19 มิถุนายน 2550 05:03 น.
เพรง.พเยีย
๏ ยกมือขึ้นปาดน้ำ.................ตานอง
เกินข่มความหม่นหมอง..........อกไหม้
ฤาเพรงสาปพรากสอง.............สายสวาท
กำหนดตามชดใช้..................ชาตินี้จึงสนอง ฯ
๏ พี่เอยเจียนแหลกแล้ว..........วิญญาณ
ดั่งถูกเด็ดดวงมาน..................ออกขยี้
เหลือเพียงร่างซมซาน.............ทรงอยู่
จำพรากนับแต่นี้.....................โศกน้องใดเหมือน ฯ
๏ ศักดิ์น้องเพียงต่ำต้อย.........สามัญ
ศักดิ์พี่สูงเทียบทัน..................ลูกเจ้า
บุญสร้างแต่ปางบรรพ์.............ไป่เท่า พี่เฮย
เพรงบาปซ้ำตามเร้า...............แยกสิ้นเราสอง ฯ
๏ พี่จำฝืนส่งน้อง...................กลับไป
ทั้งสุดแสนอาลัย.....................รับรู้
แต่รักต่างกันไกล...................เกินฝ่า
ตระหนักน้องเพียงชู้...............แม่ค้ารามัญ ฯ
๏ คำนึงน้องดั่งน้อย...............วาสนา
ไม่อาจฝืนชาตา.....................กีดกั้น
กำแพงศักดิ์ขีดพา.................พลัดพราก
ความรักต่างชนชั้น................ต่างเชื้อได้ไฉน ฯ
๏ ก้มกราบกล่าวสะอื้น...........อำลา
รินร่ำกับน้ำตา.......................ไป่แห้ง
มวยผมปลดเทียบมา.............เช็ดบาท พี่เนอ
โอ้อกน้องเหือดแล้ง...............แหลกล้วนเทวษเหลือ ฯ
๏ น้องเอยอย่าร่ำไห้.............อาวรณ์
ใจพี่แทบขาดรอน................ดุจเจ้า
แต่หน้าที่ลิขิตจร..................ลาจาก
ชาติศักดิ์ย่อมเหนือเกล้า.......ตระหนักต้องกตัญญู ฯ
๏ เงยหน้าเถิดนิ่มเนื้อ..........อย่าตรม
พี่จักกอบปอยผม..................ผูกให้
น้ำตาแห่งระทม...................ทุกหยด หยาดเนอ
พี่จักซับรองไว้......................ตราบสิ้นกระแสกรรม ฯ