4 กันยายน 2547 16:47 น.
เพียงพลิ้ว
ก้ม ก้ม เงย เงยนัก ชักเมื่อยคอ
แต่ยังพอมีหมอนให้นอนหนุน
แม้ไม่ได้หลับไปในแขนคุณ
ยังอบอุ่นกอดหมอนข้างที่วางเคียง
4 กันยายน 2547 10:17 น.
เพียงพลิ้ว
ที่บ้านฉันเลี้ยงหมางามไว้สามตัว
ไม่น่ากลัวไม่ได้เลี้ยงด้วยของหวาน
มีหน้าที่ประจำคือทำงาน
คอยเฝ้าบ้านเห่าไปใครผ่านทาง
หมาเบอร์หนึ่งใจไม่ถึงพึ่งไม่ได้
เห็นใครใครต้องประจบกระดิกหาง
อีกสองตัวทะเลาะกันมันเป็นกลาง
หมาสองรางชนะแพ้ได้แต่มอง
สุนัขน้อยหมายเลขสองดูตลก
เดินวนวกตื่นเต้นเห็นกระป๋อง
ปลาตัวอ้วนบนฉลากบางช่างหน้าลอง
สายตาจ้องสองขาเขี่ยอยากเลียกิน
ตัวที่สามชอบมองชมท้องฟ้า
ดูปักษาเล็กโตลอยโผผิน
เห่านกยักษ์ฝันเฟื่องนั่งเครื่องบิน
เริ่มจินตนาการวิมานงาม
หมาสามตัวแปลกหลายอย่างต่างกันไป
แต่อย่างไรยังน่ารักเจ้าทั้งสาม
ยามอยู่บ้านเดินตามต้อยคอยติดตาม
คอยไถ่ถามดิกหางรับยามกลับมา
2 กันยายน 2547 12:18 น.
เพียงพลิ้ว
เฝ้ามองเธอตั้งแต่หนักสักสามโล
ยิ่งเธอโตยิ่งสิ้นเสียงความเดียงสา
บางครั้งดูมีจริตชีวิตชีวา
บ้างมายาวางท่าเป็นมานาน
แม้การพูดยังต่างอย่างเคยฟัง
เหมือนเมื่อครั้งยังเด็กนักทักเสียงหวาน
พอเติบใหญ่ได้มีวิวัฒนาการ
เริ่มจัดจ้านด่าได้ไม่ซ้ำรอย
พฤติกรรมเปลี่ยนตามวัยเปลี่ยนไปมาก
ฉันเลยอยากให้เท้าเจ้าเท่าฝาหอย
อยากรับคืนความบริสุทธิ์ดุจเด็กน้อย
ที่เลื่อนลอยเพราะเวลาพาจากไป
1 กันยายน 2547 12:23 น.
เพียงพลิ้ว
บึงบัวบานบ้านนาน่าอยู่ยิ่ง
เห็นความจริงในบึงใหญ่คิดไม่ถึง
สิ่งต่างต่างหลากหลายคล้ายโลกหนึ่ง
โลกใบซึ่งยิ่งกว้างช่างวุ่นวาย
ขอบคุณหมู่อุบลคนชื่นชอบ
ดอกบางบอบประโยชน์มากคุณหลากหลาย
รากถึงดอกมีค่าจนบางคนอาย
คนผ่อนคลายสัตว์ได้พึ่งบึงบัวบาน
30 สิงหาคม 2547 16:23 น.
เพียงพลิ้ว
โบราณเปรียบเทียบหญิงเป็นเช่นดอกไม้
ผู้ชายไซร้คือภุมรินบินเสาะหา
ดอกไหนสวยหอมซึ้งตรึงอุรา
บินถลาไปครอบครองตามโปรดปราน
ไม่ใช่ราชินีแห่งดอกไม้ที่สูงค่า
เป็นแค่ดอกไม้ป่าธรรมดาน่าสงสาร
มวลหมู่ผึ้งภุมรินใดไม่ต้องการ
ทิ้งให้บานความหวานหายไร้ชายมอง