5 กันยายน 2548 17:50 น.

อธิษฐาน....และรอคอย

เพชรพรรณราย

รำพันเหงาเปล่าเปลี่ยวอยู่เดียวดาย
เหงาทั้งใจและกายไม่หายห่าง
ทนเศร้าสร้อยคอยรักแท้อันเลือนลาง
ช่างอ้างว้างทางเปลี่ยวเหงาเศร้าอุรา

        ทุกคืนค่ำย้ำจิตอธิษฐาน
ขอบนบานสานถ้อยร้อยภาษา
ฝากองค์ไท้ทวยเทพเหล่าเทวา
ช่วยนำพาอุรานี้ให้พบพาน

      กับความรักรักสลักมั่นไม่หวั่นไหว
นำหัวใจให้พานพบสบตาหวาน
มอบรักแท้แก่สองเราไว้แสนนาน
ห้วงดวงมาลย์ประสานใจไว้ด้วยกัน

        ห้วงรำพึงถึงเทวาว่าแสนเหงา
ตอนนี้เล่าเราสุดเหงาเศร้าโศกศัลย์
เพียงระบายถ่ายถ้อยร้อยรำพัน
ความจาบัลย์ให้ฟ้านั้นได้เข้าใจ
 
       หลายเหตุการณ์ผ่านเข้ามาพาชีวิต
เพียรลิขิตอุทิศตนจนหมองไหม้
ความทุกข์ท้อต่อชะตาล้าฤทัย
โลกกว้างใหญ่ใฝ่ฝันเพียงลำพัง

       ไม่มีแม้นผองเพื่อนเตือนใจคิด
ถูกหรือผิดคิดแต่งเติมเสริมความหวัง
เส้นทางนี้ช่างอ้างว้างเหลือกำลัง
จึงฝากฝังยังเทวาพาพบพาน

         แต่เมื่อไรไม่รู้เธอผู้นั้น
จะพบกันสัมพันธ์รักสลักสาน
หรือต้องรอต่อไปจนสิ้นกาล
เผชิญโลกที่ยาวนานเพียงผู้เดียว				
4 กันยายน 2548 16:41 น.

ทำได้เพียง (เท่านี้).......

เพชรพรรณราย

ความทุกข์ท้อต่อชีวิตลิขิตเปลี่ยน
ทั้งบทเรียนอันปวดร้าวเมื่อคราวหลัง
ภาพอดีตที่กรีดใจให้พ่ายพัง
ฝันที่พังยังไม่หายวายจากใจ

     ความทุกข์นี้ฝังลึกลงตรงห้วงจิต
ในความคิดติดในฝันให้หวั่นไหว
แม้เวลาพาหมุนหนุนนำไป
เจ็บปวดใจไม่เลือนลบจบสักครา

     ทุกความท้อต่อชะตาพาให้เหงา
ทุกข์ความเศร้าเราร่ำไห้ใจโหยหา
ทุกความเจ็บเก็บในใจเสมอมา
ด้วยมิกล้าวาจาพร่ำว่าช้ำตรม

     ความผิดพลาดประกาศไปใครรับรู้
เหล่าศัตรูคงเย้ยหยันฉันขื่นขม
คงประนามหยามเหยียบซ้ำย้ำให้จม
เก็บระบมตรมตรอมนี้เพียงลำพัง

     จึงขีดเขียนบนกลอนสุนทรท้อ
เฝ้าตัดพ้อต่อชะพาค่าความหวัง
เพื่อระบายความความเหงาเศร้าประดัง
ในความหลังฝังใจไม่เคยคลาย

     นามปากกาพาสมมติชุดอักษร
ในบทกลอนตอนหลังดังมุ่งหมาย
สลักไว้ใช้ชื่อ เพชรพรรณราย
ใช้ระบายคลายทุกข์ท้อต่อชะตา				
2 กันยายน 2548 12:32 น.

ลูกอีสาน....หวนคืนถิ่น

เพชรพรรณราย

เด็กอีสานจากบ้านนาและป่าเขา
สู่ลำเนาเข้าเมืองกรุงมุ่งค้นหา
ด้วยพลังตั้งใจใฝ่ฝันมา
ปรารถนาพาความฝันอันตั้งใจ

     กายและใจเต็มเปี่ยมเตรียมต่อสู้
ลิขิตอยู่ด้วยศรัทธาค่าฝันใฝ่
อุปสรรคหนักหนามุ่งฝ่าไป
แม้หวั่นไหวใจห่วงหาบ้านนาเรา

     บางครั้งเหนื่อยเมื่อยท้อต่อความหวัง
และบางครั้งเปลี่ยวกายเดียวดายเหงา
คิดถึงผู้อยู่ที่บ้านย่านลำเนา
ผ่อนคลายเศร้าเร้าให้สู้อยู่ทุกครา

     วันเวลาพาเคลื่อนเลื่อนชีวิต
เพียรลิขิตอุทิศตนมุ่งค้นหา
ความฝันใฝ่ใจสู้ดูโรยรา
มันอ่อนล้าพาใจท้อต่อชีวี

     เด็กอีสานผ่านความฝันอันเจ็บปวด
แสนร้าวรวดปวดใจในวิถี
ความทุกข์เหงาเศร้าระทมตรมฤดี
ฝันไกลหนีวันนี้ท้อต่อชะตา

     หอบความช้ำระกำฝืนคืนถิ่นฐาน
ห้วงดวงมาลย์กาลหม่นหมองร้องไห้หา
กราบแทบเท้าพ่อแม่ท่านฉันกลับมา
ด้วยน้ำตาว่าแพ้พ่ายแทบวายปราน

     เกือบต้องตายมลายร่างเมื่อสร้างฝัน
ห้วงจาบัลย์อันโศกามาประสาน
เมื่อสิ้นคิดผิดพลั้งครั้งนมนาน
คิดถึงบ้านท่านทั้งสองให้ตรองดู

     ด้วยสำนึกตรึกจิตพิศมองเห็น
ความลำเค็ญเข็นใจให้อดสู
คำสั่งสอนตอนเยาว์วัยให้ตรองรู้
สถิตย์อยู่คู่หัวใจไม่เสื่อมคลาย

     ด้วยบุญคุณหนุนนำธรรมที่สอน
เป็นนิวรณ์ผ่อนความช้ำระกำหาย
มีทุ่งนาป่าเขาเรากร้ำกลาย
เพื่อสลายวายความเจ็บเหน็บอุรา

     เฝ้าเยียวยารักษาใจให้บรรเทา
ผ่อนความเศร้าเหงาท้อต่อปรารถนา
ก่อนจะคืนฝืนสู่กรุงมุ่งอีกครา
หวนชีวาหาความหวังอีกครั้งหนึ่ง				
1 กันยายน 2548 13:11 น.

ความเจ็บปวด...ที่ไม่เคยหาย

เพชรพรรณราย

ความเจ็บปวดรวดร้าวใจไม่เคยหาย
หรือต้องตายวายปราณไปจะไกลห่าง
ความทุกข์ท้อต่อชะตาไม่ราวาง
ความอ้างว้างว่างเปล่าสุดเหงาใจ

แม้จะผ่านนานแรมปีไม่มีลบ
ท้อไม่จบพบในฝันให้หวั่นไหว
อีกรอยแผลแต่อดีตกรีดฤทัย
ลึกจนไร้ในวิธีที่เยียวยา

ฉันตอนนี้มีแต่ยอมแพ้ชีวิต
ในห้วงจิตคิดท้อต่อปรารถนา
เพราะวันเก่าเฝ้ากร่อนใจไม่ร้างรา
ทั้งเหนื่อยล้ายากพาใจให้ก้าวเดิน

ก้าวอย่างไรใจมันกลัวจะพลาดพลั้ง
เหมือนเมื่อครั้งที่ผ่านมาพาห่างเหิน
ประวัติศาสตร์อาจไม่เปลี่ยนเวียนเผชิญ
มันกลัวเกินจะเดินไปเส้นทาง

จึงต้องยอมอยู่อย่างคนผู้พ่ายแพ้
ตระหนักแน่แก่หัวใจในทุกอย่าง
ทนเจ็บปวดเท่าที่มีดีกว่าสร้าง
ให้เส้นทางวางเช่นเดิมเสริมแผลใจ				
Lovers  0 คน เลิฟเพชรพรรณราย
Lovings  เพชรพรรณราย เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเพชรพรรณราย
Lovings  เพชรพรรณราย เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเพชรพรรณราย
Lovings  เพชรพรรณราย เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงเพชรพรรณราย