียงข้างอ้างห่วงใย
ยามห่างไกลฝากลมถามข้ามขอบฟ้า
หัวเราะรื่นชื่นใจใครเป็นห่วง
คนหึงหวงเอิบอิ่มยิ้มเปื้อนหน้า
สะอื้นไหวใครเมินเกินอัตรา
สุดเริงร่ายามเราเข้าใจกัน
ฉันเป็นฉันอย่างนี้ที่ได้เห็น
พอจะเป็นได้ไหมคนร่วมฝัน
มีรักจริงอิงไว้ให้ผูกพัน
ยอมรับฉันได้ไหมหัวใจเธอ
29 มิถุนายน 2552 16:03 น.
เพียงพลิ้ว
วางความฝันพันใจในห่วงหา
สุดปลายฟ้าไมตรีมีความหมาย
อวลอุ่นไอใยแย้มแจ่มประกาย
สัมพันธ์สายลึกซึ้งยังตรึงตรา
กำลังใจให้กันในวันหม่น
ยามสับสนปลอบขวัญให้ฟันฝ่า
คอยติดตามถามข่าวในคราวล้า
ยังมีค่าต่อใจไม่เคยเลือน
นึกถึงใครไกลค่อนฟ้าเวลานี้
รักยังมีหรือไม่หรือใจเคลื่อน
พรมความหลังยังกรุ่นละมุนเตือน
สายใยเลื่อนไปชิดสะกิดตาม
ฟ้าฝั่งนี้มีใจให้เสมอ
รักของเธอสุกใสยังไหวหวาม
ทุกพันธะสะพรั่งยังงดงาม
เธอคือความอบอุ่นละมุนจำ
ความผูกพันฉันเธอยังเพ้อถึง
ยังติดตรึงเวียนวนจนเอ่ยพร่ำ
ฝากสายลมพรมพลิ้วปลิวคมคำ
กระซิบซ้ำว่ารักให้ไม่น้อยลง
ยังห่วงหาอาทรเหมือนก่อนเก่า
ใยบางเบามิเปลี่ยนคอยเพียรส่ง
ยังงดงามความสัมพันธ์ยังมั่นคง
ยังยืนยงเท่าวันแรกเราพบกัน
ความทรงจำน้ำใจไม่สุดสิ้น
ตราบฟ้าดินเคียงไปในความฝัน
พาดสายใยใจวางกางผูกพัน
ด้วยเชื่อมั่นรักของเรายังเท่าเดิม
25 มิถุนายน 2552 11:54 น.
เพียงพลิ้ว
โอ้รีบตื่นหกโมงเช้าเข้าตลาด
คัดปูม้าตัวงามตามสามารถ
ไม่ยืดยาดนึ่งไว้ให้เฌอมาลย์
ตำน้ำจิ้มรสเด็ดไว้เสร็จสรรพ
ครบสำรับเบ็ดเสร็จเผ็ดคาวหวาน
นึ่งไส้กรอกต้มไข่ปรุงไม่นาน
อีกหนึ่งจานข้าวผัดแหนมแกล้มสุรา
ซื้อไก่ย่างสองตัวกลัวไม่อิ่ม
ทุกอย่างชิมเสียก่อนตอนจัดหา
กลัวเพื่อนบอกไร้รสหมดราคา
ชิมจนกว่าอิ่มหนำสำราญใจ
ถึงบ่ายโมงตรงเวลาเพื่อนมาถึง
เสื้อเหลืองบึ่งรอคนดีที่สวยใส
รอที่ป้ายบุญถาวรร้อนหทัย
คอยคนไกลชะแง้หาช่างน่าอาย
โทรไปถามถึงไหนไม่พบเห็น
กลับกลายเป็นสาวเมืองลิงซิ่งเลยป้าย
ดิ่งหากันเร็วไวไม่กรีดกราย
ได้ทักทายยาแก้ปวดผูกไมตรี
เห็นข้าวของกองหน้าหอก็แตกตื่น
ไปกี่คืนกี่วันกันหนอนี่
กระติกน้ำอาหารเยี่ยมเตรียมไว้ดี
ขนเต็มที่อย่าให้พร่องน้องเตรียมตัว
ถึงพัทยาใต้ได้อายหลายระลอก
มีเสียงบอกลืมเค้กน่าเขกหัว
ออกจากปากเจ้าถิ่นลิ้นพันรัว
ด้วยความกลัวได้ฉายาว่าจอมลืม
วนรถกลับรับเค้กแล้วรีบแจวจาก
นึกกระดากตัวเองเซ็งไม่ปลื้ม
ไม่หยิบเสื่อสองผืนเพื่อนให้ยืม
เมื่อเห็นลืมหลายหนคนลืมยิ้ม
อย่าติหนิน้องเลยพี่เฉยเถิด
รถเตลิดมาไกลไหนน้ำจิ้ม
คุยหนักหนาว่าเลิศรสกลับอดชิม
ขอลองลิ้มที่ทรายแก้วก็แล้วกัน
ถึงทรายแก้วแล้วค่ะพี่เรียกรีก่อน
ให้เธอย้อนขนสัมภาระทะเลฝัน
ได้รู้จักเพื่อนใหม่ได้ผูกพัน
สาวเมืองจันทบุรีนี้สวยจริง
เก็บข้าวจองแล้วจองซุ่มตั้งกลุ่มดื่ม
พี่ยาปลื้มสุขของเขาเฝ้าขวดสิงห์
สาวชั่วโมงก็ได้เรื่องสาวเมืองลิง
นั่งดื่มนิ่งได้ซัมซุงมุ่งสู่เรือน
เปลี่ยนเสิ้อผ้าลงทะเลให้ห่กล่อม
สุขรายล้อมเกินนับกับผองเพื่อน
ได้วางแผนล่วงหน้ามาหลายเดือน
ไม่แชเชือนเล่นน้ำให้ฉ่ำทรวง
ถึงเวลาเบิกบานงานปาร์ตี้
วันเกิดรีอาหารนี้ไม่มีหวง
เธอเป่าเค้กรับของขวัญผูกพันดวง
ต่างหูห่วงสีทองผ่องพราวแพรว
รีเจนซี่สปายน่าอายสิงห์
สาวเมืองลิงหนุ่มเมืองจันทร์หมั่นยกแก้ว
สองสามรอบออกจัดหามาก็แล้ว
ไม่มีแววว่าจะเหลือเมื่อสำราญ
แล้วซัมซุงสีดำทำเรื่องขำ
พี่ยากำใส่มือถือกลับบ้าน
เจ้าของโทรด้วยความหวังอยู่ตั้งนาน
แล้วเจ้ากานต์ติดต่อกลับให้รับคืน
ได้ลีโอสามขวดสุดปวดจิต
ใครจะคิดซัมซุงปรุงใจชื่น
ทำดีได้ดีนี้จุดยืน
ได้เริงรื่นมีวีรกรรมทำร่วมกัน
ชวนหลานสาวก้าวเพลินเดินชายหาด
สายตากวาดหาปูดูสุขสันต์
หมาทะลเตร่หาปูอยู่เหมือนกัน
เลยผูกพันผูกมิตรคอยติดตาม
ถึงยามดีตีหนึ่งจึงพักผ่อน
ยังอาวรณ์ลมไหวใจหวาบวาม
คิดถึงใครคนหนึ่งรำพึงความ
ฝากคลื่นถามข่าวก่อนนอนฝันดี
ถูกหลานเบียดเกือบตกเตียงเบี่ยงตัวหลับ
สาวยากลับฟังเพลงไปไม่กลัวผี
ฝากคำนึงถึงใครใส่กวี
จนถึงตีสามกว่าหลับตานอน
ตื่นสี่ตีมีเงานอนเฝ้าเต๊นท์
คงจะเป็นเจ้าสุดสวยช่วยเฝ้าก่อน
เห็นเพื่อนหลับหลบพักอีกสักตอน
คลื่นซัดอ่อนหกโมงเช้าเราลืมตา
ถึงหาดทรายยามเช้าเฝ้าคิดถึง
สายลมตรึงคลื่นส่งพะวงหา
ป่านนี้ยังหลับไหลคนไกลตา?
รู้ไหมว่าใครห่วงดังดวงใจ
ลมทะเลเห่คำให้สัมผัส
ฝากรึงรัดบางคนจนหวามไหว
ขอรักล้อมกล่อมเห่ทะเลใจ
ขอคนไกลรักคนนี้ชั่วนิรันดร์
เสียงคลื่นสาดพาดใจสุดไหวหวาม
ไมตรีงามไร้นัยทะเลฝัน
แสนสุขใจได้รู้จักและรักกัน
คือของขวัญแห่งอารมณ์อันกลมกลืน
ถึงแปดโมงพี่ยากล้าทำเก่ง
ลืมตาเพ่งแล้วอาบน้ำให้ฉ่ำชื่น
หลังที่ทดอดอู้อยู่ทั้งคืน ( อิอิ)
พอได้ตื่นลงทะเลเท่ห์เหลือเกิน
ตอนเก้าโมงอาราเล่เตร่มาถึง
พี่ยาจึงต้อนรับได้ไม่ขัดเขิน
เลี้ยงดูปูเสื่อกันสังสรรค์เพลิน
ค่อยดำเนินจากหาดนิราศลา
ถึงแสมสารงานใหญ่ได้เริ่มต้น
แต่ละคนมองปูกุ้งมุ่งซื้อหา
เฌอมาลย์เลือกดูแต่ปูม้า
จนได้มาสิบกิโลโอ้สมใจ
คุณพี่ยาหาปูไปแต่ได้กั้ง
เห็นวาดหวังขอกินปูเพื่อนอยู่ใกล้
เพียงพลิ้วเลือกปลาหมึกแห้งฝากคนไกล
ส่งพัสดุให้หลานสาวชาวสกล
ถึงไร่องุ่นกรุ่นกลิ่นไวน์ชวนให้หิว
แต่ก็ลิ่วถ่ายรูปไปทำไม่สน
หนึ่งตากล้องถ่ายนางแบบแสบสองคน
ถ่ายเสียจนหิวโหยโกยมากิน
ไปถึงเขาชีจันทร์ยังหมั่นถ่าย
ฝนโปรยปรายต้องเดินทางห่างจากถิ่น
สัตหีบศรีราชาผ่านอาจิณ
ติดปีกบินเร็วไวอย่าให้ช้า
ถึงบ้านอาราเล่จัดเก๋ไก๋
บ้านหลังใหญ่พวกเราเข้าสุขา
ชมรูปสวยสดใสวิไลตา
แล้วค่อยลาคืนสู่ทางบางละมุง
ถึงพัทยาท่ารถโดยสาร
สมุทรปราการแดนไกลใจหมายมุ่ง
ลามิตรภาพสวยใสได้แต่งปรุง
หอมจรุงอยู่เสมอไม่เผลอเลือน
ถึงหอพักพักก่อนเตรียมนอนหลับ
เสียงโทรศัพท์รับไวไม่อิดเอื้อน
เฌอมาลย์ชวนไปไม่แชเชือน
ตื่นเต้นเหมือนห่างกันหลายวันวาน
พสุธากัมปนาทสามารถนัก
เพียงพลิ้วตักกินเล่นเป็นอาหาร
ไอศกรีมสเวนเซ่นเป็นของกานต์
ช่างหอมหวานเหลือไรกลิ่นไมตรี
ถึงเวลาเพื่อนลาไกลใจถวิล
ด้วยเคยชินอยู่ใกล้ไม่หน่ายหนี
คงได้พบอีกหลายหนเพื่อนคนดี
แต่วันนี้ตอนลาสุดอาวรณ์
23 มิถุนายน 2552 16:21 น.
เพียงพลิ้ว
คิดถึงจนพร่ำเพ้อ..................ฝากความ
เป็นห่วงจนติดตาม................ผ่านถ้อย
รักมากยิ่งฝันลาม..................ทุกค่ำ
ฝันใฝ่ใจเกี่ยวก้อย................แน่นแฟ้นนิรันดร
อาทรหาค่ำเช้า.....................ถวิลถึง
คมวาทหวานตราตรึง............แผ่วพลิ้ว
ลมพัดผ่านรักขึง..................อกหวั่น
ระลอกฝันเป็นริ้ว.................ทั่วเวิ้งเรือนใจ
คำนึงใครไม่เว้น..................สักวัน
หวงห่วงผูกสัมพันธ์..............มั่นไว้
คือคนคู่เคียงฝัน..................กาลก่อน
เหนียวแน่นรู้สึกให้...............หนึ่งนั้นเพียงเธอ
คิดถึงจึงพร่ำเพ้อ..................ปรารมภ์
คอยส่งไมตรีพรม................ห่มล้อม
แอบหวังหนึ่งใครชม............เห็นค่า
คนที่คิดถึงพร้อม.................มอบไว้ใยงาม
16 มิถุนายน 2552 08:58 น.
เพียงพลิ้ว
สื่อสายใยให้กันนั้นสูงค่า
สื่อภาษาออดอ้อนชวนอ่อนไหว
สื่อสัมพันธ์ฉันเธอเสมอใจ
สื่อความนัยฉ่ำชุ่มกุมชีวา
ยามใครเมินเหินห่างคว้างในอก
หวั่นวิตกรักโรยสุดโหยหา
พะวงจำน้ำใจคนให้มา
หากร้างลารู้ไหมใครเจ็บจริง
ทุกคมคำย้ำอยู่ในรู้สึก
ยิ่งตรองตรึกยิ่งไหวอกไม่นิ่ง
เหตุฉะนี้คนมีรักไว้พักพิง
หวานทุกสิ่งงดงามความผูกพัน
อ่อนไหว....ใจหวามยามอ่อนหวาน
รักผสานให้อิงเป็นมิ่งขวัญ
พร้อมเรียนรู้สู่โลกสวยไปด้วยกัน
พร้อมฝ่าฟันเคียงคู่สู่ฟ้างาม
อ่อนไหว....ไปตามลมที่พรมผ่าน
ผิวเพลงหวานบรรเลงน่าเกรงขาม
ฟังลมอ้อนอ่อนแอชะแง้ตาม
หลงใหลความมีเสน่ห์ใจเขวชม
ได้รู้จักรักสวยด้วยอ่อนไหว
ฤดูใจอย่าสิ้นให้ยินขม
คงไมตรีมีเยื่อใยให้ปรารมภ์
ขอรักห่มผู้อ่อนไหวไปเท่านาน