30 มีนาคม 2551 20:50 น.

..... รอยวัน .....

เพรง.พเยีย


๏  ปลิดปลิวร่วงพรูลงสู่พื้น 
ดาษดื่นซากใบตรงเบื้องหน้า
ใบแล้วใบเล่า..หล่นคว้างมา
ราวเตือนว่า..ถึงแล้ว..ฤดูแล้ง

......................................

๏  ร้อนแล้งที่ประดังในครั้งนั้น
ใต้ตะวันฉายวาดลงสาดแสง
รอบวัฎหมุนเวียนคงเปลี่ยนแปลง
เติมแต่งเต็มกฎฤดูกาล

๏  แต่หากร้อนแล้งในวันนั้น
เหมือนฝัน..เหมือนมี..ปาฏิหาริย์
เมื่อเธอ..ผู้เสมือนดั่งดวงมาน
ก้าวผ่านเข้ามาปรากฏกาย

๏  แล้วโลกทั้งโลกก็เปลี่ยนไป
หัวใจไหวลามด้วยความหมาย
เสมือนหยาดหยดโรยขึ้นโปรยปราย
สลายรอยแล้งในแหล่งทรวง

๏  ค่อยค่อยซึมซับประทับไว้
สู่ใจด้วยแสนความแหนหวง
ละเลียดลึกล้ำใจทั้งดวง
หนึ่งช่วงลึกซึ้งอันตรึงตรา

๏  ก่อนหยดหยาดงามในยามแล้ง
จะเหือดแห้งด้วยแดดอันแผดกล้า
เพื่อคอยเลือนหายต่อสายตา
ลับลา..จนเหมือน..ไม่เคยมี

๏  ทิ้งไว้เพียงรอย..ที่ไร้ร่าง
อ้างว้าง..ว่างเปล่า..จนล้นปรี่
ผ่านวัน..ผ่านเดือน..ผ่านปี
วิถีทอดทางจนห่างไกล

......................................

๏  วันนี้..สายลมฤดูร้อน
พัดย้อนรอยวันจนหวั่นไหว
ปาฏิหาริย์..ลับล่วงผ่านดวงไฟ
เผาไหม้..กับคำนึง..ครั้งหนึ่งมี

				
2 มีนาคม 2551 07:37 น.

..... โสมส่องแสง .....

เพรง.พเยีย



วสันตดิลกฉันท์ ๑๔

๏   แสงโสมประโลมนยะจะกล่อม  
จะถนอมหทัยนวล
กล้ำกรึงคะนึงทุขะกระบวน    
มนะหวนบ่เลือนหาย

๏  มองจันทร์ก็ผันจิตะกระหวัด  
ปฏิพัทธะพี่ชาย
แม้ห่างระหว่างระยะจะหมาย  
จิตะคล้ายบ่คลายคลอน

๏  จันทร์เอยผิว์เผยบทะสล้าง  
รุจิพร่างฑิฆัมพร
ภาพเอยก็เผยบทะสะท้อน  
ตะละตอนก็ขับไข

๏  เยียบเย็นบ่เว้นขณะคะนึง  
พละตรึงกะหนึ่งใคร
โอ้ลาญจะผลาญจุละไฉน  
อุระไหม้ก็ยังคอย

๏  ดวงใจไฉนบ่ละถวิล   
บ่ชะจินตะจางรอย
แม้กาละผ่านกมละพลอย  
จะละห้อยระโหยหา

๏  หรือกรรมะนำทุรประสบ  
เฉพาะพบก็เพื่อพา
รับทัณฑ์มหันตะกะสภา-  
วะจะฝ่าก็สุดฝืน

.......................................

๏  พร่างพรายระบายศศินะแสง
ชุติแต่ง ณ ค่ำคืน  
ขอจันทระบั่นนิละทะมื่น
ทะนุยื่นประโลมนวล				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเพรง.พเยีย
Lovings  เพรง.พเยีย เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเพรง.พเยีย
Lovings  เพรง.พเยีย เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเพรง.พเยีย
Lovings  เพรง.พเยีย เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงเพรง.พเยีย