9 ตุลาคม 2547 09:51 น.
เพียงพลิ้ว
ตอนเป็นเด็กมีเวลาวิ่งตาเหลือก
ไปโดดเชือกเล่นมอญเล่นซ่อนหา
แสนสุขใจวิ่งไล่กันกลางแดดจ้า
มีเวลาขายหม้อข้าวหม้อแกงกัน
โตมาหน่อยเป็นสาวน้อยคอยเที่ยวห้าง
เวลาว่างมากมายให้ไต่ตามฝัน
เรียนหนังสือเที่ยวเพลินใจไปวันวัน
เที่ยวชมจันทร์ตะวันจ้าเวลาพอ
อีกสักพักได้เป็นแน่เป็นแม่บ้าน
ได้รำคาญมีลูกเต้าของเราหนอ
เอาใจลูกที่ซุกซนปรนนิบัติพ่อ
ภาระรอจนเวลาไม่มาเยือน
สักวันหนึ่งพอเป็นแม่เริ่มแก่เฒ่า
เวลาเจ้ามาให้เห็นมาเป็นเพื่อน
แต่ไม่คุ้นคราวเคยเจอะเพราะเลอะเลือน
เจ้ามาเตือนมาสอนใจว่าใกล้ตาย
ดีใจจังพอตายแล้วมีเวลา
หลับนิทราพักผ่อนนอนดังหมาย
วันวันหนึ่งไม่ทำงานหลับสบาย
พักผ่อนกายสงบใจไม่กังวล
30 กันยายน 2547 08:54 น.
เพียงพลิ้ว
อ่อนแอจังพลั้งใจร้องไห้หนัก
สงสารนักหนังน้ำเน่าเศร้าหนักหนา
พระรองหนุ่มรักพังพาบอาบน้ำตา
แถมต้องลาจากโลกไปในละคร
น้ำตาไหลอดไม่ได้ไม่ไหวแล้ว
พี่ดอกแก้วน้องไม่จำคำพี่สอน
ชีวิตคนหนีไม่ได้ไปกองฟอน
สิ่งที่ร้อนคือไฟในใจฉันเอง
นายวินเซนต์ผู้อาภัพไม่กลับมา
ยังค้างคาเรื่องรักขมถูกข่มเอง
แฟนกับเพื่อนตอบไม่ชัวร์เพราะกลัวเกรง
ต้องวังเวงรักไม่เคลียร์ละเหี่ยใจ
เขาบินเดี่ยวหม่นลี้หนีความจริง
ใจก็ยิ่งร้าวรอนเพราะอ่อนไหว
ต้องตายก่อนบอกความจริงสิ่งในใจ
บอกความนัยที่เพิ่งตรวจสำรวจเจอ
29 กันยายน 2547 08:56 น.
เพียงพลิ้ว
ไม่เจตนาให้เถียงไปใครเก่งกว่า
แต่ยินมาว่ายากหากเป็นหญิง
ยุ่งลำบากมากกว่าชายอยู่หลายสิ่ง
เป็นความจริงห้าข้อใหญ่จำไม่เลือน
ทุกข์ข้อแรกของหญิงยิ่งลำบาก
ปวดท้องมากปวดโรคใดไม่มีเหมือน
ไข้เลือดออกแสนลำเค็ญเป็นทุกเดือน
แถมคราบเปื้อนแม้ใช้แบบแถบบางเบา
ประการสองสงสารผู้หญิงนัก
เมื่อมีรักไม่สบายเหมือนชายเขา
มีทายาทอุ้มครรภ์จนพ้นเดือนเก้า
กว่าเห็นเจ้าที่เฝ้าหวังดังใจปอง
ถึงตอนคลอดจะปลอดภัยไม่ทราบได้
พกหัวใจเข้าห้องคลอดพร้อมมือสอง
คลอดลำบากหมอลงมีดต้องกรีดร้อง
น่าสยองเด็กสามโลโตในกาย
ทุกข์ข้อสี่ลำบากใจไม่อยากกล่าว
เรื่องคาวคาวบ้างว่าสมอารมณ์หมาย
ทุกข์ที่ว่าลำลากล้ำบำเรอชาย
บ้างว่าอายบ้างว่าสุขไม่ทุกข์คุณ
ทุกข์สุดท้ายหญิงไม่หมายชายไม่แย่ง
ไม่ว่าแต่กับไร่บ่าวหรือเจ้าขุน
หญิงร้อนใจต้องออกเรือนเปลี่ยนสกุล
เรื่องวายวุ่นสกุลใครใหญ่กว่ากัน
เล่าให้ฟังให้สนุกอย่าคุกคาม
อย่าเที่ยวถามเห็นด้วยไหมกับใจฉัน
ธรรมดาโลกชายกับหญิงสิ่งคู่กัน
เรื่องมันส์มันส์จึงเกิดได้ในโลกเรา
25 กันยายน 2547 14:13 น.
เพียงพลิ้ว
รู้ดีว่าเธอคนดีต้องมีเพื่อน
ไว้คอยเตือนคอยถามไถ่ไว้ปรึกษา
คอยเทคแคร์แชร์ทุกข์สุขทุกเวลา
สิ่งตามมาคือใจสองคล้องเกี่ยวกัน
เขาโทรมาลำบากใจเธอไม่น้อย
บอกค่อยค่อยจะโทรกลับลับหลังฉัน
เธอร้องไห้เพราะเขาเศร้านานวัน
จู่จู่หันบอกรักมากอยากคืนดี
ยังนึกถึงวันเก่ากับเขาอยู่
แต่ต่อสู้กับศึกหนักรักศักดิ์ศรี
เขาคนนั้นทิ้งเธอไปได้หลายปี
ตัดสินทีเลือกใครใยคิดหนัก
เธอจะเลือกอยู่กับฉันที่รักเธอ
หรือเลือกเกลอคนเคยเจอที่เธอรัก
มีคนหนึ่งต้องร้องไห้ใจถูกหัก
คนหนึ่งจักกราบเบื้องบนที่ดลใจ
บอกอย่างไรเมื่อเขาถามตามคำตอบ
เรื่องรักชอบเป็นปัญหาน่าสงสัย
ความผิดหวังลำเค็ญเป็นของใคร
คนที่ให้คำตอบได้ใช่แล้ว เธอ
เธอจ๋าเธอตอบมาอย่าลังเล
ว่าเธอเทใจให้ใครเสมอ
อย่าปล่อยให้ใจใครใฝ่ละเมอ
หลงพร่ำเพ้อเธอชอบจริงรักยิ่งนัก
เธอจะเลือกอยู่กับฉันที่รักเธอ
หรือเลือกเกลอคนเคยเจอที่เธอรัก
มีคนหนึ่งต้องร้องไห้ใจถูกหัก
คนหนึ่งจักกราบเบื้องบนที่ดลใจ
23 กันยายน 2547 16:43 น.
เพียงพลิ้ว
ไม่ใช่แต่โคแก่หากินหญ้าอ่อน
ตั้งแต่อ้อนแต่ออกแม่บอกขาน
เจ้าควายน้อยหลงกล้าอ่อนแต่ก่อนกาล
หลงรสหวานจนบากหน้ามาลิ้มลอง
แม้ชาวนาล้อมรั้วกลัวควายเข้า
มานั่งเฝ้าบอกกล้านี้มีเจ้าของ
เจ้าตัวน้อยดันทุรังหวังหมายปอง
หวังครอบครองท้องนากล้าเขียวสด
โดนไม้หวดปวดตัวไม่กลัวเจ็บ
นึกแต่เก็บเกี่ยวกินกล้ามาให้หมด
เชือกตะพายถูกดึงไปไม่รันทด
เพราะหลังรสกล้างามตามใจนึก
ถูกขังไว้ในคอกพังออกไป
คิดในใจถึงรสหวานพาลคักคึก
ผลตามมาเป็นอย่างไรไม่รู้สึก
มัวทักทึกกลิ่นหวลชวนให้ติด
ควายเอ๋ยควายน้อยเจ้าด้อยนัก
มิรู้จักหักห้ามใจไม่ให้คิด
เจ้าควรรู้สิ่งไหนไม่มีสิทธิ์
ควรห้าจิตหาญใจไม่ให้ชิน
เข้าใจดีการห้ามใจทำได้ยาก
ยังเด็กมากใจไม่แกร่งแข็งผาหิน
จึงหลงรสหวานละมุนเคี้ยวคุ้นลิ้น
แถมมีกลิ่นหอมซึ้งตรึงใจบาง