21 ธันวาคม 2548 20:30 น.

สวรรค์ไม่มีตา

เพชรพรรณราย

ได้แค่เพียงเปล่งเสียงแค้นแน่นในอก
ปลงไม่ตกยกไม่ออกยอกใจฉัน
สิ่งที่เห็นเป็นอะไรในสิ่งอัน
เหตุใดกันอัดอั้นไว้ในฤดี

หลายครั้งคราพาให้เห็นเช่นวันนี้
หนึ่งคนดีที่เคารพจบวิถี
มาพ่ายแพ้แก่ความชั่วตัวอัปรีย์
ให้ช้ำชี้ฤดีช้ำระกำตรม

ใจสลดหดหู่ไม่รู้หาย
ศรัทธาสลายมลายไปใจขื่นขม
ท้อแท้ทนจนอ่อนล้าพาระบม
ในอารมณ์ถมด้วยเศร้าเฝ้าตัดพ้อ

ฟ้าสวรรค์ท่านตาบอดหรืออย่างไร
เหตุไฉนใยไม่เห็นคนดีหนอ
ปล่อยให้เจ็บเก็บแต่ช้ำนำใจท้อ
แต่คนฉ้อมาลอยนวลครวญคิดดู

โปรดลืมตาเถิดฟ้าอย่าหลับไหล
ถ้าคนชั่วได้ใจใครจะสู้
เพราะคนดีท้อถอยน้อยใจอยู่
มารับรู้ดูบ้างเถิดท่านฟ้าดิน				
20 ธันวาคม 2548 07:49 น.

ข้อความในวงเล็บ

เพชรพรรณราย

หนึ่งคำลาค่าที่ส่งลงจดหมาย
ส่งถึงชายว่าวายรักให้หักห้าม
เลิกกันเถอะ คำสั้นสั้นมั่นข้อความ
แล้วก็ตามด้วยงวงเล็บให้เจ็บใจ

คำพิเศษบอกเหตุไว้ในวงเล็บ
มิอาจเก็บรักษารักเหตุผลักไส
เป็นอักษรสุนทรย้ำ ดีเกินไป
ฉันร้องไห้ใจสะท้อนให้อ่อนแอ

คำบอกลาวาจาร้อยถ้อยอักษร
ใยตัดรอนถ้อยคำนี้ที่พ่ายแพ้
บอกตรงตรงลงข้อความตามที่แปร
กลัวฉันแย่แก่ความจริงหรืออย่างไร

ไม่ต้องกลัวตัวฉันมันจะเจ็บ
ไม่ต้องลงวงเล็บไว้ให้หวั่นไหว
ไม่ต้องแฝงแสดงซึ้งถึงห่วงใย
สนทำไมเมื่อไม่รักหักอกกัน

ถึงอย่างไรฉันต้องหมองหม่นไหม้
ข้อความนัยคำใดใดใจสะบั้น
จะอ้อมค้อมแฝงคำไว้ทำไมนั่น
บอกความฉันอันความจริงสิ่งที่เป็น

เจ็บแค่ไหนฉันยอมรับกับความพ่าย
ลูกผู้ชายยอมรับกับทุกข์เข็ญ
แพ้คือแพ้แก่กฎกำหนดเกณฑ์
อย่าซ่อนเร้นเห็นใจกันฉันยอมทน				
19 ธันวาคม 2548 12:20 น.

ดอกไม้ในมือโจร

เพชรพรรณราย

จะมีค่าแค่ไหนใครกำหนด
จะเริงรสกำหนดมั่นให้หวั่นไหว
ความสำคัญมันอยู่ภายในใจ
เป็นความนัยให้คิดพิจารณา

เปรียบดอกไม้ในมือโจรผู้ใจโฉด
เพลิงพิโรธเผาอารมณ์จมตัณหา
มิสนใจสิ่งสวยงามตามธรรมดา
สนแต่หาพาความสุขด้วยมัวเมา

แม้ดอกไม้งานงดหมดจดบริสุทธิ์
ก็เยื้อยุดเหยียบย่ำให้อับเฉา
มิถนอมรักษาไว้ในลำเนา
ปล่อยให้เฉาเหงาตายวายชีวัน

เมื่อสูญสิ้นถวิลหาค่าดอกไม้
สำนึกได้ในตัวตนทนโศกศัลย์
ยามที่อยู่ดูไม่เห็นเป็นค่านั้น
ยามจากกันเมื่อมันสายเสียดายจริง

อุทาหรณ์สอนผู้คนก็มากมาย
น่าเสียดายทิ้งความหมายทั้งชายหญิง
ความสำคัญมั่นรักษาโปรดอย่าทิ้ง
ความแน่นิ่งแน่นอนใจไม่ยืนนาน

ก่อนจะสายเกินไปใจเศร้าหมอง
คิดตริตรองมองใจให้คิดอ่าน
ค่าอันใดใจรักปักษ์ดวงมาลย์
อย่าปล่อยกาลให้ผ่านพ้นจนนานไป

เพราะทุกสิ่งจริงแท้ถือแก่กฎ
คอยกำหนดกฎแห่งโลกวิโยคไหว
ก่อนเวลาพากายวายโลกไกล
สงวนคำทำไมกันให้มันตรม				
18 ธันวาคม 2548 08:45 น.

เคยเจอแบบนี้บ้างไหม?

เพชรพรรณราย

*******************************************

ฉันเหนื่อยหน่ายสิ่งรอบกายทั้งชายหญิง
เบื่อทุกสิ่งยิ่งอารมณ์จมหม่นหมอง
อาจเพราะถูกผูกพันธะละใฝ่ปอง
ให้จำต้องทนอยู่อดสูใจ

อยู่ในกรอบรอบด้วยกฎกำหนดเห็น
ที่ยากเว้นลำเค็ญใจให้หมองไหม้
ด้วยอำนาจประกาศไว้ในวินัย
ทำอะไรใยคอยจ้องเฝ้ามองดู

อาศัยกฎกำหนดไว้ตามใจตน
โดยไม่สนคนอื่นฝืนใจอยู่
และมิอาจคัดค้านทัดทานสู้
จำอดสูอยู่ลึกลึกนึกหยันเย้ย

สมควรหรือถือผู้ใหญ่ไร้สำนึก
มิตรองตรึกฝึกรับฟังยังคำเอ่ย
มิเปิดใจให้ยอมรับปรับความเลย
คนเคยเปรยจึงเฉยชาอ่อนล้าใจ

ชอบโยนส่งลงความผิดให้ผู้อื่น
ไม่เคยตื่นยืนรับกับผิดได้
โทษผู้น้อยพลอยรับกรรมช้ำฤทัย
ว่าตนใหญ่ใช่ทุกอย่างวางค่าตน

มากหลักการผ่านร้อนหนาวกล่าวว่าแน่
เนื้อจริงแท้แค่ยกตนจนสูงล้น
ทำมิได้ในความข้อฉ้อความคน
ยกเหตุผลสาธยายขยายความ

จนไร้แรงแห่งศรัทธาค่าผู้ใหญ่
พูดความใดใจระอาพาขีดข้าม
แค่รับทำด้วยจำอยู่ทุกผู้นาม
แค่ทำตามให้จบไปในวันวัน

จึงเหนื่อยหน่ายถ่ายท้อต่อชีวิต
เฝ้าอุทิศด้วยใจจริงด้วยมุ่งมั่น
ผลที่ได้กลับทำลายให้ร้ายกัน
ควรแล้วหรือที่ฉันหมั่นทำดี

ฉันเพียงรอเวลาพากายจาก
ทนลำบากไม่นานนักจักหลีกหนี
ห่างผู้คนเอาแต่ใจในชีวี
จบเท่านี้อย่าพานพบกันอีกเลย

*****************************************

คุณเคยรู้สึกไม่พอใจใครบางคนไหม?..
คนที่ทำงานด้วยกัน..
คนที่อยู่บ้านเดียวกัน
หรือแม้แต่คนที่พึ่งเจอกัน

ในสายตาเรา ในความรู้สึกเรา
เรามักจะมองว่าสิ่งที่เขาทำ
มันตรงข้าม กับสิ่งที่เราอยากจะให้เป็น..
หรือบางครั้งเราก็ขุ่นเคืองโดยไม่ทราบสาเหตุ

มีคนอยู่ประเภทหนึ่ง ในที่ทำงานของผมเอง..
เขาคนนั้น..เป็นหัวหน้าที่สูงขึ้นไป ..
แต่ไม่ใช่ผู้นำเลยซะทีเดียว..
คนคนนั้นนะหรือ ผมไม่พอใจเขาเป็นอย่างมาก..
เขาเป็นคนที่ทำงานเอาแต่ใจตัวเอง..
จะเอาอะไรจะต้องได้ในตอนนั้น..
หรือบางครั้ง ผมรู้สึกว่า เขาไม่รักษาน้ำใจระหว่าง..
เจ้านาย..กับ..ลูกน้องเลย..

คุณคิดดูสิ?.
ในเวลาที่มีแขกระดับสูง..หรือระดับวีไอพี..
เขามักจะพูดคล้ายกับว่าเอาใจสารพัด..
พูดกับเราด้วยถ้อยคำอ่อนหวานปานจะกลืน..
แต่เมื่อใดที่เขาคนสำคัญจากไป.
ถ้อยคำที่พูดออกไปมักจะมีคำหยาบคายเสมอ..
และจะเป็นลักษณะนี้แทบทุกครั้ง

ในสายตาที่ผมเข้ามาทำงานกับเขาวันแรก..
ผมบอกตามตรง..ผมประทับใจในถ้อยคำพูด..
ที่ล่อหลอกด้วยสีสรรด้วยการหว่านล้อม..
แต่ในตอนนี้..สายตาที่ผมมองเขา..มันเกิดจากความไม่พอใจ
ที่แห้งหายไปแล้ว..พร้อมความศรัทธาที่ตั้งใจไว้ในวันเก่า..

ในตอนนี้ผมรู้สิ่งชิงชังโกรธแค้น..แม้พบหน้าก็ไม่อยากจะมอง..
และปนกับความรู้สึกหนึ่ง..น่าสงสาร..และน่าสมเพช..
ในตัวเขา ..ในสิ่งต่างที่เขากระทำอยู่..

ผมเอือมระอา.. แต่ผมก็ต้องจำทนอยู่..
จนกว่าวาระนั้น..จะหมดลง..
ผมแค่รอเวลา..และหวังว่าในภายภาคหน้า..
ผมคงจะไม่พบกับคนประเภทนี้อีก..

แล้วคุณคิดอย่างไร?.. เมื่อได้เจอคนแบบนี้

ในท้ายที่สุดนี้..ผมขอขอบคุณทุกท่าน..
ที่ติดตามอ่าน ..บทกลอน..หรือสิ่งใดที่ผมเขียนลงไปนี้ของผม.
และขอบคุณทุกท่านที่เข้าใจ..ในความรู้สึกของผม..
..ขอบคุณครับ..

**********************************************************				
14 ธันวาคม 2548 05:58 น.

ร้องไห้กับทะเล

เพชรพรรณราย

ฟังเสียงคลื่นผืนทะเลหักเหเสียง
ยินสำเนียงเสียงซัดสาดน้ำกวาดฝั่ง
น้ำกระเซ็นเห็นผิวคลื่นพื้นประดัง
กระทบฝั่งยังหาดทรายชายทะเล

นั่งทอดใจบนพื้นทรายหมายสงบ
ให้เสียงลมกลบกังวลพ้นแสร้งเส
ลืมอดีตกรีดใจนี้ที่พังเพ
เพื่อหักเหความเศร้าที่เหงาใจ

สุดตามองท้องทะเลที่ขอบฟ้า
คล้ายเวหาพาสมุทรสุดค้นหา
เหมือนบรรจบพบกันปลายนภา
รวมนาวาฟ้าสมุทรดุจพื้นเดียว

ลมเอื่อยเอื่อยเฉื่อยฉิวผ่านผิวกาย
เย็นสบายคลายอารมณ์ยามตรมเปลี่ยว
นั่งเหม่อลอยคล้อยคิดไปเมื่อใจเหี่ยว
ใยรักเลี้ยวให้เปลี่ยวนักมาหักพัง

แล้ววันเก่าเข้าภวังค์ที่ฝังจิต
มิเบือนบิดคิดเป็นอื่นคืนใจฝัง
เมื่อวันนั้นวันที่รักแปรเป็นชัง
ฉันมานั่งร้องไห้กับทะเล

หยดน้ำตาพาไหลลงตรงพื้นทราย
ใยรักกลายสลายวายหักเห
กี่น้ำตามาหยดไว้ใจพังเพ
เดินเตร็ดเตร่ร้องรำพันวันปวดใจ

ลมประหน้าพาฟื้นตื่นภวังค์
น้ำตาหลั่งสองแก้มแซมหวั่นไหว
โดยไม่รู้ว่าน้ำตามาอย่างไร
ร้องร้ำไห้จากส่วนลึกนึกจากใจ

ท้องทะเลยามนี้ที่ว่าสวย
เหม่อมองด้วยน้ำตาพาหม่นไหม้
หวังจะลบสงบเศร้าเหงาฤทัย
กลับเติมไฟให้ยิ่งช้ำระกำตรม				
Lovers  0 คน เลิฟเพชรพรรณราย
Lovings  เพชรพรรณราย เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเพชรพรรณราย
Lovings  เพชรพรรณราย เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเพชรพรรณราย
Lovings  เพชรพรรณราย เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงเพชรพรรณราย