17 มกราคม 2552 13:59 น.
เพชรพรรณราย
คนเราหรือถือกำเนิดเกิดบนโลก
สุขบ้างโศกโยกเปลี่ยนเวียนมาหา
เจ็บป่วยไข้ได้พบพรากจากเวลา
ล้วนมุ่งหน้าพาก้าวเดินเผชิญไป
ทางชีวิตลิขิตใดใครอาจต้าน
ล้วนต้องผ่านสานอาสัญวันหมองไหม้
เพียงทนรอต่อเวลาพาพรากไกล
ให้สิ้นไร้ในทุกสิ่งความจริงเดียว
เหตุนี้หนออย่ารอช้ากล้าจะสู้
อย่ามัวอู้ยืนสู้ฟ้าอย่าห่อเหี่ยว
ตามหาฝันอันแน่วแน่แท้จริงเชียว
อย่าลดเลี้ยวให้เที่ยวสร้างวางชะตา
ให้โลกรู้ผู้เพียรพากยากผิดหวัง
ล้มกี่ครั้งตั้งใจใหม่อย่าได้ล้า
จงลุกเดินเผชิญด้วยก้าวที่กล้า
วันข้างหน้าคงจารึกนึกนึกเรา
ความสำเร็จที่เสร็จสิ้นยินดีหนอ
แค่นั้นพอต่อชีวิตพิชิตลิขิตเป้า
สมความหวังที่ฝังใจให้บรรเทา
ดังที่เฝ้าเราสร้างสรรหมั่นอดทน
ถึงจะจากพรากโลกไม่โศกเศร้า
เพราะลำเนาเราเพียรสู้ไม่รู้หม่น
ถึงฝันน้อยไม่ด้อยค่าความเป็นคน
เพราะเป็นผลตนสร้างความพากเพียร
17 มกราคม 2552 12:42 น.
เพชรพรรณราย
เหนื่อยแสนท้อต่อชีวิตลิขิตสร้าง
แสนอ้างว้างทางเปลี่ยวเปล่าเหงาหมองหม่น
เจ็บปวดลึกใจสึกกร่อนอ่อนแอทน
ความสับสนวกวนอยู่ไม่รู้คลาย
สองกำปั้นกำมันแน่นแค้นใจนัก
เรื่องราวรักปักใจไยสลาย
อีกการงานสานสิ่งใดไยกลับกลาย
มันโหดร้ายตายทั้งเป็นหนอเวรกรรม
หรือชีวิตต้องผิดพลาดทุกวาดฝัน
ความโศกศัลย์หมั่นแวะเวียนเขียนรอยช้ำ
ทุกเส้นทางที่วาดหวังชั่งมืดดำ
ใจตอกย้ำระกำร้าวแสนยาวนาน
เหนื่อยหัวใจไม่ขอหวังตั้งใจแล้ว
ที่แน่แน่วกลับแตกแยกประสาน
ขอยินยอมพร้อมรับไปกับกาล
ไม่ขอค้านต้านชะตาฟ้ากฏเกณฑ์
อยู่เหงาเหงาเศร้าให้ตายหมายชีวิต
ใจมืดมิดปิดกั้นสุขทุกข์ยากเข็ญ
ความเจ็บปวดรวดร้าวอยู่คู่กรรมเวร
ให้ทุกข์เข็ญเน้นให้ช้ำย้ำจนตาย