12 มีนาคม 2553 13:08 น.
เพชรพรรณราย
โลกเหว่ว้าน้ำตาคลอท้อกับเหงา
สุดแสนเศร้าเฝ้ารำพันทุกวันหมอง
เปล่ากายเปลี่ยวเดียวดายหม่นใจคนครอง
ใจสี่ห้องฟ้องว่าหนาวแสนร้าวราน
หวั่นใจไหวในชะตานิจจาเอ๋ย
ไฉนเลยไม่เคยหนอขอรักผ่าน
จ่อมจมบ่อการรอหวังสั่งสมนาน
เหมือนดวงมานจะผลาญสิ้นความยินดี
ดังบทเพลงบรรเลงไปไร้คนร้อง
ดังน้ำหนองคลองมันแห้งแล้งถิ่นที่
ดังฟากฟ้าไร้จันทรายามราตรี
ดังอินทรีย์ที่สิ้นลมให้ตรมตรอม
ห้วงภวังค์จึงหยั่งรากมากด้วยเหงา
เศร้ารุมเร้าเข้าโถมใจให้จมจ่อม
รักที่หวังช่างประสบพบรักปลอม
ใจจึงย้อมล้อมด้วยแพ้แก่ชะตา
อนิจจาวาสนาผู้หารัก
ต้อยต่ำนักศักดิ์ศรีที่ไร้ค่า
จะพบรักปักใจไหมในสักครา
หรอต้องมาพาแต่เศร้าเหงาจนตาย
12 มีนาคม 2553 13:05 น.
เพชรพรรณราย
เจ็บหลายคักยากหักห้ามตามใจอ้าย
ใจเจ้าฮ้ายทำลายฮักปักใจหนอ
ทิ่มอ้ายไปให้เจ็บช้ำคำตัดพ้อ
ซ่ำนี่พอขอจบกันฉีกสัญญา
ใจของอ้ายมลายแล้วดังแก้วแตก
น้ำตาแทรกแฮกสองแก้มแต้มใบหน้า
ฮอยความหลังฝังเป็นแผลแต่นั้นมา
แป๋ตายหนาน้องยาเจ้าเศร้าบ่วาย
กำคอขวดดวดเหล้าเมากับหมู่
ตั้งวงอยู่ดูหมอลำนำสหาย
นั่งฮ้องไห้ไผว่าหนอบ่ได้อาย
ฮักเฮาพ่ายเจ็บหลายหมู่สูอย่าซา
หมอลำกลอนฟ้อนแอ่วแซวบ่าวน้อย
บอกสอยสอยคอยฟังคำหมอลำหนา
เสียงแซวโห่โอละหนอต่อผญา
เขาม่วนหนาผู้ข้าไห้ใส่หมอลำ
ลุกขึ้นได้จั่งใด๋เสี่ยวหมู่เหลียวเบิ่ง
ขอแต่เหิงเถิงเต้ยบ่ขอย้ำย้ำ
หมอลำเต้ยเลยฟ้อนไปฮ้องไห้นำ
ฟ้อนลืมช้ำน้ำตาไหลใจสะออน
ทั้งเมาม่วนครวญเมาฮักที่หักพ่าย
ม่วนแกมสายน้ำตาไหลใส่เต้ยกลอน
เต้ยให้ลืมยืมความม่วนกวนเศร้าก่อน
ขอเว้าวอนอ้อนเต้ยใหม่บ่ให้เซา
หมอลำลาพาเมือบ้านวานใช้หมู่
กอดคอคู่สูไปส่งตรงบ้านเฮา
ขอโทษหลายสหายเก่าเฮาฮักเขา
ที่ว่าเขาเอาน้ำตา...มาขอเต้ย