22 มีนาคม 2554 16:16 น.
เพียงพลิ้ว
ความผูกพันบั่นลงคงครวญคร่ำ
เคยจดจำใส่ใจหรือไม่หนอ
ความอาทรอ้อนออดพรอดพะนอ
หรือเพียงพ้อติดตรึงซึ้งในทรวง
ถนอมแคร์แค่ไหนคงไม่สน
จำแต่ต้นรักขมจมสุดห้วง
ระลอกช้ำรอยน้ำตาผวาตวง
อยากผ่านล่วงรอยร้าวคราวรักลา
ดอกแคร์บานสะพรั่งอยู่ฝั่งนี้
คนทางนั้นบอกใจไม่มีค่า
ปล่อยดอกแคร์แห้งเหี่ยวไม่เหลียวมา
มิรู้ว่าคนนี้ยังมีใจ
ดวงดอกแคร์เบ่งบานสะท้านหมอง
อยากเรียกร้องรักชื่นคืนมาได้
ยังถวิลกลิ่นรักหอมย้อมวันวัย
มั่นคงในเสน่หาเวลางาม
18 มกราคม 2554 08:58 น.
เพียงพลิ้ว
เกิดมะเส็งวันเสาร์เศร้าดวงจิต
พรหมลิขิตทางรักให้หักเห
ริ้วรอยยอกตอกย้ำเจ็บจำเจ
เพียงโศกเห่จมปลักพิษรักลาม
คงความหมายสายใยไหวรู้สึก
รอยแผลลึกรอยจำย้ำทักถาม
หนาว..สะท้าน..บานปลายขยายความ
เกินหักห้ามโอดครวญหวนหารัก
หนึ่งหัวใจไม่อาจสอยฝันลอยห่าง
ฤาแตกต่างเกินชมไม่สมศักดิ์
แต่เริ่มต้นคนนี้ยังพลีภักดิ์
มิเคยหักห้ามได้หัวใจตน
วาสนาอาภัพรักประจักษ์ได้
ความเป็นไปโชคชะตายากฝ่าด้น
เก็บรอยฝันวันชื่นขื่นยอมทน
สะอื้นหม่นลึกซึ้งคิดถึงคำ
เก็บเพียงช้ำกำไว้ไม่สมหวัง
รากรักฝังล้ำลึกรู้สึกระส่ำ
อีกกี่หน..ทนชอกระลอกช้ำ
เจ็บไม่จำคงเป็นเหมือนเช่นเคย
ต้องลมหนาวผ่าวไหวเหมือนใครอ้อน
ยังอาวรณ์รักคลายเสียดายเผย
หวนวันรื่นชื่นผกาหอมน่าเชย
ลมรำเพยพัดห่างรักร้างโรย
10 ธันวาคม 2553 15:45 น.
เพียงพลิ้ว
เขียนถึง...ความเหน็บหนาวคืนดาวหม่น
จากหนึ่งคนแววฝันไม่ทันเห็น
หมดความหวังนั่งนิ่งสิ่งที่เป็น
เจ็บยากเร้นซ่อนขื่นกลืน....เสียดาย
เขียนถึง....ความหวานชื่นคืนแห่งฝัน
ความผูกพันเคยหวามงามความหมาย
กลับร่วงโรยโรยราน้ำตาปราย
ยิ่งใจหายเคว้งคว้างถูกหมางเมิน
เขียนถึง....คนหนึ่งนั้นพันใจฝาก
รักคว้ายากแตกต่างจึงห่างเหิน
อยากครอบครองจองเยื่อใยไกลเหลือเกิน
เพียงเพลิดเพลินชื่นชั่วครู่แล้วลู่เลือน
เขียนถึงตน......คนดื้อ
รับได้หรือรักคลายความหมายเคลื่อน
มีแต่ยอกตอกย้ำน้ำตาเตือน
สายใยเลื่อนยากคืนกลืนน้ำตา
เขียนถึงใจในวันหวั่นความเจ็บ
ซึมซับเก็บอยู่เรื่อยเหนื่อย..ผวา
ล มไม่ติงยิ่งเงียบเยียบปลายฟ้า
หมดเวลาเก็บกำหอมคำใคร
ความทรงจำคำนึงซึ้งสนิท
ตรึงดวงจิตขอลบจบลงไหม
หยุดเสียทีพิรี้จำครวญร่ำไร
หวานหวามไหวร่ำรื่นคืนหมดแล้ว
24 พฤศจิกายน 2553 15:02 น.
เพียงพลิ้ว
เพราะความรักภักดีมีความหมาย
เฝ้าซึ้งสายอาทรแต่ก่อนหลัง
พาหัวใจผูกติดอนิจจัง
ดักดานขังเจ่าจุกกับทุกข์ตรม
เก็บสายใยใส่รู้สึกผลึกมั่น
เก็บผูกพันห่วงหามาห่อห่ม
เก็บทุกสิ่งยิ่งหนาวร้าวระทม
เก็บอารมณ์ลึกสุดอยากหยุดคิด
ช่างอ่อนไหวไม่นิ่งทุกสิ่งอย่าง
ช่างเคว้งคว้างยิ่งทุกข์ยิ่งผูกติด
ช่างล้าเหลือเมื่อใจไม่มีทิศ
รู้ถูกผิดหากเมินหน้ามิกล้าทำ
รอยระทมห่มใจไกลเกินหยั่ง
รอยรักฝังล้ำลึกรู้สึกระส่ำ
อีกกี่หนทนยอกระลอกช้ำ
เก็บทุกคำเคยอ้อนออดกอดแนบใจ
เหนื่อยกับการก้าวตามความรู้สึก
ยิ่งเจ็บสึกสับสนคนอ่อนไหว
ทั้งขมหวานบานปลายขยายไกล
ความเป็นไปวันรักร้างคงค้างคา
คงสักวันบรรเทาเงาหลอนเจ็บ
อยากซ่อนเก็บรอยระทมข่มเสน่หา
อยากลืมลบจบสะบั้นสัมพันธ์ลา
เลิกห่วงหาความผูกพันเมื่อวันวาน
เดือนสิบสองน้ำนองสองตลิ่ง
หัวใจนิ่งตั้งจิตอธิษฐาน
ขอปลดปล่อยรอยระทมเคยห่มมาน
ทิ้งขมหวานนิ่งเฉยเจ็บเคยแล้ว
10 พฤศจิกายน 2553 09:29 น.
เพียงพลิ้ว
รักงามง่ายวายไวได้รู้แจ้ง
ถ้อยแถลงวันวานหวานเหือดหาย
รูปรอยฝันพลันขมปมรักคลาย
เหลือคำร้ายห่างเหินเจ็บเกินทน
ลมหนาวผลักรักเขวเสน่ห์หาย
ร้องฟูมฟายร่ำไรไม่เกิดผล
ยิ่งเฝ้าหวนทวนคำน้ำใจคน
ยิ่งสับสนยากนักจะหักใจ
ริ้วลมลวงล่วงผ่านรอยหวานเหลือ
คงฝากเยื่ออาวรณ์ชวนอ่อนไหว
ระหว่างเหงาเงาโศกโลกพิไล
สิ่งดีในคราวก่อนยังย้อนจำ
มีเยื่อใยให้คิดถึงครั้งหนึ่งหวาน
คงเจือจารท่ามขมขื่นลอบกลืนกล้ำ
ไม่อินังขังขอบลอบทวนคำ
วันคืนซ้ำฝันใฝ่ไม่เป็นจริง
สายรักเอยเคยมั่นกลับสั่นไหว
เคยพิสมัยรักชอบมอบทุกสิ่ง
ทั้งหวานขมห่มรักอุ่นพักอิง
คิดถึงยิ่งหวังคืนกลืนน้ำตา
ใจดวงนี้รักมิได้ง่ายรู้จัก
พอได้รักจึงแน่นดังแผ่นผา
พอได้รู้เรื่องรักประจักษ์ตา
กลับได้คว้ารักขมหลงลมลวง