27 มิถุนายน 2551 17:15 น.
"เพชรสังคีต"
....บุหลันลอยเลื่อน
พลิ้วเพลงซอสามสายกำจายเสียง
ประสานสายรายเรียงสำเนียงสี
เสนาะโสตศัพท์ทิพดนตรี
แสนซาบซึ้งดวงฤดีคีตการ
เพลงบุหลันลอยเลื่อนคงเตือนจิต
ให้หวนคิดถึงพระองค์ทรงสุขศานต์
ผ่านฟ้าฉิมอิ่มทิพยพิมาน
ปราศจากทุกข์สุขสราญดาลฤดี
แสนเสนาะเพลงกานท์ประสานดัง
กล่าวถึงสังคามาระตาเรืองศรี
องค์อิเหนาใช้ไปป่าพนาลี
แต่งคูหาให้จงดีจะจรมา
จะพาโฉมบุษบานั้นมาด้วย
เจ้าจงช่วยแก้เข็ญเห็นแก่ข้า
สั่งเสร็จพระใช้ให้ไคลคลา
แต่งสุวรรณคูหาพนาลัย
ฝ่ายองค์สังคามาระตา
แต่งคูหาห้องทองฉลองไท้
สะตาหมันพรรณพฤกษาระดาไป
พระร่ำไรถึงองค์ระเด่นมนตรี
"กิดาหยันหมอบกรานอยู่งานพัด
พระบรรทมโสมนัสอยู่ในที่
บุหลันเลื่อนลอยฟ้าไม่ราคี
รัศมีส่องสว่างดังกลางวัน
พระนิ่งนึกตรึกไตรไปมา
ที่จะแต่งคูหาสะตาหมัน
ป่านฉะนี้พระองค์ทรงธรรม์
จะหนับวันเคร่าคอยทุกเวลา"
วลาหกปกบังบุหลันฉาย
ซอสามสายบรรเลงเล่ห์เสนหา
ลำนำเพลงพร้อมกานท์บูราณมา
จงซาบซึ้งตรึงตราอย่ารู้คลาย ฯ
(ผ่านฟ้าฉิม - พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ ๒)
(ในเครื่องหมายอัญประกาศคู่ "..." เปนสำนวนพระราชนิพนธ์ใน
พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย จากบทละครเรื่องอิเหนา)
21 มิถุนายน 2551 12:09 น.
"เพชรสังคีต"
....เพ้อ
สุริยาลาเลื่อนลับ จันทรทับกระจ่างหาว
เดือนจับดับดวงดาว ขาวเหมือนน้องละอองนวล
แสงจับขลับน้ำค้าง เหมือนเนตรนางยามแย้มสรวล
ไผ่กอล้อลมยวน คล้ายกระบวนน้องเอียงอาย
ลมเฉื่อยเรื่อยกลิ่นหอม แก้วพยอมพิกุลราย
นึกน้องเจ้าปองหมาย กรายกรีดเล็บเก็บมาชม
บ้างกรองมาคล้องห้อย ต่างสายสร้อยพลอยภิรมย์
นางแย้มน้องแซมผม ชมเจ้ายิ้มยิ่งพริ้มเพรา
การเวกระงมสวรรค์ ซ่อนแสงจันทร์อันลำเพา
สกุณาเจ้าคงเหงา อิจฉาเราอยู่ร่ำไร
ชะเง้อชะแง้มอง ตามเสียงร้องก้องสดใส
อนิจจาน่าอาลัย เจ้าไฉนอยู่เอกา
ดึกแล้วเดือนจะดับ เจ้าจะลับไปไกลตา
แสงทองจะส่องฟ้า จะพาเจ้ายิ่งเศร้าใจ
แม้ใฝ่หัวใจรัก จันทร์จงชักมามอบให้
โผผินบินออกไป หายาใจในแสงทอง
ชมนกในราตรี นกบินหนีทีเศร้าหมอง
น้องอ้อนวอนตระกอง ประคองคู่อยู่คลอเคลีย
แม้พี่นี้เหมือนนก คงช้ำอกหัวใจเสีย
ถึงชื่นพวงพเยีย มิอาจฝืนกล้ำกลืนทน
ความรักนะความรัก เมื่อประจักษ์ให้สับสน
รักไร้ต้องใจจน ถึงรักล้นก็จนใจ
จงรักแต่พอดี หนึ่งชีวีหนึ่งฤทัย
มอบรักเพียงหนึ่งไว้ สุขสองใจนิรันดร ฯ
21 มิถุนายน 2551 12:01 น.
"เพชรสังคีต"
....สุนทรคำ สุนทรคุณ สุนทรภู่
บรรจงกานท์จารกลอนสุนทรสร้อย
เป็นมาลัยเรียงร้อยถ้อยคำหวาน
รำลึกคุณ "สุนทรภู่" ครูอาจารย์
ด้วยใจรักถักสานผลงานกลอน
พระสุนทรโวหารกล่าวขานชื่อ
ยังเลื่องลือรสคำที่ร่ำสอน
สุภาษิตสามเรื่องเรืองบวร
ได้อ่าน-ฟังสังวรมิคลอนคลา
ยังสำราญบานใจมิได้ขาด
ในนิราศเก้าเรื่องเปรื่องภาษา
นิทานห้าเสภาสองคล่องตำรา
สี่เห่กล่อมเห่ช้าหนึ่งละคร
อ้าครูกวีศรีสยามนามกระเดื่อง
ศิษย์ปราชญ์เปรื่องด้วยคำครูร่ำสอน
แม้พ้นผ่านกาลเวลาครูอาทร
ฝากคำกลอนสอนศิษย์นิจนิรันดร์
21 มิถุนายน 2551 11:53 น.
"เพชรสังคีต"
....อันกลอนไทยใช่จะไร้ในคุณค่า
จำเรียงถ้อยร้อยกานท์สำราญรื่น
รวยระรินกลิ่นเกสรเมื่อค่อนคืน
ปานดื่มกลืนชื่นทิพวารี
อันกลอนไทยใช่จะไร้ในคุณค่า
ด้วยงามกว่ามรกตที่สดศรี
ดังบุหลันทรงกลดหมดราคี
ราวมณียอดมงกุฏผุดพริ้งเพรา
ชโลธรกลอนกานท์เข้าซ่านฝั่ง
ระลอกแก้วแววหวังครั้งเงียบเหงา
พลันสะท้านสุขสันต์ไม่บรรเทา
สรรพสิ่งโศกเศร้ากลับเย้ายวน
อารมณ์รักหักอารมณ์อาลัยหาย
ร้อยกรองกลายความช้ำเคยกำศรวล
แปรเปลี่ยนปิ้มปางตายคลายคร่ำครวญ
สุขสำรวลยวนเย้าเข้าฉับพลัน
เพียงพิมานผ่านฟ้าจินดารัตน์
เพียงประภัสสร์อักษราค่าสวรรค์
เพียงอมฤตอิศราธาราจันทร์
เพียงแดนฝันอันสมรมณีย์
เพียงเจ้าฟ้าสุราฤทธิ์ประสิทธิสุข
เพียงดวงมุขเม็ดงามอร่ามศรี
เพียงหิ่งห้อยร้อยผองคล้องฤดี
เพียงนวรัตนามณีทวีแวม
อันกลอนไทยใช่จะไร้ในคุณค่า
งามยิ่งกว่าเพชรพรรณสรรแต่งแต้ม
งามยิ่งกว่าดาราคราเดือนแรม
เชิญเถิดท่านจารแจร่มจำเรียงกานท์ ฯ
15 มิถุนายน 2551 11:02 น.
"เพชรสังคีต"
....เหงา
โอ้อาลัยใจเหงาเศร้ากำสรวล
แสนทุกข์ทนหม่นไหม้พิไรครวญ
รักรัญจวนหวนหาทุกราตรี
ดาราเคลื่อนเดือนก็คล้อยร่วงลอยดับ
ดุเหว่าขับสำเนียงดังเสียงผี
ชะเง้อแง้แลป่าพนาลี
ไหวระรัวตัวชะนีขึ้นขี่ไม้
ไร้ลมพัดสงัดเงียบยะเยียบเย็น
เหมือนปีศาจซ่อนเร้นอยู่ใกล้ใกล้
เรือนเคยครื้นมโหรีทุกที่ไป
ยังแว่วเสียงปีในให้เวทนา
ต้อยตะตริดติดตี่ยินปี่ครวญ
สุดไห้หวนป่วนห้วงเสน่หา
ต้อยตะริดติดตอดยอดใจยา
สร้อยภาษาปี่เตรียมเหมือนเรียมตรอม
โอ้อกเอ๋ยไหนเคยชื่นเชยชิด
กลิ่นเนื้อนางพรางติดนาสาหอม
แสนลำเค็ญเห็นเขนยเคยดมดอม
มาสูญกลิ่นเกศพยอมนี่อย่างไร
ทั้งที่นอนหมอนฟูกสะอาดเอี่ยม
แท่นบรรทมหรือเทียมของพี่ได้
นี่มาทิ้งเตียงเราเจ้าห่างไป
เหลือไว้แต่รอยไรให้รกร้าง
ดอกลำดวนกิ่งย้อยลอยประทิ่น
กระไรหนอยุพินมาเหินห่าง
หอมซ่อนกลิ่นซ่อนรักหักใจพลาง
หรือซ่อนชู้แนบข้างไปแล้วน้อง
ระทมครวญหวนไห้ไม่วายโศก
รักอาภัพอับโชควิโยคหมอง
กอระกำงามเหลือเจ้าเนื้อทอง
จนต้นรักพี่-น้องต้องเฉาตาย ฯ