9 มิถุนายน 2552 11:49 น.

เสมอมั่น....ดังปั้นข้าวเหนียว

เพชรพรรณราย

ล้องวงนั่งยังสาดเสื่อเมื่อเย็นย่ำ
หลังจากทำดำนาหนองท้องนาใหญ่
ขอบคุณหลายชายหญิงท่านผ่านน้ำใจ
ก่อนเมือไกลเชิญไว้ถิ่นกินข้าวแลง

น้ำใจงามยามมีเวียกเมื่อเรียกหา
ร่วมกันมาค่าน้ำใจไม่เหี่ยวแห้ง
ขอขอบใจในหยาดเหงื่อเมื่อออกแรง
มาเบิ่งแยงเป็นแฮงให้น้ำใจดี

ยกกระติบหยิบมาตั้งยังพาข้าว
ลุงป้าน้าอ้าวชาวเฮาเจ้าน้องพี่
ปั้นข้าวเหนียวเกี่ยวใส่มือคือไมตรี
เมื่อได้ที่เชิญซีแซบตามสบาย

กับข้าวบ้านอีสานเฮาเอาจากป่า
บ้างในนาหามาสู่หมู่พ้องหลาย
ให้อิ่มหน่ำสำราญผ่านใจกาย
ขอบคุณหลายสายน้ำใจให้กับเฮา

กลับเมือบ้านท่านปลอดภัยให้มีสุข
เหมิดความทุกข์ลุกจากไข้อย่าได้เศร้า
ถ่ามีกิจคิดการใดให้เอิ้นเอา
เฮาสิเข้าเฝ้าช่วยเหลือเจือจุนกัน

ให้ เสมอมั่น...ดังปั้นข้าวเหนียว
ฮักกลมเกลียวบ่เดียวดายชายหญิงกั้น
ถึงสิแล้งแห่งใดในพืชพันธ์
แต่ใจมั่นไม่หวั่นไหวในหมู่เฮา				
9 มิถุนายน 2552 11:45 น.

เหมาะสมที่ใจ

เพชรพรรณราย

หงส์กับกาดอกฟ้ากับหมาวัด
ที่วางจัดวัดค่าไว้ในความต่าง
ใช้แบ่งพรรคหักหาญคนให้พ้นทาง
ใช้แบ่งข้างสร้างขั้นในชั้นชน

เพียงเงินทองของมีค่าพายึดถือ
ความใสซื่อถือรูปกายหมายฉ้อฉล
เกียรติยศปดชื่อคือตัวตน
เหตุและผลคนวัดว่าราคากัน

มีหลายคนไม้พ้นเคราะห์เพราะเหตุนี้
เซ่นชีวีเพื่อกฎกำหนดกั้น
บางคนจมถมทุกข์ท้อต่อชีวัน
ถูกขีดขั้นปั้นปรุงสร้างทางสังคม

องค์พระพุทธวิสุทธ์ศรีวจีถ้อย
ตรัสให้ปล่อยรอยถือมั่นอันสร้างสม
สิ้นวรรณะอคติลิขิตพรหม
จิตอย่าจมถมกิเลศเหตุความลวง

ค่าแห่งสัจวัดด้วยใจใช่แผ่นเปลือก
ไม่กลิ้งเลือกเมือกแห่งชั่วตัวก้าวล่วง
ดำรงทางอย่างองค์พุทธพิสุทธิ์ดวง
ธรรมโชติช่วงในดวงใจใฝ่กรรมดี

หงส์หรือกาดอกฟ้าหมาวัดหนอ
หากดีพอก็มีค่ามีราศี
หากคิดชั่วใจมัวเมาเขลาชีวี
ก็คงหนีไม่พ้นกรรมที่ทำมา				
6 มิถุนายน 2552 16:12 น.

พิษรักเรื้อรัง

เพชรพรรณราย

ตั้งแต่หนาวเมื่อคราวนั้นฉันแพ้พ่าย
ใจก็หมายให้หายเศร้าความเหงาหงอย
พยายามห้ามคิดปิดร่องรอย
ไม่ยอมปล่อยให้พลอยว่างร้างจากงาน

ก็นานแล้วที่แคล้วคลาดพลาดจากรัก
ความอกหักยังปักแน่นแสนสงสาร
ในหัวใจไม่ลืมหนอทรมาน
เหมือนมันผ่านเมื่อวานก่อนนอนปวดใจ

หนาวถึงฝนยังหล่นรินกินน้ำตา
ยังพร่ำหาค่ารักเก่าเหงาหวั่นไหว
ความเจ็บปวดรวดร้าวผ่าวทรวงใน
ใจเป็นไข้ไร้รักษายาไม่มี 

เพราะพิษรักปักใจให้เรื้อรัง
ยังเกาะกรังฝังแน่นแผ่นอกนี่
ฝังรากลึกผนึกยังห้องทั้งสี่
ใจจึงมีแต่ชี้ช้ำจำไม่วาย

คงจ่อมจมบ่มพิษติดแน่นหนา
กาลเวลารักษาได้คงไม่หาย
ตราบชีวิตลิขิตอยู่ไม่รู้คลาย
จนสุดท้ายลมหายใจได้สิ้นลง				
6 มิถุนายน 2552 15:57 น.

เพื่อนช่วยเหงา

เพชรพรรณราย

นั่งหงอยเหงาเปล่ากายเดียวดายหม่น
น้ำตาหล่นบ่นเพ้อพร่ำรำพันหมอง
เหลียวหาใครปลอบใจถามยามร่ำร้อง
ไร้คนมองนองน้ำตาอุราตรม

มองต้นไม้ใบหญ้าป่าเงียบงัน
ตวงตะวันพลันลับฟ้าพาขื่นขม
ภูเขาใหญ่ไยชาเฉยเลยระทม
ใจระบมชมฟ้าเมื่อราตรี

จันทร์ค่อยเคลื่อนเลื่อนช้าช้าสุดฟ้าขอบ
ดาวล้อมกรอบคล้ายปลอบจันทร์รับขวัญพี่
ทิ้งฉันเหงาเศร้าคนเดียวเปลี่ยวชีวี
คล้ายโลกนี้มีเพียงเราเผ้าท้อทน

แสงจันทร์ส่องท้องน้ำใสให้เหหัก
เห็นดวงพักตร์ถักทอเงาดูเศร้าหม่น
น้ำตาแซมแก้มสองข้างอ้างว้างตน
ตาแดงข้นปนเลือดคล้ายสายน้ำตา

หรือเพียงเงาเท่านั้นมันเป็นเพื่อน
ที่ดูเหมือนไม่เลื่อนจากหากมองหา
ยามร้องไห้ใจช้ำระกำมา
เมื่อไร้ค่าล้าอ่อนแรงจะแข่งใคร

เพราะในยามไม่มีใครได้เคียงข้าง
ยามอ้างว้างว่างเปล่าเหงาหวั่นไหว
หากรู้สึกลึกร้าวหนาวหัวใจ
เก็บซ่อนไว้ให้แค้นคั่งเมื่อพังเพ

อย่างน้อยน้อยยามหงอยเศร้าเราหม่นไหม้
ร่วมร้องไห้ไม่หนีช้ำทำแสร้งเส
ยามที่ทุกข์ปลุกโศกนั้นวันรวนเร
ยังหักเหมาเห่ก้องร้องด้วยกัน

นั่งเหงาหงอยปล่อยน้ำตามารินหลั่ง
เงาก็ยังนั่งตรงหน้าพาโศกศัลย์
ความเจ็บปวดรวดร้าวกายมากมายนั้น
เงาของฉันมันร้องด้วยช่วยช้ำตรม				
Lovers  0 คน เลิฟเพชรพรรณราย
Lovings  เพชรพรรณราย เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเพชรพรรณราย
Lovings  เพชรพรรณราย เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเพชรพรรณราย
Lovings  เพชรพรรณราย เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงเพชรพรรณราย