17 พฤศจิกายน 2548 08:24 น.
เพียงพลิ้ว
น้ำตาหล่นหลั่งรินไม่สิ้นสาย
ใจสลายแตกยับกับผิดหวัง
เหลือแววตาเหม่อลอยคอยลำพัง
ไร้ภวังค์ พังสิ้นความยินดี
เจ็บครั้งนี้เจ็บหนักเกินรักษา
ในอุรากลัดหนองพุพองฝี
แผลในใจลุกลามตามราวี
หลอนฤดี..ทุกคราด้วยจาบัลย์
คนที่รักปันใจให้คนอื่น
คนขมขื่นคือฉันนี้ที่โศกศัลย์
รักร้างลาหลอกลวงดวงชีวัน
ลืมเลือนกัน..ทิ้งไปไม่ใยดี
เจ็บนี้ไม่มีวันจาง...
ทุกเส้นทางมืดดับอับแสงสี
เหลือเพียงซากทุกข์ระทมถมทวี
ชีวิตนี้ไร้ใจไม่เหมือนเดิม
8 ตุลาคม 2548 13:37 น.
เพียงพลิ้ว
คลื่นทะเลเห่ใจในแรมดึก
จิตรำลึก...คนดี....ที่ภูผา
แสนคิดถึงห่วงใยคนไกลตา
คลื่นซัดมาคล้ายเพลงร้องกล่อมน้องนอน
ลมทะเลผ่านกายมาทายทัก
ขอฝากรัก....ถึงคนนิ่ง....ที่สิงขร
กระซิบบอกคนอีกฟ้ายังอาทร
อยากออดอ้อนรักนี้มีเพียงเรา
มองทะเลคราใดใจสะทก
อยากซบอก...อบอุ่น...คนขุนเขา
อยากกระซิบพร่ำพรอดกอดเบาเบา
หากคุณเหงา...เหงาจงลับพร้อมกับดาว
ลมคีรีมีไหมใคร่อยากรู้
คนที่อยู่ทะเลไกลใจเหน็บหนาว
แม้ห่างกันยังติดตามถามข่าวคราว
หวั่นรักร้าวเพราะทางแสนห่างกัน
เพลงรักหวานจากทะเลพร้อมเห่กล่อม
ดวงใจพร้อมร่วงเรียงอยากเคียงขวัญ
สิ่งดีดีล้นใจใคร่แบ่งปัน
รักของฉันมีมากฝากลมไป
คิดถึงมากคนดีที่โค้งฟ้า
ปลอบอุราชื่นชีวันยามหวั่นไหว
รักคุณมากจากหญิงคนจริงใจ
อยู่หนไหน....รักล้น...คนคีรี
คิดถึงมาก....จากคนไกล
7 ตุลาคม 2548 08:43 น.
เพียงพลิ้ว
เพียงสายลมพรมใจให้ตื่นเต้น
พัดโชยเย็นกลางกมลคนหวั่นไหว
มิอาจคว้าลมพรอดตลอดไป
คนร่ำไห้คนหลงพะวงลม
คือสายลมพรมผ่านหวานชั่วคราว
ทิ้งความหนาวฝากไว้ให้ขื่นขม
ป่านนี้คงพลิ้วใจใครอื่นชม
จำต้องข่มความหม่น...ทนเดียวดาย
เป็นสายลมพรมใจใครเพียงครู่
รักมีอยู่มิงามไร้ความหมาย
จึงลาทิ้งให้หนาวร้าวใจกาย
เจ็บมิวายรักขมเพราะลมลวง
รักคงใช่ของเล่นเช่นลมว่า
จึงง่ายลามิให้ใครแหนหวง
คราลมโชยรีบรักรีบตักตวง
ลมทิ้งช่วงคือวันช้ำน้ำตานอง
ลมเจ้าเอ๋ยเคยคิดจะหยุดไหม
หยุดพาใจใครสะบัดอกกลัดหนอง
วอนลมเลิกกระทำเลิกลำพอง
มีคนหมองลมลวงใจให้ร้าวราน
เพียงสายลมย้ำใจให้คิดถึง
ครารักซึ้งจับใจในคำหวาน
เสียดายลมพัดใจอยู่ไม่นาน
สายลมผ่านชั่วคราวทนหนาวใจ......................
3 ตุลาคม 2548 09:38 น.
เพียงพลิ้ว
เมื่อถึงคราวโศกเศร้าเขาไม่รัก
ได้ประจักษ์น้ำจิตของมิตรแท้
มีพี่สาวสองสวยช่วยดูแล
ยามย่ำแย่ปลอบใจให้หายตรม
พี่คนโตติดตามคอยถามข่าว
แม้รักร้าวน้องจ๋าอย่าขื่นขม
ยิ้มแย้มได้ยามใจหม่นคนนิยม
รู้จักข่มน้ำตาซ่อนอาการ
พี่คนสวยสั่งสอนให้ย้อนคิด
จงตั้งจิตใจมั่นสร้างฝันหวาน
ลืมเรื่องนั้นหันมาบ้าทำงาน
จะมีบ้านรถงามตามตั้งใจ
พี่คนรองหัวเราะยิ้มเยาะเย้ย
โธ่น้องเอ๋ยอย่าบ้าน้ำตาไหล
เรื่องแค่นี้หดหู่อยู่ทำไม
สู้ใครได้มัวเศร้าเพียงเขาเมิน
กำลังใจดีดีมีมาฝาก
พี่รักมากห่วงใยไม่ห่างเหิน
ชีวิตนี้มีอะไรให้เลือกเดิน
อย่ามัวเพลินหงอยเหงาเขาไม่มอง
ขอขอบคุณพี่สาวสองคนสวย
ที่มาช่วยปลอบใจให้หายหมอง
จะทำใจให้หายช้ำน้ำตานอง
จะเลิกร้องหันมารักตัวเอง.....
29 กันยายน 2548 08:00 น.
เพียงพลิ้ว
คนอ่านนัยไม่ออกต้องชอกช้ำ
แปลน้ำคำงดงามผิดความหมาย
ตีความเอาเขามีใจหน้าไม่อาย
แค่สหายสนิทใยคิดลึก
คนมีนัยในคำพูดพิสูจน์ยาก
แสนลำบากเข้าสู่ความรู้สึก
หลงคารมรู้ว่าช้ำในสำนึก
ฝืนทนฝึกทำใจให้คุ้นเคย
คนอ่อนแอแพ้ให้ความนัยแฝง
บางคนแกล้งเก็บไว้ไม่เฉลย
บทสรุปคนใจดำทำละเลย
ไม่เคยเผยความจริงใจให้ประจักษ์
คนผ่านทางห่างเหินเกินทนไหว
สะอื้นไห้ชีวิตติดกับดัก
เล่นละครเจนบทปดเก่งนัก
รับบทรักปล้อนปลิ้นจนชินชา
คนมีนัยหัวใจใครมิรู้
วิเคราะห์ดูไม่ตรงสักองศา
เล่นหรือจริงมิเห็นได้ในวาจา
คิดเกินกว่าเขาคิดมีสิทธิตรม
คนอ่านนัยไม่หมดรันทดยิ่ง
ฝันกับจริงต่างล้นทนขื่นขม
เจ็บแล้วจำอย่าช้ำบ่อยรอยคารม
อย่านิยมหลงนัยลวงติดบ่วงมาร