7 กรกฎาคม 2550 15:10 น.
"เพชรสังคีต"
"ฉันชื่อ ตาปู"
ฉันเหม่อมองท้องนทีที่กว้างใหญ่
ฉันเห็นเขาลำเนาไพรอันไพศาล
ฉันร้อนแดดโดดเดี่ยวมาเนิ่นนาน
ฉันหนาวฝนทนทานมานานปี
ฉันเห็นเขาพิงกันแบ่งปันสุข
ฉันทนทุกข์เพียงลำพังหวังสุขขี
ฉันมีเพื่อนคือฟ้าและวารี
ฉันรอคอยถึงวันที่จะได้พัก
ฉันเหว่ว้าเวิ้งว้างและว่างเปล่า
ฉันยืนเหงาเฝ้าธารมานานหนัก
ฉันอยากนอนซบเพื่อนที่ฉันรัก
รอก่อนนะไม่นานนัก...พักนิรันดร์ ฯ
7 กรกฎาคม 2550 14:49 น.
"เพชรสังคีต"
"ชมดง"
...ระยิบยับจับไพรในใอหมอก
เป็นระลอกอาทิตย์ส่องต้องชลสาย
สาดกระเซ็นลอยคว้างบางเม็ดพราย
ปะทะกายเสียวซ่านผ่านสู่ทรวง
บางเม็ดค้างยอดหญ้าน่าชมนัก
อีกสักพักร่วงรายดุจสายสรวง
หยาดลงผลอยพฤกษ์ชุ่มเป็นพุ่มพวง
คิดถึงรวงระย้าแก้วที่แพรวพรรณ
ลำดวนดงประยงค์บัวพิกุลเกด
สุดวิเศษส่งสุคนธ์วิมลสรร
ทั้งยี่สุ่นราชาวดีราตรีอัน
เชิญกระสันต์เสพสุขไปทุกครา
หากมีนวลนางน้องประคองสม
จะชี้ชมพลอดพร่ำร่ำบุหงา
ตระกองกอดสอดเสียงจำนรรจา
หากน้องยามาด้วยพี่จะดีใจ ... ฯ
7 กรกฎาคม 2550 13:51 น.
"เพชรสังคีต"
ความหวังของต้นหญ้า
....ตะวันลับขอบฟ้าพาสิ้นหวัง
อยู่ลำพังเปล่าเปลี่ยวเดียวดายเหงา
รับน้ำค้างชุ่มกออีกหนอเรา
ทรวงแสนเศร้าหนาวเหน็บเจ็บดวงใจ
เป็นแหล่งร่มพิงพักของนักเที่ยว
ราตรีเสียวทรวงซ่านยากทานไหว
คอยหลบบังหยาดน้ำค้างให้เรไร
ที่ร่ำร้องขจรไกลในรัตติ์กาล
ลมจะหนาวร้าวเจ็บจะเก็บหนาว
หยาดน้ำค้างพร่างพราวจะก้าวผ่าน
อีกกี่ร้อยเม็ดฝนจะทนทาน
จะรอกว่าทิวากาลเวียนผ่านมา ฯ...
7 กรกฎาคม 2550 13:41 น.
"เพชรสังคีต"
"เหนือเดือน ยังมีตะวัน"
ดารากุก่องกล้า.........รุจี
สาดส่องเพียงราตรี.........พร่างพร้อย
อาภาช่วงโสมศรี.........ดาวดับ สิ้นนอ
เลือนสู่เมฆคะค้อย.........ดั่งคร้ามแสงทอง
บุหลันลอยเชิดหน้า.........ฉานฉาย
แสงข่มดารายราย.........เถือกลี้
จันทราผ่องผันผาย.........ลอยเด่น
ทำหยิ่งเยาะถิ่นนี้.........บ่คร้าวกว่าตน
สุรีย์สาดแหล่งหล้า.........ยามงาย
ทอถับกลบจันทร์ฉาย.........พร่าสิ้น
ระเมียรเพ่งโสมพราย.........เทียบคู่
ดูดุจจะดับดิ้น.........โศกด้วยอับอาย
พิเคราะห์เอาสิ่งนี้.........สอนใจ
กาจเก่งมากเพียงไหน.........อย่าโอ้
สุขุมเช่นดาบใน.........ฝักนั่น
รอบคอบอย่าตอบโต้.........อริด้วยความผยอง
(รอบคอบจงตอบโต้.........อริด้วยปัญญา)