16 กุมภาพันธ์ 2550 08:24 น.
เพียงพลิ้ว
หากสงสารจงละเลยรักเคยหวาน
อย่าประหารคนช้ำด้วยคำถาม
อย่าสะกิดแผลใจให้ลุกลาม
อยากก้าวข้ามอดีตร้ายมิหมายจำ
ห่วงใย..จากใจจริงจงนิ่งเฉย
คำถามเย้ยขอเถิดหนาอย่าเหยียบย่ำ
คนอ่อนไหวใจเสาะเพราะรอยคำ
ยิ่งเอ่ยซ้ำยิ่งเหมือนภาพเตือนใจ
ปลาบแปลบ......แอบสะอื้นคืนฝนหนาว
เจ็บทุกคราวพินิจคำต้องร่ำไห้
รอยอดีตกรีดทรวงมิล่วงไป
จารึกไว้สุดห้วงของดวงแด
ภาพความหลังฝังใจในครั้งหนึ่ง
ยังตราตรึงแม้รักร้ายกลายเป็นแผล
สะเก็ดรักปักใจไม่ผันแปร
คนพ่ายแพ้พยายามซ่อนความตรม
ลืมไม่ลงขอบอกอย่าหลอกถาม
ครั้นฟังความค่ำคืนสุดขื่นขม
หยุดตอกย้ำคำวาทบาดอารมณ์
ก่อนจะล้มเจ็บป่วยด้วยอับอาย
ขอบคุณใจงามทุกความห่วง
ยากพ้นบ่วงรักร้างที่ห่างหาย
ยิ่งอาทรยิ่งอ่อนไหวได้มากมาย
อย่าทำร้ายจนม้วยด้วยรอยคำ
14 กุมภาพันธ์ 2550 11:44 น.
เพียงพลิ้ว
ชะรอยว่าชะตากรรมนำความเศร้า
ลักพาเงาคนไกลพรมไออุ่น
หมดสิ้นแล้วคำเอ่ยเคยเจือจุน
กุหลาบกรุ่นเติมแรงใจคงไม่มี
ขอโทษหากทำเรื่องให้เคืองขึ้ง
คิดไม่ถึงโกรธมากมายจนหน่ายหนี
มิตรภาพหมดใช่ไหมในวันนี้
สิ้นไมตรีใช่ไหมไปไม่ลา
ก้มหน้ารับกับชะตาเธอกล้าจบ
ไม่มาพบไม่สนใจใครห่วงหา
ไม่ขอตามให้เพลียเสียเวลา
อยากหลบหน้าตามใจไม่คร่ำครวญ
จะไม่รักห่วงใยไม่คิดถึง
จะไม่ตรึงรักชื่นให้คืนหวน
จะไม่ยื้อหัวใจใครเรรวน
จะไม่ชวนกลับมารักเหมือนเดิม
ไม่อาลัยคำคุ้นเคยเอ่ยเจื้อยแจ้ว
คงหมดแล้วความเป็นเพื่อนเหมือนแรกเริ่ม
ต่อแต่นี้ความห่วงใยไม่มีเติม
จะไม่เพิ่มความรักภักด์บำเรอ
สิ้นอาทร....งอนแล้วนะจะบอกให้
สิ้นน้ำใจวจีมีเสนอ
สิ้นวาสนาหัวใจคงไม่เจอ
เชิญเถิดเธอไปเถอะ...เชอะไม่ง้อ
13 กุมภาพันธ์ 2550 07:15 น.
เพียงพลิ้ว
ดอกไมตรีเบิ่งบานตระการหล้า
อวดสายตากลิ่นสายละลายเหงา
ลมเหนือรินกลิ่นหอมล้อมแผ่วเบา
อาทรเคล้าอุราแสนตราตรึง
ดอกน้ำใจใสสดงดงามนัก
ครั้นประจักษ์ยึดไมตรีเป็นที่พึ่ง
มอบสิ่งดีน่าจำในคำนึง
ความคิดถึงมีให้ไม่โรยรา
ดอกห่วงใยเสมือนเพื่อนใกล้ชิด
ไร้มลพิษสิ้นเล่ห์เสน่หา
สื่อให้เห็นจริงใจในวาจา
วิจิตราหอมหวนมวลดอกไม้
ดอกมิตรภาพทาบทองยากมองข้าม
งอกเงยงามเบ่งบานชวนขานไข
กลีบดอกสวยรวยรินกลิ่นน้ำใจ
ถนอมไว้กับตัวจนชั่วกัลป์
ดอกหวังดีมีให้ไม่เคยสิ้น
สัมผัสกลิ่นจริงแท้ไม่แปรผัน
กำลังเสริมเติมแรงคอยแบ่งปัน
ความสัมพันธ์สดสวยด้วยการุณย์
ขอมอบช่อดอกไม้ไร้ซึ่งเลศ
ช่อพิเศษมอบเพื่อช่วยเกื้อหนุน
แนบน้ำใจไมตรีพลีเป็นทุน
พรมไออุ่นหวังผูกพันนิรันดร.....
8 กุมภาพันธ์ 2550 10:23 น.
เพียงพลิ้ว
ลมล่องเบาเย้าหยอกอยากบอกรัก
ลมหนาวทักยิ่งอยากฝากไฟฝัน
ลมรักรุมสุมใจใคร่รำพัน
ร้อยดวงขวัญมอบรักปักกลางทรวง
อยากบอกรักดังดังจะฟังไหม
ตะโกนให้ก้องฟ้าว่าแหนหวง
รักคิดถึงจากใจไม่เคยลวง
และเป็นห่วงเสมอมา..ท้าเธอรับ
หากอยากฟังเบาเบาเคล้าข้างหู
จะไปอยู่บอกความในให้สดับ
กระซิบพรอดกอดแขนแน่นกระชับ
บอกความลับใจเพ้อให้เธอฟัง
วอนเธอฟังไม่เบื่อเมื่อประจักษ์
ขอความรักเอ่ยฝากมากมนต์ขลัง
รู้ความจริงเธอจ๋าอย่าได้ชัง
ฉันคงคลั่งหากร้างเธอหมางเมิน
ฝากหัวใจไถ่ถามลืมความขลาด
บรรจงวาดรักงามข้ามขัดเขิน
คิดตรงกันรักหอมพร้อมเผชิญ
ร่วมก้าวเดินเคียงข้างเป็นนางใจ
ข่มความอายกลางสายหมอกขอบอกรัก
เธอตระหนักจะเครียดรังเกียจไหม
รักล้นทรวงเกินเก็บต่อขอบอกไป
เก็บไม่ไหวขอฝากฝัน............ฉันรักเธอ
8 กุมภาพันธ์ 2550 07:37 น.
เพียงพลิ้ว
หวังใจพบประสบขวัญสักวันหนึ่ง
ร้อยคำนึงลอยลมพรมสายฝัน
อัสสุชลหล่นพร่างแทนรางวัล
ปรายปลอบขวัญคนรอผู้ทรมาน
ณ วันนี้ วันไหนไม่เคยเปลี่ยน
ทุกคืนเพียรตั้งจิตอธิษฐาน
ขอคนดีสางภาระพันธการ
มาพบพานรักงามตามเวลา
หวั่นความหวังเลื่อนลอยคอยคนเก้อ
ยังละเมอเฝ้าคอยละห้อยหา
อย่าทำร้ายหัวใจนะไกลตา
แม้วาสนาอาจคอยคนไปจนตาย
ฝากสายลมพรมคำย้ำใครหนึ่ง
มอบคิดถึงข้ามฟ้ามาถวาย
โปรดกลับมาแลเหลียวคนเดียวดาย
มาเติมสายสัมพันธ์ให้มั่นคง
อยู่กับใครที่ไหนกันในวันนี้
จงรู้มีใครหนึ่งพึงประสงค์
วาดนิยามความรักภักดิ์ซื่อตรง
จิตผจงฝันใฝ่ไกลเกินจริง
ใจน้อยคอยคนจึงบ่นหา
วานปลายฟ้ารับคำน้ำใจหญิง
หากเอ่ยปากพบได้ไม่ประวิง
จะไม่นิ่งไป.........ไปข้างเธอ