9 กันยายน 2548 17:16 น.
เพชรพรรณราย
สายฝนปรอยลอยไหลรินสู่ดินพื้น
กลิ่นฝนคืนหวนมาใหม่ให้ความหวัง
เหล่าชาวนาทำอาชีพประทีปตั้ง
ด้วยปลูกฝังครั้งโบราณสานสืบไทย
ย่างเดือนหกฝนตกพร่ำฉ่ำทุ่งท้อง
น้ำไหลนองทั่วท้องนาพาหว่านไถ
ฟื้นชะตาชาวนาหวังด้วยตั้งใจ
ฝังรอยไถในแผ่นพื้นคืนชีวี
หลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดินเหงื่อรินไหล
ด้วยหัวใจไม่ท้อต่อวิถี
ด้วยอาชีพแห่งศรัทธาค่าความดี
คอยบ่งชี้วิถีแท้แต่โบราณ
แม้ไม่มียศฐาบรรดาศักดิ์
แต่ด้วยรักปักหัวใจให้สืบสาน
บรรพชนค้นประกอบชอบด้วยการ
วางรากฐานผสานไว้ในวิชา
จากรุ่นหนึ่งถึงรุ่นหนึ่งซึ่งสานต่อ
จากแม่พ่อสู่บุตรหลานประสานค่า
ประยุกต์ใช้พลิกแพลงแปลงกันมา
สั่งสมไว้ในเวลาค่าความจำ
ยังจดจำคำสั่งสอนอาวรณ์ถึง
ยังรำพึงถึงความหลังฝังใจย้ำ
ลูกชาวนาค่าสุจริตลิขิตทำ
คือน้ำคำย้ำเสมอบุพการี
สายฝนปรอยคล้อยคิดพิศตรองตรึก
ด้วยสำนึกในคุณหนุนความดี
จะรักษาอาชีพสุจริตนี้
จวบชีวีนี้หายวายชีวา
8 กันยายน 2548 10:06 น.
เพชรพรรณราย
ฉันขอเป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่า
เก็บรักษาค่าแห่งรักสมัครหมาย
นำรักแท้แต่เพียงหนึ่งซึ่งใจชาย
ทอดถวายไว้ในหัวใจเธอ
ในพื้นที่สี่ห้องของใจนั้น
ได้จัดวางสร้างสรรมั่นเสมอ
ศาลารักที่พักใจไว้พบเจอ
ด้วยพร่ำเพ้อละเมอถึงทุกเวลา
มีหอธรรมประจำใจในคำสัตย์
กุฏิวัดไว้ใจนอนยามอ่อนล้า
อุโบสถกำหนดวัตรจัดชีวา
อุทิศค่าพาความรักปักษ์หัวใจ
ด้วยศรัทธาค่าความหวังที่ตั้งจิต
ทีละนิดคิดเพิ่มเติมต่อได้
สะสมรักถักทอต่อฤทัย
รวมรักไว้ให้เป็นหนึ่งซึ่งสัมพันธ์
ทอดผ้าป่าค่ารักนั้นวันละครั้ง
เติมพลังแห่งความรักสลักมั่น
สื่อใจสองของเราเข้าด้วยกัน
คงสุขสันต์ทุกวันคืนชื่นชีวี
7 กันยายน 2548 11:30 น.
เพชรพรรณราย
เรื่องของเรื่องเบื้องลึกตรึงตรองจิต
ร้อยความคิดพิจารณาพาสงสัย
ใครทำอะไรเมื่อไรหรืออย่างไร
อยู่ที่ไหนทำไมกันฉันงุนงง
เวลานี้เวลาไหนไปตรงไหน
ต้องพบใครไกลหรือใกล้ในประสงค์
จะเลี้ยวขวาเวียนซ้ายหรือทางตรง
ดวงใจนั้นมันสงสัยไม่โรยรา
แล้วไอ้เรื่องเบื้องหลังครั้งก่อนเก่า
เรื่องของเราเศร้าสุขใจให้ค้นหา
แล้วทำไมใยต้องค้นดลปัญญา
เราจะหาพาให้รู้อยู่ทำไม
ก็ไอ้เรื่องของเรื่องไม่เป็นเรื่อง
มันขุ่นเคืองเป็นเรื่องโตโอ้อวดได้
ทั้งแต่งแต้มแสมสีวจีไป
ส่งเรื่องให้ใหญ่ขึ้นดังไฟลาม
จากเปล่าว่างต่างแตกแยกมูลเหตุ
แล้วใส่เจตจำนงประสงค์ความ
จากผู้หนึ่งถึงผู้หนึ่งทุกชั่วยาม
ต่างไต่ถามตามค้นหาค่าสิ่งนั้น
ท้ายที่สุดยุติดำริเห็น
มิวายเว้นเป็นประโยชน์โทษมหันต์
เสียเวลาปัญญาคิดจิตจาบัลย์
ก็ไอ้เรื่องเบื้องหลังนั้นมันไม่มี
6 กันยายน 2548 15:25 น.
เพชรพรรณราย
เสียงแว่วแว่วแผ่วเบาเฝ้าจับจิต
แว่วความคิดสู่จิตใจใฝ่คิดถึง
คล้ายบทเพลงบรรเลงไว้ใจติดตรึง
เพลงที่ซึ้งตรึงสัมพันธ์ฉันและเธอ
เพลงแห่งรักสลักไว้ใจเราสอง
ห้วงทำนองร้องร่ำพร่ำเสมอ
ทุกถ้อยคำรำพันไปใจพร่ำเพ้อ
ห้วงละเมอเพ้อหาทุกเวลา
ถ้อยคำหวานจากมาลย์น้อยร้อยความรัก
ร่วมใจพักตร์สลักคำนำภาษา
สายสัมพันธ์มั่นคงเป็นสัญญา
พรรณนาค่าแห่งรักปักษ์ดวงใจ
ห้วงเวลาพาความสุขสนุกสนาน
ได้พบพานสมานรักอันสดใส
ร่วมบรรเลงบทเพลงคู่กู่ก้องไป
ร้อยรวมใจไว้เป็นหนึ่งซึ่งรักเรา
เฝ้ารำพันจากวันนั้นฉันกับเธอ
ไม่พบเจอเพียงเพ้อหาอุราเหงา
สองเราห่างต่างเส้นทางสร้างลำเนา
ใจสุดเหงาเฝ้าห่วงหาแสนอาลัย
บทเพลงซึ้งยังตรึงจิตคิดห่วงหา
ปรารถนาร้องเพลงคู่เธออยู่ไหน
ฉันยังรอต่อความรักปักษ์หัวใจ
เธออยู่ไกลรู้ไหมใครเขารอ
ร้องเพลงอยู่คู่น้ำตาอุราหมอง
ห้วงทำนองร้องไห้หวั่นไหวท้อ
พร่ำเพลงรักใจกลับช้ำน้ำตาคลอ
เฝ้าตัดพ้อต่อสัญญาค่าเปลี่ยนแปร
ถึงอย่างไรใจของฉันมันก็รัก
เธอสลักรักลงใจยากไขแก้
ถึงเธอไกลไม่ส่งใจมาดูแล
ขอรักแท้ดังเพลงบรรเลงใจ
5 กันยายน 2548 20:50 น.
เพชรพรรณราย
ประหันหัตถ์สัตยาอธิษฐาน
จากดวงมาลย์ผ่านศรัทธาพาความหวัง
ขอให้พบประสพสิ่งที่จีรัง
รักยืนยงดังขุนเขาเฝ้าขอวอน
อีกชะตาวาสนาจงพาพบ
ให้ประสบแต่สิ่งดีศรีคำสอน
อีกยศฐาบรรดาศักดิ์อย่าตัดรอน
เหล่าสมรจงจรจากหากพบพา
ขอให้ร่ำทำให้รวยอำนวยผล
คราวอับจนดลโชควาสนา
อยู่ที่ใดใครก็รักปักษ์อุรา
ไร้โรคาพาความสุขทุกคืนวัน
แล้วประนมก้มกราบลงตรงหน้าศาล
มือประสานกระบอกไม้ทันใดสั่น
เสียงกระแทกดังแก๊กแก๊กกระทบกัน
หนึ่งนั้นนั้นมันร่วงลงตรงตักเรา
เป็นหมายเลขบอกใบ้ให้ค้นหา
ร้อยภาษาด้วยสุนทรกลอนเสลา
อ่านข้อความตามคำใบ้ในลำเนา
ใจมันเศร้าเมื่ออ่านจบครบทุกตอน
ก็ข้อความตามกระดาษวาดเขียนไว้
ว่าเจ้าไร้วาสนาพบพาสมร
อีกยศฐาบรรดาศักดิ์ปักใจจร
แถมเดือดร้อนไร้คู่อยู่เดียวดาย
ใยถึงเป็นเช่นนี้เซียมซีฉัน
เศร้าจาบัลย์มันเจ็บปวดใจสลาย
อธิฐานบนบานไว้ใยกลับกลาย
วิมานหายสลายลับไปกับตา
นี่แหละหนาค่าความหวังที่ตั้งต่อ
หวังเพียงรอไม่ต่อสู้ไม่ค้นหา
สิ่งใดใดไม่ได้เปล่าเดินเข้ามา
แต่ได้มาด้วยอุสาหะพยายาม