15 มกราคม 2552 08:07 น.
"เพชรสังคีต"
"ไม่มีทางที่จะแพ้แม้ใจท้อ"
เมื่อคำรักหักใจให้ตายเปล่า
ยังมัวเฝ้าฝักใฝ่หนอใจหนอ
ใจดวงเดียวเปลี่ยวกี่หนต้องทนรอ
หรือใจใครจะไม่ท้อระทมทุกข์
แค่เพียงหวังวาดฝันในวันพรุ่ง
เป็นวิมานสายรุ้งระเริงสุข
ล้างแร้งแค้นแสนทวีที่มีชุก
พอบรรเทาเจ่าจุกสนุกนึก
นี่ก็หนาวแสนหนาวสะท้านนัก
ประหารหักเท่าไหร่ไม่รู้สึก
หนาวแต่กายยังพอหายด้วยใจคึก
หนาวในใจหนาวระลึกรสรักแท้
ดูเวลาหมุนไปใจหวนคิด
เป็นเวรกรรมคำลิขิตพ่นพิษแผ่
เอาสิกรรมเอาให้ช้ำระยำแด
ไม่มีทางที่จะแพ้แม้ใจท้อ
เมื่อคำรักหักใจให้ตายเปล่า
ยังมัวเฝ้าฝักใฝ่หนอใจหนอ
ใจดวงเดียวเปลี่ยวกี่หนสู้ทนรอ
หรือใจใครย่นระย่อต่อรักแล้ว ?
15 มกราคม 2552 01:35 น.
"เพชรสังคีต"
"อาลัยรัก"
เวลาดึกเดือนต่ำน้ำค้างตก
หางจระเข้เหหกขึ้นกลางหาว
ประกายพฤกษ์ผ่องหล้ามาวับวาว
คิดถึงคราวเคียงน้องชวนมองดู
เคยซบเซ้าเย้ายอกศอกสะกิด
เจ้าลืมมิตรหวนไห้ใจหดหู่
กระดิ่งดังพี่ยังว่าโฉมตรู
ผูกช้องนางให้ลู่ระเริงปลิว
สวาทหมายแต่เจ้าสายสวาทรัก
แสนสวาทมิอาจหักสวาทหิว
สวาทครวญสวาทใคร่ใจเป็นริ้ว
สวาทลมสวาทลิ่วฤทัยไป
โอ้เจ้ายอดยาหยีของพี่เอ๋ย
กรรมรำเพยพัดแฝงไว้แห่งไหน
โอ้เจ้าดวงดอกฟ้าสุมาลัย
พี่เพิ่งชมชื่นใจใยพลันจร
เสียดายคืนเสียดายวันที่ผันผ่าน
เสียดายกานท์เสียดายกาพย์ซาบอักษร
เสียดายวารเสียดายเวี่ยเสียดายวอน
เสียดายองค์เสียดายอรสมรมิตร
เจ้าลืมวันจำเรียงว่าวาจารัก
จึงมาหนักใจมนุษย์สุจริต
เพราะเกรงสาวพวงโกสุมพุ่มโสภิศ
จ้วงชีวาจบชีวิตให้ปลิดปลง
ถึงพี่วอนกลอนกลบทพจนารถ
ก็มิอาจชักให้อาลัยหลง
คงแต่บุญแต่กรรมทำธำรงค์
อาจจะคงเคียงรักสักชาติเอย ฯ
7 มกราคม 2552 22:33 น.
"เพชรสังคีต"
....เพลงยาวใต้เงาจันทร์
ระรื่นรวยชวยชื่นกลืนกลิ่นกรุ่น
หอมมาลีรัตติกาลซ่านละมุน
ที่ดินฟ้าการุณระเริงรมย์
บุหลันฉายพรายภาพวับวาบหวิว
เป็นเรื่องราวลอยลิ่วปลิวประสม
ตำนานรักฝากฝันอันจ่อมจม
ชวนให้เหงาแหงนชมจูบลมโชย
ดารารัศมิ์เร่งแสงอวดแรงโสม
เหมือนเร่งรักหักโหมประโลมโหย
เราเหมือนดาวแข่งแขแพ้โอดโอย
รักจึงหน่วงร่วงโรยระทมเรียม
ฝากน้ำตาเติมหยาดน้ำค้างพร้อย
ถึงทุกข์ถ่อยเท่าไรไม่อายเหนียม
จะอดออมยอมตรมขื่นขมเกรียม
เพราะใจรักล้นเปี่ยมเทียมธารา
ถึงหลงรักก็ยังดีกว่าหลงเล่ห์
ถึงมิได้ถ่ายเทเสน่หา
ถึงมอดม้วยชีวิตอนิจจา
ถึงกระนั้นก็ยอมบ้าเพราะว่ารัก
บุหลันฉายพรายภาพวับวาบหวิว
ผ่านลมปลิวลิ่วไล้ได้ตระหนัก
สงสารตัวชั่วกระไรไม่หยุดพัก
ยังขื่นขมจมปลักภาพรักเดิม ฯ
3 มกราคม 2552 12:04 น.
"เพชรสังคีต"
....วันปีใหม่ลืมใครไว้หรือเปล่า
วันปีใหม่ ลืมใคร ไว้หรือเปล่า
ที่คอยเฝ้า ตรงนั้น วันห่างหาย
ยอมละทิ้ง ความสุข สนุกสบาย
เฝ้าบ้านให้ เจ้านาย ด้วยชีวิต
มองลอดรั้ว ออกไป ด้วยใจเหงา
ชะแง้เฝ้า ชะเง้อคอย ละห้อยจิต
เอาคางเกย กระถางไม้ ใจหวนคิด
เพราะว่าสิทธิ์ นั้นไม่มี อยู่ที่ใด
พ่อ..ไปเที่ยว แม่..ไปด้วย ดีไปหมด
ความสุขเริ่ม ปรากฏ แสนสดใส
เหลือแต่เรา อ้างว้าง วังเวงใจ
ไม่เป็นไร เพราะสุดรัก จึงหักจินต์
แม่เคยบ่น ว่าโลกนี้ กว้างใหญ่นัก
ให้พ่อพา ไปรู้จัก ไม่รู้สิ้น
โลกของพ่อ กับแม่นั้น คือแผ่นดิน
จึงไปเที่ยว ทุกถิ่น ที่อยากไป
ฮ่งฮ่งฮ่ง ส่งเสียง สำเนียงสนั่น
ใช่แล้ว ! พ่อ..แม่ฉัน ฉันจำได้
กลับมาแล้ว กลับมาแล้ว สุดดีใจ
เขาไปเที่ยว โลกใบใหญ่ กลับมาแล้ว
วิ่งเข้าโจน โผนใส่ ชื่นใจแม่
แล้ววิ่งแร่ มาทางพ่อ พอผ่องแผ้ว
ครางหงิ๋งหงิ๋ง เหมือนใจ ใคร่จะแซว
คิดถึงพ่อ แม่แก้ว นี้มากนัก
พ่อกับแม่ รู้ไหม โลกใหญ่นั้น
ถึงสำคัญ ไม่สนใจ ไม่ประจักษ์
โลกของฉัน ทั้งใบ ที่ได้รัก
คือสองแขน .. ที่ได้พัก รักเจ้านาย.. ฮ่งฮ่ง !!
7 ธันวาคม 2551 11:52 น.
"เพชรสังคีต"
....ลักษณวงศ์รำลึก
๏ จะจับคำทำเรื่องให้เฟื่องฟุ้ง
ด้วยดวงใจใฝ่ฝันจันทน์จรุง
ละเมอมุ่งหมายสานเป็นกานท์กลอน
จะเลียนแบบแยบคายครูให้รู้สึก
พอตริตรึกนึกทำตามคำสอน
ลักษณวงศ์ทรงเครื่องเรืองสุนทร
สุนทรภู่ครูกลอนว่าวอนไว้
ฉันชื่อเพชรสังคีตประณีตศัพท์
จะร้องรับขับขานตำนานไข
ตอนสุดท้ายมิวายทุกข์ระทมใจ
ทิพเกสรตักษัยบรรลัยลาน
ลักษณวงศ์ทรงทุกข์ระทมหมอง
กอดโกศทองของน้องพี่ที่ประหาร
ไม่ควรเลยยาใจจะวายปราณ
เพราะยี่สุ่นงุ่นงานพาลโกรธน้อง
พี่ก็หลงปลงใจมิได้คิด
ทุจริตผิดขึ้งจึงขุ่นข้อง
สละจริงทิ้งเยื่อใยไม่ปรองดอง
นวลละอองจึงอาสัญในวันนี้
อุตส่าห์ทุกข์บุกมาพาราเขต
แปลงเป็นพราหมณ์พรตเพศวิเศษศรี
กระนี้กูก็มิแหนงแคลงฤดี
ว่านวลพี่แปลงพราหมณ์ด้นตามมา
สะอื้นอ้อนอ่อนใจอาลัยรัก
อกจะหักเสียแล้วแก้วพี่จ๋า
สู้ทำแยบแอบแฝงแปลงลีลา
โอ้นวลแก้วแววตาอาลัยจริง
มาปะพบสบน้องเมื่อต้องทุกข์
วิปลาศคลาดสุขไปทุกสิ่ง
กรรมบันดาลพาลใจไม่ประวิง
กอดพระโกศแก้วมิ่งมาลาน้อง
"เปิดพระโกศมิ่งมิตรพิศพักตร์
โศกสลักทรวงในฤทัยหมอง
สะอื้นอ้อนกรกอดพระโกศทอง
ชลเนตรตกต้องพระปรางนาง
เอาผ้าทรงลงซับชลเนตร
ภูวเรศมิได้คิดอางขนาง
ละห้อยโหยโรยแรงกันแสงพลาง
โอ้ว่าปรางแม่ยังอุ่นละมุ่นมือ"
โอ้เจ้าแก้วแววตาตามหาพี่
จะสุขดีสักหน่อยน้อยไปหรือ
ว่าพลางทางละเมอเอออือ
กรรแสงฮือหอบซบสลบไป ฯ
************************************
บทในเครื่องหมายอัญประกาศคู่ คือสำนวนของพระสุนทรโวหาร (ภู่)