สายลมพลิ้วปลิวพัดสะบัดโบก
เสียงกระโชกโกรกกร้าวสุดหนาวหนอ
กระทบกายในสายคลื่นคืนเคล้าคลอ
หวั่นไหวก่อพอลมโชยโปรยดอกใบ
ลมพัดผ่านกาลที่เปลี่ยนดังเทียนมอด
ค่อยเคาะขอดออดแอดอ่อนคอนโยกไหว
ก่อนจะหายสลายลงค่อยปลงใจ
สิ้นแรงไหวไร้กำลังแล้วสั่งลา
วันและคืนขื่นขมระทมหมอง
เฝ้าร่ำร้องฟ้องเรียกเพรียกพร่ำหา
โอ้สายลมโชยชมจากพรากอุรา
โปรดคืนมาหาคนคอยน้อยใจจริง
วันเวลาพาผันผ่านกาลสุดฝืน
กระแสคลื่นคืนสะบัดพัดทุกสิ่ง
สายลมหวนทวนกลับมาน่าแอบอิง
ไกวไหวติงทุกกิ่งก้านสำราญลม
ลมคิดถึงรำพึงหวนทวนใจกลับ
หลายวันลับนับปีเดือนเหมือนติดหล่ม
เพื่อนนักกลอนตอนนี้ที่นิยม
ยังสั่งสมคมกลอนไหมให้ถามที
ขอฝากถ้อยร้อยอักษรกลอนคิดถึง
เฝ้ารำพึงถึงเพื่อนผองเป็นน้องพี่
บ้านกลอนไทยได้กลับหวนทวนมานี้
สบายมีมีสุขไหมในบ้านกลอน
บทนำ (กาพย์ยานี ๑๑) โลกหมุนไปไม่เคยหยุด รีบเร่งรุดฉุดร่างกาย ก่อนชีพนั้นมลาย อย่าให้สายเริ่มหมายเอา สิขิตทางย่างก้าว สร้างเรื่องราวสืบเท้าเข้า อย่าอยู่อย่างโง่เขลา พากเพียรเอาเราจะดี ชีวิตมีแค่หนึ่ง ไปให้ถึงซึ่งวิถี ผิดชอบรอบคอบมี คอยนำชี้มีตริตรอง สับสนจงทนอยู่ ด้วยความรู้ดูทั้งผอง ทบทวนครวญคิดมอง อย่าบกพร่องป้องศีลธรรม แม้ตายวายชีวิต เพียงหนึ่งนิดมิผิดพร่ำ ภูมิใจที่ได้ทำ ก็อิ่มอ่ำล้ำจิตใจ เพราะสู้ด้วยความกล้า ด้วยศรัทธาพาฝันใฝ่ โลกกว้างหนทางใด สู้ฝ่าไปให้สุดตน แม้โลกพาโศกเศร้า เส้นทางเราเข้าทางจน พากเพียรจนเวียนล้น แม้ท้อทนตนภูมิใจ เพราะนี่คือชีวิต ที่ลิขิตพิชิตได้ แม้ฝันมันห่างไกล อิ่มเอมใจได้พากเพียร สู่เรื่องราว (กลอนสุภาพ ) เหนื่อยกับทุกข์ปลุกความท้อหนอชีวิต ช่างมืดมิดจิตวกวนจนหวั่นไหว ทรัพย์สมบัติยากจัดหามาทันใด ความรักใคร่ที่ใฝ่หาก็มาพัง มองหาทางที่วางทุกข์เพิ่มสุขสร้าง ลบอ้างว้างอย่างที่เป็นเช่นความหลัง อย่างไรดีวิธีช่วยด้วยกำลัง ให้ถึงฝั่งฝังทุกข์โศกวิโยคไกล (โคลงสี่สุภาพ) จึ่งบูชาพระภูติ ภูมิใฝ่ ในผี หวังมุ่งช่วยทุกข์ให้ จบสิ้น กราบก้มประนมไหว้ ศาลพระ ภูมิผี อ้างเอ่ยเผยลมลิ้น โปรดเถิดท่านนา ท้ายมิอาจช่วยพ้นทุกข์กล้า หาหมด ปวดเจ็บเหน็บบ่ล้า หม่นไหม้ ผีรึจักได้พา มนุษย์ ได้พ้น ทุกข์เกิดแก่ตายได้ มอดม้วยลงไป (กลอนสุภาพ) บูชาผีที่ศาลบนบานกล่าว ฝากเรื่องราวคราวทุกข์เศร้าเข้ากราบไหว้ ขอให้ช่วยด้วยเถิดหนาอย่าลาไกล บันดาลให้ได้พ้นหมองนองน้ำตา แต่สุดท้ายหมายให้ช่วยด้วยความหวัง ทุกขฺก็ยังฝังแน่นเป็นแผ่นหนา จักบูชามากี่ครั้งตั้งวาจา ทุกข์ยังกล้าหาได้สิ้นดิ้นดับลง (โคลงสี่สุภาพ) อ้อนวอนไหว้ฝากฟ้า ประสงค์ ทวยเทพ โปรดช่วยเสด็จลง โปรดเถิด บันดาลฤทธิ์ปลดปลง ทุกข์ห่างไกลที นำสุขยิ่งให้เกิด ผ่านพ้นวันวาน แล้วฟ้าว่างอย่างไร้ วิมาน มาใกล้ ทวยเทพบ่บันดาล ส่งให้ ทุกข์ท้อต่อห้วงกาล หายห่าง ฤาสิ้น ยังเกิดแก่เจ็บไข้ ไม่รู้วันลา (กลอนสุภาพ) โอ้เทวาเทพอารักษ์ช่วยรักษา โปรดเถิดมาพาทุกข์ไข้ให้ไกลหนา ในวันนี้ที่เป็นอยู่ดูทรมา อนิจจาหาทางพ้นจนวิธี อย่ารีรอขอเถิดท่านนำผ่านทุกข์ ชี้นำยุคความทุกข์ท้อต่อวิถี ลบเกิดแก่แลตามวายชีวี ช่วยนำชี้ทุกข์ที่ทนพ้นทางไป แต่แล้วใครไหนเล่าท่านบันดาลช่วย ใครอำนวยขวนขวายข้อรอถึงไหน ได้แต่หวังเมื่อครั้งเก่าเริ่มเข้าใจ นี่คงไม่ใช่ทางถูกผูกตำรา (โคลงสี่สุภาพ) เหลือบมองจ้องจับจิต พิศพา มองเห็น ภิกขุผู้ใฝ่หา ทุกข์ดับ แน่ว่าปรารถนา จักสู่ ที่หมาย ทุกข์เจ็บตายให้ลับ ลบสิ้นตายเกิด ธรรมแห่งองค์พระพุทธ ประเสริฐ จริงหนอ บัญญัติให้ผู้เลิศ ภิกษุ ปฎิบัติสิ้นเถิด กิเลศ ความทุกข์ นำส่องสรรพสัตว์ ล่วงลุสงสาร (กลอนสุภาพ) นมัสการขานก้มประนมกราบ ศิโรราบซาบซึ้งธรรมนำประสาน ภิกษุผู้สิ้นเหตุกิเลสมาร สิ้นสงสารผ่านหนทางอย่างพุทธองค์ โปรดเถิดท่านช่วยขานคำนำผ่านพ้น ความทุกข์ทนจนป่วยตายหมายประสงค์ ธรรมอันใดในหนทางอย่าร้างลง ได้ปลดปลงส่งทุกข์เศร้าบรรเทาที อริยะมรรคอักขระพระแสดง ท่านชี้แจงแสดงเหตุกิเลสที่ หมักหม่นอยู่ไม่รู้เห็นเป็นวิธี นำวิถีชี้ทางไว้ให้หญิงชาย บทส่งท้าย (อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑) น้อมใจใฝ่น้อมนำ สู่พระธรรมจักนำกาย ถึงแล้วซึ่งความความหมาย จะละกายบ่อายใคร ตามรอยพระองค์พุทธ พระวิสุทธิ์ ธ ร้างไกล โลภโกรธกิเลสใด มละสิ้นบ่ได้มี ทุกข์สิ้น ณ ห่างหนอ สละข้อละโลกีย์ มรรคนั้นจะนำชี้ ชนะมารชะล้างตน สู่โลกพระนิพพาน อวสาร ณ แห่งหน สิ้นสูญละเวียนวน วัฎฎะพ้นบ่กร้ำกราย เพียงมี ณ ศรัทธา พละกล้า บ่ ร้างคลาย เพัยรพาก บ่ วางวาย ก็จักสม บ่ ตรอมตรม ทางใดพระพุทธตรัส ปฎิบัติละข้อปม จักสิ้นกิเลสถม และจะสุขนิรันดร
เกิดบนโลกวิโยคไหวไม่เคยหยุด ใครเล่าฉุดหยุดเวลากลับมาได้ หลายเรื่องร้าวคราวผันผ่านกาลเดินไป คงจะไม่เวียนใหม่มาพาหวนคืน เพราะชีวิตลิขิตไว้ในฉากจบ ล้วนประสบพบความตายมิหมายอื่น สุขทุกข์เศร้าเหงาเบื้องหลังครั้งก้าวยืน มิอาจฝืนคืนพลัดพรากจำจากลา แม้วันนี้มีเหงาเศร้ามาบ้าง แต่หนทางวางไว้อยู่ดูเถิดหนา ถึงวันนี้มีแต่ช้ำคราบน้ำตา ทางข้างหน้าอย่าหยุดเดินเผชิญไป ทำให้ดีในวันนี้ไม่มีสาย แม้จุดหมายที่ปลายฝันมันไม่ใกล้ เพราะอย่างน้อยร้อยหมื่นสู้อยู่ร่ำไป ดีกว่าให้ฝันหลุดลอยพลอยอับปาง หากบากบั่นมันไม่ถึงซึ่งใจตั้ง แต่ความหวังยังความเพียรไม่เวียนว่าง จักไม่อายสายตาใครในหนทาง ด้วยก้าวย่างอย่างแกร่งกล้าท้าหัวใจ
เหงาเหลือเกินเผชิญโลกโศกเดียวดาย รักที่หมายหายไปไหนใจไหวอ่อน หรือกฏกรรมนำรักพรากให้จากจร ให้เปียกปอนด้วยกลอนช้ำพร่ำน้ำตา อยากเขียนกลอนอักษรรักยากนักหนอ บ่อยครั้งท้อต่อหัวใจในปัญหา เมื่อความรักหักพังไปในเวลา ใจเหนื่อยล้าพาโศกเศร้าให้เหงาจริง ว่ารักแท้แก่ใครใส่ใจฉัน ถูกบีบคั้นด้วยหวั่นไหวในทุกสิ่ง โลกเหว่ว้าพาหมองหม่นคนถูกทิ้ง หวังพึ่งพิงอิงแอบอ้างว่างเปล่าดาย เพราะเหตุนี้จึงเขียนกลอนอักษรเศร้า เมื่อรักเราเขาทิ้งขว้างร้างความหมาย กลอนจึงเปื้อนเกลื่อนน้ำตามามากมาย รักแสนร้ายทำลายสุขให้ทุกข์ทน กลอนน้ำตาพาหลั่งรินไม่สิ้นสูญ ความอาดูรพูนเพิ่นเติมใจหม่น กลอนฉันเศร้าเคล้าน้ำตามาเปื้อนปน รักร่วงหล่นกลอนคนเศร้าจำเล่าความ
อุกอั่งแท้อีแม่เอ้ย..เฉลยเว้า หัวใจเศร้า..บ่เอาถ่าว่าซ่างเป็น ย้อนว่าโตข้อยข้าน้อยอยู่ผู้เดียวเห็น จักแม่นกรรมหรือเวร..เป็นจั่งใดใจนี้ ใจฮ้องแฮงดังแสงฟ้าหาความฮัก ใจมันหักว่ามักไผกะไปหนี ทุกข์บ่จอดบ่มอดเหมิดแต่เกิดกี้ สิ่แล่นลี้หนีไปไส..ใจบ่หม่ม หลูโตนใจฮ้องไห้บ่ได้ซา คือจั่งบ้า..ว่าซ่างเฮ็ดเหตุให้ขม เจ็บบ่ห่อนฮ้อนแฮงแทงทับทม ปวดระบม..ถมแต่เศร้าเหงาบ่หาย สู่มื้อหนอท้อถอย..คอยแต่เจ็บ เจ้าฝากฝอยรอยเล็บไว้ในใจอ้าย เจ็บบ่ซาบ่ล้าหร่อยฮอยแพ้พ่าย สะเดิดฝันมันฮ้าย..จนผ่ายผอม คงอีกโดนโม่นหมองสิออกหาย จนโตอ้ายตายไข้สิไปพร้อม เจ็บเทื่อนี้อ้ายพี่หนักกับฮักหอม ใจตรมตรอมกล่อมแต่เศร้า..บ่เล่าลืม (นางเอย)