27 ตุลาคม 2548 06:21 น.
เพชรพรรณราย
สวัสดีพี่น้องผองหมู่เฮา
อยากสิเว้าป้อยคำนำอีสาน
ให้หมู่เพิ่นเอิ่นกล่าวเลาไปบ้าน
ให้แตกฉานขานฮู้ผู้มากราย
เป็นจั่งใด๋ให้ฮู้ผู้เพิ่นเว้า
ให้ตอบเขาซำบายดีมีแฮงหลาย
บ่เจ็บไข่ได่ป่วยข่อยซำบาย
พี่น้องอ้ายชายหญิงอยู่พร้อมหน่า
เอิ่นกินเข่านำกันมันแซบอีหลี
อย่าซ้าติ้มีอิหยังหนอผู้ข่า
ข่อยกะคนคือกันกะยังหว่า
ฟ่าวเข้ามาอย่าอายให้ฟ้าวต้อย
เฮาเป็นหมู่อยู่นำกันจั่งเอิ่นเสี่ยว
บ่หักเลี้ยวเที่ยวหนีภัยใหญ่น้อย
ตายกะตายนำกันเด้อหมู่ข้อย
เขาจึงป้อยว่าหมู่ตายแม่นหมายไว้
ก่อนสิหนีจากกันอันคำเว้า
ขอหมู่เฮาเขาพาว่ากล่าวให้
แล้วพ้อกันมื้อสันในวันใหม่
พ้ออยู่ใดให้ทายทักกันเด้อท่าน
จบถ่อหนี้ที่ว่าไว้ให้ได้ฮู้
เป็นความฮู้สูเจ้าเข้าอีสาน
มีอีกหลายบรรยายไปมันสินาน
ท่าอยู่บ้านเชิญท่านมาเยี่ยมเยียน
..บางคนอ่านแล้วอาจจะไม่เข้าใจ
เพชรพรรณรายขอแปลความหมายบางคำ..
ให้รู้เพื่อที่จะได้เข้าใจมากขึ้น
หมู่เฮา แปลว่า พวกเรา
เว้า,ป้อย แปลว่า พูด
เพิ่น แปลว่า ท่าน
เอิ่น แปลว่า เรียก
เลา แปลว่า เขาผู้นั้น
ฮู้ แปลว่า รู้
เป็นจั่งใด๋ แปลว่า เป็นอย่างไรบ้าง
พร้อมหน่า แปลว่า พร้อมหน้า
ผู้มากราย แปลว่า ผู้ผ่านมา
ซำบายดี แปลว่า สบายดี
มีแฮงหลาย แปลว่า มีความสุข
ข้อย แปลว่า ข้า, ฉัน. ตัวเรา
อ้าย แปลว่า พี่ชาย
กะยังว่า แปลว่า ก็คือว่า , ว่าไว้
ฟ้าว , ฟ้าวต้อย แปลว่า เร็วไว, ไว
อย่าซ้าติ้ แปลว่า อย่าชักช้า
เสี่ยว แปลว่า เพื่อนตาย
คำเว้า แปลว่า คำพูด
ถ่อหนี้ แปลว่า เท่านี้
อาจจะแปลไม่ตรงซะทีเดียว..
แต่ก็คงจะพอเข้าใจนะครับ
26 ตุลาคม 2548 16:55 น.
เพชรพรรณราย
ใต้แสงจันทร์วันวิปโยคด้วยโศกรัก
คราวอกรักรักสลายมลายค่า
เหม่อมองจันทร์จาบัลย์เหงาเศร้าอุรา
ทุกทิวาราตรีกาลที่ผ่านไป
จันทร์เจ้าเอยจันทร์งามขอถามไถ่
เพราะอะไรทำไมรักมาผลักไส
จันทร์เจ้าเอ๋ยรู้ไหมเพราะอะไร
เธอจึงได้ตัดสัมพันธ์ให้ฉันตรม
จันทร์เจ้าเอ๋ยเคยอกหักรักไกลไหม
เคยปวดใจเมื่อรักแท้แปรให้ขม
เคยเหว่ว้าล้าใจให้ระบม
เคยบ้างไหมระทมรักที่หักพัง
เจ้าเคยร้องร่ำไห้บ้างไหมหนอ
เจ้าเคยท้อต่อความจริงสิ่งที่หวัง
เคยอ่อนแอแก่ใจไร้กำลัง
เคยสักครั้งบ้างไหมจันทร์วันช้ำทรวง
ฝากคำถามตามย้ำพร่ำรำพัน
ใต้แสงจันทร์วันอกหักรักลาล่วง
ด้วยความเงาเศร้าใจในทุกดวง
เฝ้าถามทวงดวงจันทร์วันรักตรม
26 ตุลาคม 2548 11:29 น.
เพชรพรรณราย
ฉันเปล่าเปลี่ยวเดียวดายใต้แสงจันทร์
ฉันโศกศัลย์จาบัลย์เหงาแสนเศร้าหมอง
ฉันร้องไห้เหว่ว้าน้ำตานอง
ฉันนั้นมองต้องเดือนดาวคราวลำพัง
ฉันยืนบนพื้นไพรไร้เพื่อนมิตร
ฉันท้อจิตอ่อนไหวในความหลัง
ฉันเปล่าเปลี่ยวเดียวดายไร้กำลัง
ฉันสิ้นหวังจะตั้งใจให้หวนคืน
ฉันต้องทนคนเหยียดหยามประนามหมิ่น
ฉันยลยินคำก่นด่าพาขมขื่น
ฉันแบกรับกับความเจ็บทุกวันคืน
ฉันสะดุ้งตกใจตื่นทุกคืนวัน
ฉันมองหาผู้มาปลอบกลับไร้ร้าง
ฉันอ้างว้างทางเปลี่ยวผู้เดียวฝัน
ฉันขาดเพื่อนเตือนใจให้จาบัลย์
ฉันรำพันหงอยเหงาอยู่เพียงเดียวดาย
ฉันมองดูเงาสะท้อนตอนอ่อนไหว
ฉันเห็นเพื่อนเตือนใจในความหมาย
ฉันไม่อยู่ผู้เดียวเปลี่ยวใจกาย
ฉันเห็นชายผู้หนึ่งด้วยซึ้งใจ
ฉันระบายถ่ายท้อต่อผู้นั้น
ฉันรำพันวันวานกาลหมองไหม้
ฉันส่งผ่านความท้อต่อเขาไป
ฉันอุ่นใจแม้เขาเงียบไม่พูดจา
ฉันมีเงาเขาเป็นเพื่อนเหมือนชิดใกล้
ฉันปวดใจได้ระบายถ่ายปัญหา
ฉันต้องพูดใต้แสงจันทร์วันเวลา
ฉันอ่อนล้ามาระบายให้เงาฟัง
21 ตุลาคม 2548 14:52 น.
เพชรพรรณราย
อาจจะมองไม่ต้องใจในสาระ
อักขระทุกอักษรสุนทรกล่าว
ทุกเรื่องนั้นที่ฉันนำพร่ำเรื่องราว
ความปวดร้าวคราวรักที่หักพัง
เพียงแค่ฉันอยากระบายถ่ายความท้อ
ฉันแค่ขอตัดพ้อต่อความหลัง
เพียงปลดเปลื้องเรื่องทุกข์ปลุกกำลัง
ฉันแค่หวังสักครั้งเพื่อตั้งใหม่
ค่าของถ้อยน้อยความหมายบรรยายเล่า
เรื่องเก่าเก่าที่เหงาเศร้าหม่นไหม้
และอดีตที่กรีดกร่อนตัดรอนใจ
คราวที่ไร้ในใฝ่ฝันที่ผันแปร
ขออภัยไว้แก่ท่านผู้อ่านกลอน
อย่าตัดรอนผ่อนกำลังครั้งพ่ายแพ้
ขอพื้นที่ลงกลอนไว้ใจอ่อนแอ
โปรดดูแลแค่ส่งคำกำลังใจ
จะติชมอารมณ์ใดใจน้อมรับ
ขอสดับรับฟังความตามแก้ไข
ผิดหรือถูกผูกอักษรบทกลอนใด
รับด้วยใจในความข้อต่อใจจริง
21 ตุลาคม 2548 07:47 น.
เพชรพรรณราย
ความอ่อนแอแพ้พ่ายด้วยหมายคิด
ทุกความผิดจิตหลอนใจอ่อนไหว
ความเจ็บปวดรวดร้าวอยู่คู่ดวงใจ
เหมือนเป็นไข้ใจล้าพาท้อทน
สิ่งต่างต่างอย่างที่หวังครั้งเก่าเก่า
มันรุมเร้าเฝ้าเกาะกินทุกแห่งหน
ความเหนื่อยล้ากายาเหงาเศร้าอับจน
เหมือนเกมกลดลบันดาลให้ผ่านมา
จะโทษฟ้าค่าดินหรือถิ่นไหน
โทษอะไรใครเล่าเราค้นหา
ใครกำหนดกฎเก่าเฝ้านำพา
ก็คือข้าอุราร่ำที่พร่ำไป
ฟ้าหรือดินยินเย้ยก็เคยฉ้อ
เทวดาฟ้าต่อก่อหมองไหม้
แม้แต่ศาลบัลดาลผ่านความนัย
ยังน้อยใจในชะตาค่าชีวี
ท้ายที่สุดความเจ็บยังเก็บอยู่
ความหดหู่ท้อถอยน้อยวิถี
ก็ยังตามกัดกร่อนลิดรอนอยู่ดี
จะหลบลี้หนีความจริงได้อย่างไร
คงต้องยอมตรอมตรมสมความผิด
มิเบือนบิดลิดรอนผ่อนผันได้
แพ้คือแพ้แค่นั้นมั่นดวงใจ
ขอร่ำไห้ใจสลายตายช่างมัน