14 กรกฎาคม 2549 04:39 น.
เพรง.พเยีย
๏ จากรอคอยเฝ้าเคียงแต่เพียงหนึ่ง
ร้อยคำนึงส่งให้ด้วยใจฝัน
แล้ววันนี้ช่วงต่างเคยห่างกัน
กลับพ้องผันมาผสานบนลานใจ
๏ เปิดคืนวันหม่นหมองให้มองเห็น
จากมี / เป็นชอกช้ำเคยร่ำไห้
กลบทุกรอยเศร้าระคาง..ตราบจางไป
จึงสดใสเอิบค่าด้วยอาทร
๏ หยัดใต้ฟ้าสีครามของยามนี้
มอบวจีร้อยสลักเป็นอักษร
ตราบเห็นฟ้าไม่สิ้นทินกร
ไม่ถอดถอนรักซึ้งเพียงหนึ่งชาย
๏ ใจดวงเดียวจากน้องจักคล้องสู่
ใจเรียมผู้ร่วมตามสืบความหมาย
สานเยื่อใยสองขวัญจนวันวาย
ไม่คลอนคลายพิศวาสทุกชาติยาม
๏ ขอเคียงคอยหนึ่งใครด้วยใจภักดิ์
ยอมหาญหักทั้งสิ้น...คำหมิ่นหยาม
จักบาลบ่มผสมบทให้งดงาม
ยิ่งแม้นความ...จากรักทุกวรรคคำ
๏ หอมเอยหอม..คำฝากมาจากพี่
ผ่านมาลีหลอมปรุงจรุงร่ำ
โลมอกนวลอิงแอบไว้แนบนำ
ต่อเพรงกรรมผูกสองครรลองกานต์
๏ ชื่นเอย..จักร้อยบ่วงพวงบุปผา
เป็นมาลา..กอปรคำไปพร่ำขาน
ว่าหอมนี้..หอมหวงดั่งดวงมาน
ด้วยตราบนานถนอมอยู่..เพียงคู่เรียม
2 กรกฎาคม 2549 19:43 น.
เพรง.พเยีย
๏ หยาดสินธุรินผละละสวรร-
คะละหลั่นไผทนอง
รื่นล้ำเพราะสัมผัสะละออง
สุขะผองก็เผยผาย
๏ เย็นนั้นก็ผันจิตะกระหวัด
ปฏิพัทธะพริ้งพราย
หนึ่งใครบ่ไกลระยะจะหมาย
ฤดิคล้ายจะใกล้เห็น
๏ ดำรงพะวงจิตะคะนึง
บทะพึงก็เพียบเพ็ญ
ตรองพากย์ก็ยากอุระจะเร้น
รติเว้นบ่หวั่นไหว
๏ เอิบอวลกระบวนนยะประโลม
ทะนุโสมนัสใคร
อาวรณ์จะผ่อนพละไฉน
ยุติไห้คะนึงหา
๏ เห็นแต่จะแผ่รติพิเศษ
ดละเตชและเมตตา
โหมใครหทัยพิริยะอา-
ทระค่า ณ ในคราญ
๏ ชื่นเอยเพราะเผยรหัสะเลศ
อุปเฉทะสองมาน
รับรองจะปองภพะผสาน
นรกานต์ตลอดไป