27 มีนาคม 2554 09:17 น.
เพรง.พเยีย
1.
๏ โอ...นั่น..กำแหง..แห่งแผ่นคลื่น
กวาดกลืนทุกอย่างที่ขวางหน้า
โลกพลิกแผ่นผืนพสุธา
พริบตา..โค่นปรักหักพัง
๏ โอ...เสียงครืนครืน..ของคลื่นยักษ์
ทะลักทะเลมา..อย่างบ้าคลั่ง
บรรเลงเพลงโศกให้โลกฟัง
โถมถั่งเข้าหาอย่างท้าทาย
๏ โค่นหักพังราพณาสูร
พอกพูนทับถมแล้วจมหาย
ชีวิตถูกซัดกระจัดกระจาย
ทลายย่อยยับในฉับพลัน
๏ อุบัติเพียงพริบแห่งวิปโยค
ถึงคราทั่วโลกไห้โศกศัลย์
สุดที่มือสองจะป้องกัน
แค่ทันชีวิต..เหลือติดมา
๏ พี่น้องถูกซัดจนพลัดพราก
กองซาก..ผู้คนออกค้นหา
หัวใจคอยเฝ้าภาวนา
ผืนดินแผ่นฟ้าโปรดปรานี
2.
๏ เพื่อนเอย...ทุกข์ที่เธอเผชิญอยู่
เรารับรู้แก่ใจ..ข้างในนี่
ยามเธอต้องเผชิญหน้ากับนาที
เมื่อเกิดมีเหตุพลันมหันตภัย
๏ ความรู้สึกร่วมขื่นนับหมื่นแสน
มากกว่าแผ่นดินนั้นที่สั่นไหว
ปรารถนาจากทั่วทุกหัวใจ
ร้อยร่วมไปส่งมอบคอยปลอบโยน
๏ ตึกอาคารบ้านช่องเคยมองเห็น
กลับกลายเป็นกองปรักที่หักโค่น
หิมะซ้ำร่วงกราวจนขาวโพลน
ทุกแดนโพ้นพวกเราล้วนเข้าใจ
๏ น้ำตาเธอปรากฏลงหยดหยาด
จะเอื้อมปาดน้ำตาที่มันไหล
ข้ามทะเลผ่านทางอันกว้างไกล
สู่เพื่อนใต้ชายคา..ฟ้าเดียวกัน
๏ แม้กำลังคลื่นยักษ์สักเพียงไหน
หากน้ำใจห่วงหามากกว่านั่น
นับล้านมือร่วมแรงช่วยแบ่งปัน
หวังความทุกข์เธอนั้นได้บรรเทา
๏ มือล้านมือทุกทิศจะหยิบยื่น
ส่งความชื่นช่วยซับความโศกเศร้า
จุดแสงไฟยามที่..โลกสีเทา
กว่ารุ่งเช้าตะวันคืน..ขึ้นอีกครั้ง
๏ กลางหิมะเหน็บหนาวและขาวโพลน
แทรกลุกโชนงดงามด้วยความหวัง
เบญจมาศ..ทรนงจะคงยัง
บานสะพรั่งออกเผย..อย่างเคยเป็น
๏ เชื่อ..ฉันเชื่อในอีกไม่นาน
เธอจะผ่านวิปโยคให้โลกเห็น
ก้าวข้ามชะตาวันอันลำเค็ญ
เสมอเช่นดวงอุทัย...หัวใจเธอ