2 กันยายน 2552 11:21 น.
เพียงพลิ้ว
สายใยรักถักทอพอสัมผัส
บรรจงจัดมอบวางกางให้เห็น
แย้มให้ดูรู้สึกที่ลึกเร้น
ทุกสิ่งเป็นเปิดเผยเอ่ยทุกนัย
ผูกพันตั้งหวังเกี่ยวสองเรียวจิต
ผูกชีวิตร่วมสุข..ทุกข์สู้ไหว
หลอมศรัทธาฝ่าฟันมิพรั่นใด
หลอมหัวใจลึกซึ้งหนึ่งเดียวกัน
หวานละมุนอุ่นละไมในวิถี
มอบสิ่งดีเติมหวังอย่างตั้งมั่น
ยามไห้โหยโรยแรงพร้อมแบ่งปัน
อยู่เคียงขวัญประโลมคอยโน้มน้อม
เมื่อรักเกิดเพริศพรายความหมายสวย
สองใจช่วยเตรียมทางอย่างถนอม
ยิ่งได้พบอบอุ่นคุณค่าพร้อม
ไมตรีล้อมสัมพันธ์นับวันงาม
อุปสรรคหนักหนาใจท้าสู้
เพียงเคียงคู่พร้อมรับจับมือข้าม
คนสองคนร่วมทางฝันมิครั่นคร้าม
คอยติดตามห่วงใยไม่โรยรา
กาลจะเปลี่ยนเวียนผันยังมั่นรัก
เฝ้าทอถักทุกช่วงคงห่วงหา
รักมั่นยืนตื้นตันกว่าพรรณนา
ปรารถนาขอผูกพันนิรันดร.....
25 สิงหาคม 2552 09:22 น.
เพียงพลิ้ว
กาลเวลาพาใครให้ประสบ
ตั้งแต่พบลึกซึ้งกึ่งความฝัน
สวยสดงดงามความผูกพัน
สายใยมั่นกลมกลืนชื่นชีวา
วันคืนงามเห็นความหมายกลางสายฝน
ว่าบางคนคิดถึงรำพึงหา
ฝากหัวใจไปกับลมพรมพร่างมา
ขอบคุณฟ้ามอบรักให้พักพิง
เริ่มหนาวคราใดไฉนอุ่น
รอยละมุนนำสุขเหนือทุกสิ่ง
น่าถนอมอ้อมโอบรักประจักษ์จริง
ได้แอบอิงมิอยากล่วงบ่วงละไม
รักในสายลมร้อนยิ่งอ่อนหวาน
ประทับผ่านรัญจวนชวนหวามไหว
ริ้วสุนทรียภาพอาบหัวใจ
คำหวานไกลคลายร้อนซ่อนอารมณ์
ธรรมชาติวาดรักสลักขวัญ
มิแปรผันยามท้อยังห่อห่ม
มิเคยสิ้นกลิ่นร่ำอวลคำคม
เฝ้าเลี้ยงบ่มเพาะไว้ดอกไมตรี
หนาวเริ่มผ่อนร้อนกลายถึงสายฝน
ความรักหล่นจากฟ้ามาห่มคลี่
ดอกพันธะสะพรั่งทั้งหมดมี
หัวใจนี้ยอมเคียงเพียงหนึ่งเดียว
20 สิงหาคม 2552 14:45 น.
เพียงพลิ้ว
หนาวสายลมพรมวอนอ้อนยอดไผ่
สะเทือนใจมีสิทธิเพียงอิจฉา
เอนลู่ไหวให้เห็นจนเจนตา
ยิ่งโหยหาเหลือล้นคนอาทร
คืนเดือนพราวดาวพริบระยิบฟ้า
นัยดวงตานวลปรอยคอยคนอ้อน
ยากจริงนะสนิทนิทรานอน
แม้นกอดหมอนเหมือนละมุนไม่อุ่นจริง
ครั้นดาวเดือนเลือนลาฟ้ายามดึก
ส่ำระทึกใจลอยรออ้อยอิ่ง
ท่ามโลกกว้างทางใดให้รักพิง
คิดไปยิ่งกลัดหนองร้องรำพัน
มีอกใดให้ซบอบอุ่น
หวานละมุนละเมียดมาเจียดฝัน
ฝากความหมายประกายเรียวเกี่ยวใจกัน
ชโลมเสียงเคียงขวัญร่วมครรลอง
ลมเว้าวอนอ้อนยอดไผ่ไพล่ผวา
เฝ้ามองหาคนพะนอร่วมหอห้อง
อยู่เคียงข้างสางภาระล้มประคอง
โศกคอยป้องสุขแบ่งเป็นแรงใจ
โลกวันนี้สีงามด้วยความรัก
ด้วยตระหนักจึงกล้าลองคว้าไขว่
คนร่วมฝันวันนี้มิมีใคร
อยู่หนใดรักเอยไม่เคยรู้
18 สิงหาคม 2552 14:53 น.
เพียงพลิ้ว
ด้วยแรงแห่งคิดถึงจึงเฝ้าเขียน
อักษรเวียนเรียงร้อยถ้อยสายฝัน
ร่ายความนัยใครหนึ่งพึงรำพัน
เพียรคิดสรรมธุรสหมายจดใจ
พร่ำลิขิตคิดคำผูกสัมผัส
หวังผูกมัดด้วยแรงเงียบราบเรียบไหว
กระแสจัดสงัดลึกผนึกไกล
พันเยื่อใยแน่นหนาสง่าพราย
พาดผูกพันมั่นยืนทุกคืนค่ำ
ชโลมคำจากจิตมิคิดหน่าย
ทุกสิ่งอย่างอ้างเอ่ยมิเคยคลาย
ทุกความหมายตราตรึงลึกซึ้งจริง
ขึงอาทรอ้อนหาวารีทิพย์
วอนเอื้อมหยิบน้ำใจไว้เป็นมิ่ง
โอบรักนี้มีคิดถึงพึงแอบอิง
ทุกทุกสิ่งแด่เธอ.....ไม่เพ้อเลย
กางสายใจให้เห็นอย่างเด่นชัด
จะรึงรัดหรือไม่ขอได้เอ่ย
ส่งข้ามฟ้าฝ่าฝันมั่นเหมือนเคย
ทุกความเผยอย่ากระชากให้จากลา
จะคิดถึงอย่างไรไม่ชืดเฉย
เกรงผ่านเลยลืมนวลมิหวนหา
กระแสรักทักถามข้ามขอบฟ้า
โปรดรู้ว่าใครหนึ่งคิดถึงจัง
7 สิงหาคม 2552 11:50 น.
เพียงพลิ้ว
แค่เอ่ยถามเท่านี้มีออมเสียง
เหมือนหลีกเลี่ยงความนัยไม่เปิดเผย
เพียงเธอนั้นคืออะไรให้บอกเลย
ขอจงเอ่ยเสียงดังอยากฟังชัด
ไม่อยากคิดเข้าข้างตัวกลัวเลยเถิด
หวั่นใจเพริดหลงคำต้องสัมผัส
ฉันรักเธอคำนี้ที่รึงรัด
พอผูกมัดพันใยได้แน่นพอ
ขอบคุณคำแย้มพรายหมายปลอบขวัญ
หากในฝันดอกรักหวานบานชูช่อ
คนมั่นคงส่งเสียงเคียงพะนอ
ความจริงรอฟังอยู่ไม่รู้คลาย
ยากนักหรือบอกรักกันเพียรหมั่นถาม
คอยติดตามฝากใจไม่ห่างหาย
ลึกอยากรู้เหลือเกินเชิญบรรยาย
สื่อความหมายอันใดในแววตา
บอกรักในใจใครจะรู้
สิ่งเป็นอยู่เธอบอกรักยากหนักหนา
คนใจน้อยค่อยเริ่มท้อทรมา
รอเวลาเสียงหนึ่งพึงบอกรัก
ฉันรักเธอฉันพูดไม่ขัดเขิน
จะหมางเมินหรือมอบใจให้แน่นหนัก
คราวไหวหวามความรู้สึกแอบทึกทัก
เหมือนรู้จักใจเธอจริงกว่าสิ่งใด