29 เมษายน 2550 06:42 น.

..... ฟ้าจรดทราย .....

เพรง.พเยีย


๏  ระลอกคลื่นเคลื่อนพาเข้าหาฝั่ง
มาซบหยั่งผืนทรายระบายใส
วาดคิดถึงผ่านห้วงทั้งดวงใจ  
เป็นความไว้สลักถ้อยกับรอยทราย

๏  ผ่านผืนน้ำเต็มตวงห้วงสมุทร  
สู่สูงสุดบนเบื้องเป็นเครื่องหมาย
ให้ผืนน้ำแทนหมึกจนหมดปลาย  
เขียนบรรยาย รัก ผ่านบนลานฟ้า

๏  หมายขอบฟ้าตอบแทนวงแขนอุ่น 
ไปเคียงหนุนแนบสนิทสเน่หา
ฟังเสียงคลื่นหวานร่ำจำนรรจา  
กระซิบว่า..เพียงร่างที่ห่างกัน

๏  ให้ลมผ่านโอบนำทุกสัมผัส  
เป็นสายรัดอิงแอบไว้แนบขวัญ
พร้อมคิดถึงฝากนำมากำนัล  
ร้อยสัมพันธ์เชื่อมทางระหว่างเรา

๏  จากขอบฟ้าจรดทรายถึงปลายฝั่ง 
สู่บัลลังก์ใจรักสลักเสลา
ทุกร่างรอยคอยเคียงใช่เพียงเงา    
ถวิลเฝ้าคืนมา...ร่วมฟ้าเดียว..

				
22 เมษายน 2550 07:51 น.

..... ร่างศิลา .....

เพรง.พเยีย


๏  เพ่งภาพพลันนึกย้อน.............อโยธยา  พู้นเอย
ตรึกกอปรคำตำรา.....................กล่าวอ้าง
ยอยศยิ่งราชธา-.........................นีเอก
เหล่าวัดเหล่าวังสร้าง..................เสกแม้นเมืองสวรรค์ ฯ

๏  เมืองอู่ข้าวอู่น้ำ......................บริบูรณ์
ล้วนแหล่งทรัพย์เกื้อกูล...............ก่อตั้ง
ลำน้ำใหญ่รวมศูนย์.....................ไหลสบ
เสริมส่งเมืองให้รั้ง......................ท่าค้าสำคัญ ฯ

๏  ศิลปะงามเลิศล้ำ.....................ศรีบุรินทร์
ด้วยปราชญ์แลศิลปิน...................ประดิษฐ์ไว้
สร้างสรรค์รูปแบบจิน-..................ตะภาพ ใหม่เนอ
จนจวบวันนี้ไซร้............................สืบซ้องสรรเสริญ ฯ

๏  อโยธยาแว่นฟ้า......................เวลา  นี้เอย
ล้วนอิฐเศษศิลา..........................เกลื่อนว้าง
เห็นก่ายแต่กองอา-.....................ดูรเทวษ
ซากวัดซากวังร้าง........................ล่มแล้วฤาไฉน ฯ

๏  นั่นหรือ! ปราสาทคุ้ม................เขตวัง
ตำหนักศรีบัลลังก์.......................ฉัตรแก้ว
โอ้..เห็นแต่พาบพัง......................พูนสาป
เพลิงศึกโหมสิ้นแล้ว....................ล่มร้างเลือนสยาม ฯ

๏  นั่นซากทรงส่วนแจ้ง................เจดีย์
ยอดจรดราวคีรี............................เรี่ยฟ้า
ต่างโกศพระภูมี..........................มิ่งสถิต
เทิดเกียรติไว้เอ่ยอ้า....................ออกครั้งครองสมัย ฯ

๏  กลับเหลือเพียงหม่นให้............แหงนมอง
ด้วยศึกเผาสิ้นผอง.......................ภาพอะเคื้อ
เหลือร่างบอกเรืองรอง................รอยอดีต
สูญศักดิ์แทบสิ้นเชื้อ....................ชาติแกล้วกรุงศรี ฯ

๏  เหล่าราษฎร์คงตื่นไห้...............อาดูร
กี่ศพในกองกูณฑ์.......................เกลือกเถ้า
ข้าศึกแล่งดับสูญ........................พินาศส่ง
การณ์สุดสะอื้นเคล้า...................ขื่นร้องระงมเสียง ฯ

๏  รอบเมืองเคยแกร่งด้วย...........ปราการ
มากลับกลายล่มลาญ..................แหลกได้
ต้องพลัดถิ่นทิ้งฐาน....................แต่เกิด  เนาเนอ
คอยอยู่อย่างยากไร้....................ทั่วร้างเทวษเหลือ ฯ     

๏  บ้านเมืองเหลือจักฟื้น..............บูรณา
แท้เหตุใดนำพา..........................พินาศนี้
หรือการดั่งตำรา..........................เราบอก
แจงเหตุล้วนบ่งชี้.........................หนึ่งไว้สำคัญ ฯ

๏  การณ์นั้นคือแตกข้อง..............สามัคคี
จึงเปิดช่องไพรี...........................ล่วงล้ำ
เข้าเหยียบย่ำธานี........................เลือกเข่น
จนสุดทานเพลี่ยงพล้ำ..................แตกแพ้พังหนี ฯ

๏  เหลือเมืองเพียงกล่าวใต้..........ตำนาน
กับซากอิฐโบราณ.......................แหล่งอ้าง
ไว้คอยบอกลูกหลาน....................เราสืบ
สูงสุดสู่ล่มร้าง.............................เหตุนั้นจากไฉน ฯ
				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเพรง.พเยีย
Lovings  เพรง.พเยีย เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเพรง.พเยีย
Lovings  เพรง.พเยีย เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเพรง.พเยีย
Lovings  เพรง.พเยีย เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงเพรง.พเยีย