17 พฤษภาคม 2551 14:03 น.
"เพชรสังคีต"
ดาราเคลื่อนเดือนคล้อยลอยลับเมฆ
หวีดวิเวกแว่วเสียงสำเนียงใส
โสตเสนาะเพราะพริ้งหริ่งเรไร
รัญจวนใจจูบหล้ามาค่อนคืน
น้ำค้างพรมลมเย็นเล่นระลอก
อาบไอหมอกหยอกล้อพอสดชื่น
ไผ่บรรเลงเพลงพิสุทธิ์ให้หยุดยืน
ภิรมย์รื่นโลกหล้ากว่าเมืองพรหม
ท่านว่าเสียงออดแอดไผ่แอดออด
เสียงลมลอดพลอดพ้อซอประสม
เอนออดแอดแอดออดสอดสายลม
สิ้นขื่นขมชมไผ่พิไรมา
พระจันทรจรเคลื่อนลาเลื่อนลับ
พระอาทิตย์กระจ่างจับกับเวหา
โอ้อุษาแล้วหนอต้องขอลา
อย่าเคืองกันวันหน้าจะมาเยือน
จึงขอฝากมิตรจิตชิดฤทัย
ถึงฝากสิ่งอื่นใดไม่แม้นเหมือน
ไว้คำนึงถึงไผ่ได้ย้ำเตือน
ไผ่เป็นเพื่อนคลายเหงาของเราเอย
17 พฤษภาคม 2551 13:59 น.
"เพชรสังคีต"
ร่มจันทน์ รัญจวน หวนคิด
รักรุ่ม จุมพิต ชิดชื่น
ร่มจันทน์ จันทร์สาด ขาดคืน
ดวงใจ ไห้ฝืน ชื่นจันทน์
รื้อรูป จูบฝัน วันเพ็ญ
โสมส่อง มองเห็น เป็นฉัน
มีเธอ เพ้อพร่ำ รำพัน
ประจักษ์ รักมั่น ไม่คลาย
ลมโชย โรยริน กลิ่นหอม
แวดล้อม ลานจันทน์ พลันหาย
ช้อนช่อ คลอเคลีย เสียดาย
รักลับ กลับกลาย คล้ายจันทร์
สัญญา ครานั้น จันทร์แจ่ม
เราแรม ร่มรุกข์ สุขสันต์
บอกไว้ ไม่ทอด ทิ้งกัน
เกี่ยวก้อย ร้อยพัน สัญญา
คืนนี้ พี่มา ไม่เห็น
น้องซบ หลบเร้น ฤๅขา
พี่เหม่อ มองพรรณ จันทรา
สัญญา มาร้าง พรางไป
จันทร์เพ็ญ เห็นใจ ไหมหนา
สัญญา ว่าจริง ยิ่งใหญ่
น้องลับ สับสน จนใจ
ลืมแล้ว หรือไร ใต้จันทน์
ลมเอ๋ย เคยเคล้า เราพลอด
เอวอ่อน อ้อนออด กอดมั่น
บัดนี้ น้องลืม เลือนกัน
ทิ้งฉัน-จันทน์เปลี่ยว เดียวดาย
3 พฤษภาคม 2551 14:29 น.
"เพชรสังคีต"
จำเรียงกานท์จารกลอนสุนทรสร้อย
โอ้ว่าดาวคราวเคลื่อนคราเดือนคล้อย
เหมือนพิไรให้คอยน่าน้อยใจ
ยามคืนแรมแต้มดาวมาพราวพร่าง
เดือนอำพรางร้างนวลฉันหวนไห้
มองหาแสงแห่งโสมประโลมใจ
วอนฟ้าช่วยอวยชัยให้ฉันที
พอผ่านวันผันเวียนเปลี่ยนความคิด
นึกเชยชิดติดใจในแสงสี
หลงรักดาวลืมเดือนเพื่อนราตรี
รักปักใจไม่มีที่จะคลาย
ยึดเอาดาวคราวแจ่มมาแต้มจิต
ฝากรักรุ่มจุมพิตไม่คิดหน่าย
ฝากคำครวญสรวลสันต์มิวันวาย
ฝากสัญญาว่าหมายแต่พรายดาว
พอพ้นสุขทุกข์ท้นมาหล่นทับ
ดาราดับลับหล้าเวหาหาว
ศศิธรจรกระจ่างมาพร่างพราว
ตะลึงงันจันทร์ขาวปวดร้าวแท้
แสนเสียดายเดือนเพ็ญเห็นอร่าม
เมื่อหมดงามหวามใจไม่แยแส
หลงดาราตราจิตไปติดแจ
ลืมดวงแขแผ่ผายอยู่พรายเพ็ญ
แสนเสียดายเดือนเพ็ญอันเด่นรัศม์
หลงกำหนัดทัดดาวคราวทุกข์เข็ญ
หวนประโลมโสมสาดแสงหยาดเย็น
ก็กลับเป็นเช่นชู้หดหู่เอย ฯ
2 พฤษภาคม 2551 14:54 น.
"เพชรสังคีต"
จำเรียงลำฉ่ำหวานผ่านวันว่าง
ไม่อำพรางร้างคำที่ร่ำเขียน
นึกไม่ออกลอกครูสู้ทนเพียร
แอบมิดเมี้ยนเรียนร่ำจากคำครู
หวังจะสืบให้เฟื่องไปเบื้องหน้า
ดังจินดาค่าเมืองอันเลื่องหรู
สมเก็จแก้วแววกวีที่ตราตรู
ถึงหม่นหมองลองสู้เพราะรู้กลอน
บทกวีศรีชาติอันปราชญ์เปรื่อง
ยังลือเลื่องลำนำในคำสอน
บทกวีศรีชาติศาสตร์สุนทร
ยังสังวรณ์ชาติไทยไปชั่วกัลป์
จากพยางค์เรียงทำเป็นคำขาน
ร้อยกรองกานท์ผ่านใจไปสู่ฝัน
ร้อยเป็นสร้อยอักษรกลอนสัมพันธ์
ร้อยเป็นสร้อยสรวงสวรรค์วันท้อแท้
ประคองลุกขึ้นสู้ริปูได้
คงชาติไทยเป็นไทให้แน่วแน่
"เขา" กลืนกินวัฒนธรรมทำเชือนแช
"เขา" หยิบยื่น-กลืน-แผ่ อย่างแยบยล
มาเถิดไทย,ผีโคตรยังโกรธกล้า
อย่ามัวบ้าตาม "เขา" เข้าสืบสนธิ์
ชูเกียรติไทยให้ตระหง่านซ่านสากล
ให้ผีโคตรคำรณ "ไชโยไทย !"
2 พฤษภาคม 2551 14:49 น.
"เพชรสังคีต"
"เพลงยาวใจเปลี่ยว ๑"
น้ำค้างพรมลมลิ่วมาฉิวชื่น
หอมราตรีที่บานสคราญคืน
พอให้ฝืนใฝ่หาต่างยาใจ
อยู่เอกาครานอนทอดถอนจิต
ถึงจุมพิตคิดครวญเจียนหวนไห้
นึกถึงหน้าสุดสงวนยวนฤทัย
ฤๅป่านนี้จะหลับไหลไปแล้วน้อง
ถึงยามนอนเจ้าจะวอนมาหนุนตัก
ถึงยามหยอกเจ้าจะผลักแล้วจักถอง
ถึงยามกอดเจ้าอ้อนออดแอบตระกอง
ถึงยามร้อนเจ้าร่ำร้องให้พัดวี
พอสไบเบี่ยงคล้อยลอยหลุดร่วง
กำซาบทรวงพวงพุ่มปทุมศรี
พอนางแอ่นแล่นลัดพนาลี
แทบหยาดยางโลกีย์ลงพร้อมกัน
ฉาฉาช้า การเวกจะร่ำร้อง
ไพเราะเพียงเสียงซร้องโสตสวรรค์
ครืนครืนครืน อโณดาตจะสาดจันทร์
กระฉอกชื่นคืนวันอันเริงรมย์
โอ้ว่าป่านฉะนี้เจ้าน้องน้อย
หวนละห้อยคอยชิดสนิทสนม
เพียงพ้นคืนสุขอื่นไม่ชื่นชม
เท่าสุขพี่สู่สมภิรมย์พลี
หากให้พี่คอยหาแล้วมาหาย
คงต้องตายแม้ร้างห่างยาหยี
กุญแจใจใครเล่าขังทั้งกายี
มิปล่อยพี่ก็คงตรมขื่นขมเอย ฯ