24 พฤษภาคม 2549 08:05 น.
เพียงพลิ้ว
บินสู่นภาหทยมั่น
จิตะฝันพญาหงส์
โอ้วาสนาสกุณดง
สติหลงริหมายครอง
บินสูงมิท้อวิริยะนัก
มนรักจะเคียงสอง
รู้สึกตระหนักชลจะนอง
อุระจ้อง ปะหงส์งาม
บินต่อมิล้าระยะจะห่าง
นภกว้างมิเกรงขาม
แม้นไกล บ ถอยมิละจะตาม
จะมิคร้ามมิห่างกัน
ถึงต่ำก็มีสริระครบ
ผิว์สยบขยาดฝัน
ตั้งจิตจะฝ่ากมลฟัน
ฤ จะหวั่น ฤ ลาไป
ร้อยความคะนึงรจนหวาน
จะรำราญมิ หวั่นไหว
หวังรักพิสุทธิ์จะชนะใจ
ระบุไว้จะทนคอย
พบอุปสรรคพิทยะสู้
ริจะคู่ ฤ ควรถอย
ดอกรักผลิผ่าวผะระอุกลอย
อุระน้อยกะพบพาน
รักงามเพาะบ่มสถิตะล้อม
จะถนอม ณ ดวงมาน
สักวันจะสมอธิษฐาน
นิจะกาลจะทนรอ
วิหกไพรล่องฟ้า หาหงส์
ฝันไฝ่หนีจากดง ต่ำต้อย
บินลาเผ่าพันธุ์พงศ์ ผินสู่ หงส์งาม
ร้องร่ำวาสนาน้อย ไขว่คว้าไม่ถึง
23 พฤษภาคม 2549 07:48 น.
เพียงพลิ้ว
..ค้นหาจะคว้ากมลไกล อุระไห้มิอาจครอง
คร่ำครวญพิไรหทยหมอง ชลนองประนวลปราง
..ครุ่นคิดพินิจนยประหวัด ดุจวัดพลังนาง
ครวญใคร่พิจัยจะประลุทาง ฤ จะร้างสยบดวง
เคว้งคว้างระหว่างจิตะระโหย สติโบยสะท้านทรวง
คืนซึ้งคะนึงพจนลวง มิละห่วงวจีชาย
..คมคำระส่ำระอุฤดี ริจะหนีก็เสียดาย
ค่อนว่าประสาอุระสลาย อริร้ายก็คือตน
..ค่อนคืนสะอิ้นภวสลด มิประชดและแกล้งหม่น
คำนึงก็หนึ่งนะนฤมล ดำริวนระทมใน
...คนไม่พิเศษ ฤ จะละฝัน ผิประหวั่นละเยื่อใย
ครึ้มอกสะทกกมลไหว ห ฤทัยสถิตจำ
วสันตดิลกฉันท์ 14 บทที่ 2 ของชีวิต
22 พฤษภาคม 2549 07:45 น.
เพียงพลิ้ว
รักของคนไม่สำคัญมันต่ำต้อย
ดูเลื่อนลอยกว่าใครใฝ่ฝันถึง
ความแหนหวงห่วงหาไม่ตราตรึง
ไม่ลึกซึ้งพอที่จะมีเธอ
ความจริงใจไร้ค่าไม่น่าต้อง
เกินจะสนองรักงามตามเสนอ
ทนขมขื่นกลืนกล้ำพร่ำละเมอ
คงเพ้อเจ้อเกินไปใจถูกเมิน
เพราะไม่ใช่คนสำคัญที่ฝันถึง
ยามเธอขึ้งจึงลาร้างทิ้ง...ห่างเหิน
พูดไม่ออกสักคำช้ำเหลือเกิน
ใจยับเยินแตกสลายอายสิ้นดี
ใจเอยใจเจ็บไม่จำยังพร่ำเพ้อ
ต้องมนต์เธอจนลืมรักต่อศักดิ์ศรี
หลงคารมใจเพริดเกิดราคี
ถูกย่ำยีหลายครั้งยังไม่จำ
เพราะเป็นคนไม่สำคัญรักหันเห
หลงเสน่ห์เล่ห์ร้ายพ่ายถลำ
เจ็บดักดานบ่อยบ่อยหลงรอยคำ
คนใจดำฝากไว้ไม่เคยลืม
ถึงจะมีรักแท้ก็แค่นั้น
ไม่สำคัญพอให้ใจเธอปลื้ม
รักชั่วคราวไกลลิบแค่หยิบยืม
รักดูดดื่มแค่สายลม...พรมหยอกใจ
13 พฤษภาคม 2549 14:03 น.
เพียงพลิ้ว
...โอ้เอ่เอ๊ เปลแดง ช่างแรงฤทธิ์
ไม่เคยคิด แต่แปลก เมื่อแรกเห็น
ให้ดื่มด่ำ สัมพันธ์ ใต้จันทร์เพ็ญ
คงยังเป็น คืนหนึ่ง ที่พึงใจ
ฟังเพลงร่ำ คำร้อง ทำนองสุข
มิอยากลุก เพราะเพียง หลงเสียงใส
แบบเมดเล่ย์ เห่กล่อม ตะล่อมไป
พร้อมเปลไกว แกว่งเบา เหมือนเมายา
คืนวันนั้น จันทร์สวย งามด้วยเจ้า
เดือนหกเข้า เป็นจันทร์ วันวิสาข์
แต่ปีนี้ สีจันทร์ นั้นหม่นตา
ไม่มีหน้า คนยอม ให้กล่อมเลย
โอ้เอ่เอ๊ เปลแกว่ง ด้วยแรงบ่าว
ไกวผู้สาว นอนเปล เอ่เอ๊เอ๋ย
โอ้เอ่เอ๊ เห่ให้ ทั้งไม่เคย
กลัวเหลือเอ่ย กลัวสาว เจ้าหนาวใจ
ฝากฝังฟ้า ครานี้ สู่ที่หนึ่ง
ยังคิดถึง เอวบาง รู้บ้างไหม
โอ้เอ่เอ๊ เห่หา ส่งมาไกล
คงรับได้ รู้สึก นึกถึงกัน
โอ้เอ่เอ๊ เอ่เอ๊ มาเห่กล่อม
มาพรั่งพร้อม ปลอบปลุก ให้สุขสันต์
คิดถึงสน ต้นคู่ อยู่ใต้จันทร์
คิดถึงวัน อยู่ใกล้ ในคืนเพ็ญ...
12 พฤษภาคม 2549 07:47 น.
เพียงพลิ้ว
ฝากหัวใจให้ฝัน..วันวิสาข์
ภาวนาตั้งจิตอธิษฐาน
ขอคนไกลลืมความหลังครั้งร้าวราน
จบตำนานเพ้อพล่อยหลงรอยคำ
หวังแสงเทียนเพียรส่องทางผ่องใส
นำฤทัยพ้นกิเลส..เลศภัยต่ำ
คมเสน่ห์เล่ห์ร้ายอย่าหมายจำ
เจ็บซ้ำซ้ำบ่อยบ่อย..ค่อยค่อยเลือน
มีไมตรีจากใจส่งไปถึง
รักคนหนึ่งหมดใจใครจะเหมือน
ฝากจันทร์เพ็ญเด่นงามข้ามฟ้าเตือน
มากกว่าเพื่อน..เหมือนกว่านัก..คนรักกัน
กราบขอพรตอนฟังธรรมคำพระสงฆ์
สองเราจงชีวิตงามตามไฟฝัน
พบประกายเรืองรองผ่องชีวัน
ร่วมสร้างสรรค์ความดีที่ศรัทธา
หอมประทิ่นกลิ่นธูปเทียนนำเวียนไหว้
สงบใจตั้งมั่นวันวิสาข์
ขอสองเราเข้มแข็งแกร่งปัญญา
เพื่อฟันฝ่าภาระชะตากรรม