31 สิงหาคม 2550 19:08 น.

ขอประชาสัมพันธ์ Hospimedica

เปเป้ซังแม่มู๋ผู้เดียวดาย

3rd International Exhibition on Hospital, Diagnostic, Pharmaceutical, Medical & Rehabilitation 
Equipment & Supplies

12  14 September 2007

Queen Sirikit National Convention Center  (QSNCC)
Bangkok, Thailand

www.hospimedica-thailand.com


ข่าวประชาสัมพันธ์

	HOSPIMedica THAILAND 2007 งานแสดงนวัตกรรมทางการแพทย์ครบวงจรแห่งภูมิภาคอาเชียน
	และงานสัมมนาจับคู่ธุรกิจการลงทุน (Asia-Invest Matchmaking Conference) เพิ่มความคุ้มค่าให้แก่ผู้เข้าชมงาน

กรุงเทพ  HOSPIMedica THAILAND งานแสดงสินค้าและเทคโนโลยีทางการแพทย์และยาครั้งนี้จัดขึ้นที่กรุงเทพฯ เป็นครั้งที่สาม โดยจัดงานระหว่างวันที่ 12 ถึง 14 กันยายน 2550 ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์ โดยคาดว่าการจัดงานทั้ง 3 วัน จะมีผู้เข้าชมและผู้ซื้อมากกว่า 5,000 คน ภายในงานนำเสนอเทคโนโลยีทางด้านการแพทย์และสุขภาพที่ทันสมัยที่สุดในโลกมาสู่ภูมิภาคอาเชียน ซึ่งเป็นเขตที่มีการเติบโตทางอุตสาหกรรมด้านสุขภาพมากที่สุดในโลก โดยมีบริษัททางการแพทย์ชั้นนำระดับโลกตอบรับเข้าร่วมงานแสดงมากกว่า 250 บริษัทจาก 25 ประเทศทั่วโลก ซึ่งรวมไปถึงบริษัทในประเทศ ออสเตรีย เบลเยี่ยม จีน ฝรั่งเศส เกาหลีใต้ สิงคโปร์ ปากีสถาน ไต้หวัน และ อังกฤษ

HOSPIMedica THAILAND เป็นงานยิ่งใหญ่ดับอาเชียน หน้าด่านธรุกิจทางการแพทย์และสุขภาพที่สำคัญครอบคุลมครบวงจรสำหรับนักธุรกิจในวงการสุขภาพทั่วทั้งเขตภูมิภาพอาเชียน ตลอดจนผู้ที่กำลังมองหาช่องทางรุกเปิดธุรกิจในตลาดแถบอินโดจีนของประเทศไทย เวียดนาม กัมพูชา และลาว ที่มีจำนวนประชากรในกลุ่มประเทศอาเชียนรวมกันมากกว่า 540 ล้านคน และกำลังมีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องมาตรฐานความเป็นอยู่ รวมทั้งด้านการสารธารณสุขให้ดีและเหมาะสมยิ่งขึ้น ประชากรมีอายุขัยยาวนานขึ้น ซึ่งส่งผลต่อกลุ่มประชากรผู้สูงอายุที่มีความต้อง การและความจำเป็นในการดูแลรักษาสุขภาพ มากไปกว่านี้อัตราการเพิ่มขึ้นของการท่องเที่ยวเพื่อดูแลสุขภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทย สถาบันเพื่อการดูแลและรักษาสุขภาพหลายแห่งกำลังต้องการอุปกรณ์ และเทคโนโลยีทันสมัยใหม่ล่าสุดเป็นอย่างมากเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าตลอดจนผู้ป่วย สร้างมาตรฐานที่แตกต่างจากคุ่แข่ง ในด้านการแพทย์และการดูแลรักษาสุขภาพ 

HOSPIMedica THAILAND เป็นตัวกลางให้บริการโดยเป็นสถานที่พบปะทางธุรกิจการค้าที่สำคัญสำหรับผู้บริหาร ผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมการแพทย์ ภาครัฐ ผู้ดำเนินการโรงพยาบาล แพทย์ พยาบาล และมืออาชีพทางด้านการดูแลรักษาสุขภาพอื่นๆ เป็นแหล่งรวมและพบปะสำหรับอุตสาหกรรมด้านการดูแลสุขภาพเพื่อให้ข้อมูลและอำนวยประโยชน์ต่างๆ ตั้งแต่นวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่จำเป็นในการผลักดันคุณภาพมาตรฐานของการสาธารณสุข เพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลและรักษาสุขภาพ ตลอดจนการดูแลและบำบัดผู้ป่วยให้ได้รับประโยชน์มากขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
 
กิจกรรมที่ไม่ควรพลาด
ผู้จัดแสดงและผู้ชมต่างมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่เช่นเดียวกันที่ HOSPIMedica THAILAND โดยผ่านทางการทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกัน ยกตัวอย่างเช่น การประชุมการจัดคู่ค้านักลงทุนแห่งเอเชียที่จะจัดขึ้นล่วงหน้าก่อนงานแสดงสินค้า ในวันที่ 10-11 กันยายน 2550 โดยให้ผู้เข้าร่วมประชุมได้มีโอกาสในการขยายเครือข่ายในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และช่วยสนับสนุนกิกรรมต่างๆ ในการป้องกัน และดูแลการใช้ชีวิตที่ปราศจากโรคติดต่อ โดยมีบริษัทต่างๆ จากประเทศเยอรมัน ฟินแลนด์ ประเทศไทย และมาเลเซียจะเป็นผู้นำเสนอ ณ ที่ประชุม ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลและรายละเอียดเกี่ยวกับการลงทะเบียนเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซท์ www.health-management-sea.com 

นอกจากนั้นยังมีกิจกรรมทางด้านธุรกิจ  การจับคู่ทางการค้าเกี่ยวกับอุปกรณ์ทางการแพทย์ในเอเชียของนักลงทุนยุโรป-เอเชีย ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 13 และ 14 กันยายน 2550 การจัดงานในครั้งนี้จะช่วยให้บริษัทขนาดเล็ก และขนาดบริษัทกลางที่กำลังมองหาช่องทางทางธุรกิจในส่วนของอุปกรณ์ทางการแพทย์ของยุโรป และเอเชียสามารถทำการติดต่อกับหุ้นส่วนทางธุรกิจได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย วัตถุประสงค์ของการจัดงานในครั้งนี้คือการนำบริษัทยุโรป 40-45 และบริษัทในเอเชีย 70-80 บริษัทจากประเทศไทย และประเทศจีนมาพบกัน ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่เว็บไซท์ www.asiainvest-thailand.com 

ส่วนอีกงานที่เป็นสีสันให้กับการจัดงานแสดงสินค้าทางการแพทย์ HOSPIMedica THAILAND ก็คืองาน First ASEAN Neuro Rehab Certificate Workshop Series ซึ่งเป็นการทดลองเกี่ยวกับงานด้านสาขาประสาทวิทยาเป็นครั้งแรกในเอเซียน โดยจะจัดขึ้นในวันที่ 13 กันยายน ในงานนี้จะใช้ระยะเวลาหนึ่งวัน มีเป้าหมายให้ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ และผู้เชี่ยวชาญทางด้านอื่นๆ เริ่มทำการทดลองศึกษาเกี่ยวกับด้านการส่องกล้องวิดีโอในช่องท้อง Video Fluoroscopic Swallowing Study (VFSS) ซึ่งผู้บรรยายหลักได้แก่ศาสตราจารย์คริสเตียน ฮันนิกจ์ จากมหาวิทยาลัยเทคนิคแห่งเมืองมิวนิค

ทั้งยังมีกิจกรรมที่จะจัดขึ้นภายหลังจากงานแสดงที่กำลังรอคอยให้ผู้สนใจเข้าร่วม ได้แก่การเดินทางไปทัศนศึกษาที่เมืองโฮจิมินห์ซิตี้ ประเทศเวียดนาม ในวันเสาร์ที่ 15 และอาทิตย์ที่ 16 กันยายน ซึ่งรัฐบาลเวียดนามได้ให้ความสำคัญเกี่ยวกับด้านการดูแลรักษาสุขภาพเป็นหลักในแผนพัฒนาเศรษฐกิจ-สังคม 5 ปี (พ.ศ. 2549-2553) โดยมีเป้าหมายรวมไปถึง การสร้างจุดแข็ง และการพัฒนาการสาธารณสุขของประชาชนตั้งแต่ระดับรากหญ้า การขยายการดูแลรักษาป้องกันสุขภาพ และการเพิ่มความสามารถในการติดตาม ตรวจตรา และควบคุมโรคระบาดและโรคติดต่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรดเอดส์ HIV/AIDS และโรคติดต่ออื่นๆ กิจกรรมนี้จะเป็นการลงทุนต่อเนื่องทางด้านเทคโนโลยีการสาธารณสุขขั้นสูง และขยายขอบเขตงบประมาณทางด้านการสาธารณสุขเพื่อทดแทนสิ่งอำนวยความสะดวกทางด้านสาธารณสุขที่ล้าสมัย โปรแกรมนี้รวมไปถึงการนำเสนอโอกาสทางด้านธุรกิจ การจัดนโยบาย การจัดส่งบำรุง และการปฏิบัติตนของประชาชน รวมทั้งเข้าเยี่ยมชมโรงพยาบาลรัฐ และเอกชนต่างๆ ในเมืองโฮจิมินห์ซิตี้ โดยที่ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลและรายละเอียดเกี่ยวกับการลงทะเบียนเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซท์ 
www.hospimedica-thailand.com/vietnam.html 

บริการจัดหาคู่ค้าทางธุรกิจ
เป็นบริการเสริมในส่วนของผู้จัดงาน HOSPIMedica THAILAND ขอเสนอบริการจัดหาคู่ค้าทางธุรกิจให้กับทั้งบริษัทผู้จัดแสดง และผู้เข้าชมที่ได้ลงทะเบียนไว้ล่วงหน้า บริการที่สะดวกและเป็นเอกลักษณ์นี้จะช่วยจัดคู่ผู้ขายและผู้ซื้อ หรือในทางกลับกันได้

การลงทะเบียนเช้าชมล่วงหน้า
การลงทะเบียนออนไลน์สำหรับผู้เข้าชมได้เปิดให้บริการตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2550 หลังจากนั้นผู้ชมจะสามารถลงทะเบียนได้ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์ในวันงาน


ผลิตภัณฑ์ที่เด่นๆ
ผู้ชมสามารถชมผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมบางอย่างที่จะจัดแสดงภายในงานได้ที่เว็บไซท์ www.hospimedica-thailand.com 


สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ HOSPIMedica THAILAND โปรดดูที่เว็บไซท์ www.hospimedica-thailand.com
หรือติดต่อ

ข้อมูลงานแสดงสินค้า				ข้อมูลสำหรับสื่อมวลชน
Shirley Lim, General Manager			Rita Biswas
Michelle Leong, Assistant Project Manager		Snr Marketing/Communications Manager
Messe Düsseldorf Asia Pte Ltd			Messe Düsseldorf Asia Pte Ltd
9 Temasek Boulevard				Tel:  (65) 6332 9645
#23-03 Suntec Tower Two				Fax:  (65) 6337 4633 / 6332 9655
Singapore 038989				Email:  press@mda.com.sg
Tel:  (65) 6332 9624 / 6332 9646
Fax:  (65) 6337 4633 / 6332 9655
Email: hospimedica-thai@mda.com.sg				
28 มิถุนายน 2550 01:43 น.

กระทู้คิดเล่น

เปเป้ซังแม่มู๋ผู้เดียวดาย

กำลังคิดว่า"รัก"กับ"กอด"มันคงจะมีความหมายเดียวกัน
เพราะ.............
คนรักกันมักจะกอดกัน....เพราะถ้าไม่รักก็ไม่อยากกอด
ถ้าให้ไปกอดคนไม่รู้จักมันคงจะพิลึกๆละมั้ง......5555
แต่ว่า....ประเด็นมันอยู่ที่ว่า.........
เคยเอ่ะใจหรือไม่ว่า.............รัก   ทำไมต้อง   กอด
นิ นิ นิ นิ มาลองคิดกันดูหน่อยเป็นไร
ในความคิดเห็นของหมูอัจฉริยะไอคิว(ติดลบ)180ตัวนี้แล้ว....ผลออกมาว่า...

คนที่กอดกันได้เพราะรัก...อันเนื่องมากจาก.....เฮาฮักกัน จริงบ่เอื้อยอ้ายทั้งหลาย

Hug = ฮัก = รัก 

55555555  
สรุปแล้ว....ฝรั่งขโมยคำไทยภาคอีกสานไปใช้......



ป.ล.ตัวน้อยๆ มุกแป๊กไปนิด ต้องขออำภัยอย่างรุนแรง ขอตัวไปนอนก่อนนะคับ				
22 พฤษภาคม 2550 01:11 น.

e-person สูงวัย (อักษรตัวเล็ก) อยู่อย่างไรให้สูงค่า ผลึกความคิดชีวิตผู้อาวุโส

เปเป้ซังแม่มู๋ผู้เดียวดาย

"ข้าพเจ้าเริ่มสนใจเรื่อง ผู้สูงอายุตั้งแต่ปี 2525 ยิ่งสนใจมากขึ้นเท่าใด ก็ยิ่งพบว่า ผู้สูงอายุไทยจำนวนมากและหลากหลายอาชีพ มีชีวิตที่น่าสนใจศึกษา เพื่อนำมาเป็นแบบอย่างแก่การดำเนินชีวิต ดังนั้นจึงตั้งใจเอาเองว่า จะสรรหาผู้สูงอายุแต่ละอาชีพที่เห็นว่าประสบผลสำเร็จในชีวิตการงานอาชีพละคน ตามไปสัมภาษณ์ท่านเหล่านี้นนำมาเล่าสู่กันฟังในวงกว้าง คงจะเกิดประโยชน์ไม่มากก็น้อย ..." เป็นคำบอกของ นพ.บรรลุ ศิริพานิช อดีตข้าราชการอาวุโส แห่งกระทรวงสาธารณสุข ผู้ได้ชื่อว่า คนตงฉิน ที่เห็นมาสนใจและใส่ใจกับคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ

"ผู้สูงวัย อยู่อย่างไรให้สูงค่า" หนังสือที่เป็นแรงบันดาลใจจากคำกล่าวข้างต้นจึงปรากฎร่างขึ้นมา บอกเล่าถึงแนวคิด วัตรปฎิบัติของคนดังในวัยล่วง 60 ขึ้นไป ผู้ซึ่งมีสาระแห่งแนวทางชีวิตที่เป็นประโยชน์ต่อตนเอง ครอบครัวและสังคม โดยนพ.บรรลุ ได้ไปพูดคุย หาจุดยอดของเป้าหมายชีวิตแต่ละท่านมาฉายให้เห็นภาพ

นับตั้งแต่ นพ.เสม พริ้งพวงแก้ว ผู้ได้ชื่อว่าราษฎรอาวุโส ที่มีความคิดว่า "แก่แล้วอย่าปล่อยว่าง เพราะการให้ เป็นความสุข" เรื่องราวของคุณหมอวัยเกือบ 100 ปีท่านนี้ น่าสนใจตรงที่คนในสังคมยกย่องว่าเป็น ราษฎรอาวุโส ซึ่งไม่ใช่ตำแหน่งทางการเมือง ไม่ใช่ยศทางราชการ แต่เป็นชื่อที่เรียกขานให้แก่บุคคล อันทำประโยชน์แก่ประเทศชาติบ้านเมือง แม้จะชราภาพทางกาย แต่ใจยังแก่ยิ่งฟิตปั๋ง ซึ่งนพ.เสม บอกว่า 

"คนไทยเชื่อว่า คนอายุ 60 ปีแล้วอย่าได้ทำอะไรเลย แก่แล้วให้แก่เลย อยู่นิ่งๆ ปรากฎว่าคนไม่ลงมือทำอะไรเลย ดูเหมือนลูกหลานแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อพ่อแม่ ปู่ย่าตายาย กลับตายมาก ส่วนคนที่ทำนั่นทำนี่ตลอด กลับตายช้า" เป็นเหตุผลที่ท่านฝากถึงคนอายุ 60 ปีว่า อย่าหยุดที่จะทำอะไร อายุไม่ใช่เส้นแบ่งให้มากีดกั้น ห้ามทำนั่นทำนี่ ทุกวันนี้ นพ.เสม ยังขยับเขยือนเคลื่อนกาย ด้วยการทำการบ้านในยามเช้า ไม่เกี่ยงว่าเป็นงานผู้หญิง ทั้งกวาดบ้าน เช็ดถู เป็นการออกกำลังกายยามเช้า

ก่อนจบท้ายที่ นพ.เสม ฝากถึงคนรุ่นใหม่ว่า ขอจงเสียสละเพื่อส่วนรวมให้ยึดติดน้อยที่สุด ชีวิตคือความไม่แน่นอน ทุกขัง อนิจจัง อนัตตา ถ้ามีตัวตนก็มีทุกข์ ฉะนั้น อย่าเห็นแก่ตัวให้มาก 

ด้านความคิด ของศ.ดร.มารุต บุนนาค คว่ำหวอดในวงการเมือง เก๋าลายครามในสภาผู้แทนราษฎร ขณะนี้ลาเวทีชไปแล้ว ฝากข้อคิดไว้น่าสนใจที่ว่า ...

"ผมแก่แล้ว มองเห็นสิทธิประโยชน์ของผู้สูงอายุจำนวนมากที่ถูกทอดทิ้ง ไร้การเหลียวแล ทั้งที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ว่า รัฐต้องดูแลผู้สูงอายุ คนพิการ แต่ทุกคืนที่ดูรายการทีวี เห็นคนแก่ถูกทอดทิ้ง จำนวนนับล้านๆคน กว่ารัฐจะเข้าไปช่วยเหลือ ผู้มีจิตศรัทธายื่นมือเข้าไปหนุน ก็ช่วยคนได้แค่ 3-4 แสนคน ให้เขามีเงินใช้เดือนหนึ่งๆ 300 บาท" 

"ผมคิดว่าการเอาเงินไปแจก ไม่ใช่การช่วยอย่างยั่งยืน ควรหันกลับมามองว่า ต้องทำอย่างไรให้เขาช่วยเหลือตัวเองได้ สามารถอยู่อย่างพอเพียง อย่างมีความสุข ...ทั้งผู้สูงอายุต้องทำใจให้ได้ ยุคสมัยเปลี่ยนแปลงไปตามกระแสสังคม จะเอาความรู้สึกนึกคิดของเราเป็นมาตรวัดอย่างเดียวไม่ได้ อยู่บนโลกใบนี้ต้องตามโลกให้ทัน จะให้ลูกหลานคิดแบบเรา แบบผู้เฒ่าดั้งเดิมทั้งหมดคงไม่ได้ ที่สำคัญต้องไม่เครียด ไม่ไปจู้จี้ ขี้บ่นจุกจิกกับลูกหลาน ไม่เช่นนั้นครอบครัวก็จะทิ้งขว้าง ไม่สนใจใยดีดูแลกันและกัน" 

จบคำสนทนาด้วยว่า ..ชีวิตที่เหลือ ไม่อยากได้อะไรแล้ว แค่อยากทำประโยชน์ให้สังคม ที่ผ่านมาเล่นการเมืองก็ช่วยได้ วันนี้จึงทำบุญทำทาน กับมูลนิธิ ชมรมคนตาบอด อีกอย่างที่ทำมาตลอดคือ เขียนตำรากฎหมายให้ชาวบ้านอ่านรู้และนำไปใช้ได้ง่ายๆ นั่นคือความสุขบั้นปลายของชีวิต 

สำหรับ พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร นายพลนักเขียน นักวิปัสสนา ผู้มองว่า "คนเรามีไขมันทางใจ ต้องบำบัดด้วยการบริหารใจอย่างสม่ำเสมอ" ด้วยเหตุผลที่ท่านคิดว่า คนไทยป่วยด้วยโรคจิตเลื่อนลอยเยอะมาก เพราะไม่รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ หรือทำอะไรไปแล้วบ้าง สภาพจิตใจของคนเราทางพุทธศาสนาบอกว่า ดั้งเดิมใจเราสะอาด บริสุทธิ์ ไม่ด่างพร้อย แต่นานวันเข้า เมื่อสะสมของที่มีมลทินเข้าไป ใจและจิตเริ่มเปลี่ยนคือ ล่องลอย วอกแว่ก ฟุ้งซ่าน เก็บเข้าไว้มากๆ ที่สุดจิตจะเหนื่อย อ่อนล้าไม่มีแรง คนที่ทำอะไรแบบไม่มีสติ เพราะจิตกำกับการกระทำมันกำกับแบบเหนื่อยใจ 

ดังนั้น หนทางแก้ไขคือ เมื่อเราเกิดและต้องเผชิญกับความทุกข์ เรามักหาหนทางแห่งความสุขให้ตัวเอง ท่านเป็นหนึ่งในนั้น และเชื่อว่าหลายๆ คนก็เป็นเช่นกัน "การนั่งสมาธิ" ถือเป็นหนทางหนึ่งเพื่อให้พบความสุขอย่างแท้จริง เมื่อทำอย่างต่อเนื่อง ความสุขก็อยู่ไม่ไกลจากตัวเรา เพียงใจเป็นสุข สิ่งใดก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป 

"ผมเรียนรู้ได้จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระองค์ทรงมีพระสมาธิ ผมเชื่อว่า เป็นเหตุให้การประกอบพระราชกรณียกิจทุกครั้ง สำเร็จลุล่วงด้วยความเรียบร้อยสมประสงค์ และสมความต้องการของทุกฝ่าย แม้มีอุปสรรคขัดข้องในพระราชกรณียกิจไม่ว่าครั้งใด พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไม่ทรงหวั่นไหวหรือสะดุ้งสะเทือน ทรงดำรงสติมั่น และพระราชทานคำแนะนำ ให้เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องมีกำลังใจ จนสามารถปัดเป่าอุปสรรคข้อขัดข้องเหล่านี้ได้ในที่สุด....เพราะสมาธิคือ การตรวจสติตัวเองตลอดเวลา" 

ผสานกับ ท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช ผู้หญิงแถวหน้าที่เหมือนคนปิดทองหลังพระ อยู่เบื้องหลังงานของมูลนิธิ องค์กรช่วยเหลือสังคมมากมายนับไม่ถ้วน ทำงานคลุกคลีช่วยเหลือเด็กและสตรีมากว่า 50 ปี บอกว่า "แต่ละวันเราต้องเผชิญอะไรไม่เหมือนกัน อะไรจะเข้ามาในชีวิต เราไม่ทราบทั้งหมด เมื่อเผชิญมันแล้วต้องไม่ยอมแพ้ ต้องมั่นใจในการจัดการ เราต้องพัฒนากายและใจอยู่เสมอ ให้เกิดความมั่นใจ ความพร้อมรับปัญหา อุปสรรคทุกคนที่ต้องเจอะเจอ แต่ไม่มีอะไรยากเกินแก้ไข" 

"คนไทยเป็นคนมีน้ำใจ เมืองไทยยังมีคนใจกว้างจะช่วยเหลือ สนับสนุน อุปถัมภ์ค้ำชูกันอยู่ ดังนั้น อย่าไปอยู่อย่างเดียวดาย และคิดว่าตัวเองแก้แล้วต้องไร้ค่า"

แม้สูงอายุ พวกเราเหล่าคนเกษียณอายุราชการแล้วมักห่อเหี่ยว เพราะไม่ได้คิดว่า ต้องยืนอยู่บนขาตัวเอง ไม่ใช่ยืนอยู่บนตำแหน่ง ลาภยศสรรเสริญที่เคยผ่านเข้ามาในชีวิต อยากบุกถึงทุกคน เกษียณอายุราชการเขามีกำหนดไว้ แต่การทำงานเพื่อชุมชน สังคมนั้น ไม่มีกำหนดขีดเส้นว่า ต้องเลิกเมื่ออายุเท่าไร เราสามารถทำได้จวบจนหมดลมหายใจ 

4 ผู้สูงอายุ กับความคิดอันมีคุณภาพที่สะท้อน บอกนัยถึงทุกคนว่า เป็นผู้สูงวัย ที่อยู่ได้อย่างมีคุณค่าในสังคมนี้ ...

ผู้สนใจหนังสือนี้ ขอรับได้ที่ ฝ่ายประสัมพันธ์ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) อาคารเอส.เอ็ม ทาวเวอร์ ถ.พหลโยธิน โทร.0-2298-05				
18 พฤษภาคม 2550 00:33 น.

บทเพลงเพื่อคุณ

เปเป้ซังแม่มู๋ผู้เดียวดาย

ยืนหยัดยืนยง- อัสนี วสันต์ โชติกุล 

วันที่ผ่านพ้นมา ไม่ได้รอชะตา 
เวรและกรรมการชี้ทาง 
คิดและหวังอะไร 
ไม่มีจะง่ายเลยสักอย่าง 
เดินมาเต็มกำลังจึงมีวันนี้ 

สร้างทุกอย่างด้วยมือ 
เป็นเรื่องที่ยากหนักหนา 
แต่ยังมียากยิ่งกว่า 
ก็คือได้อยู่ยืนนาน 

คนจะยืนหยัดอยู่ยืนยง 
ไม่หลงมัวเมาเป็นอื่น 
เอาใหม่เมื่อล้ม สลบแล้วฟื้น 
กลับมายืนได้เอง 

คุณธรรมปักอยู่ในใจ 
ไม่ใช่แค่เป็นคนเก่ง 
ทำสิ่งที่รู้เพื่อคนทั้งหลาย 
ไม่ทำลายเสียเองจึงอยู่นาน 


เย้..เย้..จึงอยู่นาน.............				
25 เมษายน 2550 10:57 น.

See the Best for Good Print!!!

เปเป้ซังแม่มู๋ผู้เดียวดาย

ดีค่า ช่วงนี้งานยุ่งมากมายเลย แต่ว่างๆก็เจอกันได้ที่งาน pack print international 2007 ที่ไบเทคบางนาเด้อ

งานจะเริ่มพรุ่งนี้แล้วนะ เป็นงานเกี่ยวกับการแสดงเครื่องพิมพ์ 
บรรจุภัณฑ์ ที่มีการวิวัฒนาการใหม่ๆแบบสุดยอด 
แล้วยังมีการสัมมนาอีกนะ 
ดูรายละเอียดได้ที่ www.pack-print.de นะจ๊ะ

อ่อ งานมีวันที่ 26-29 เมษา ศก นี้นะจ๊ะ เวลา 10.30-18.00 น
วันที่ 26-28 ผู้ที่มาในนามของบริษัท สามารถลงทะเบียนได้ที่หน้างาน
และวันที่ 29 เปิดสำหรับบุคคลทั่วไปไม่ต้องลงทะเบียนนะจ๊ะ


วันก่อนไปเดิตรวจงานมีเครื่องอะไรก็ไม่รู้ใหญ่มากๆเลย หึหึหึ ท่าทางงานนี้จะสนุก แต่ช่วงนี้บ้ารับโทรศัพท์จากลูกค้า จนสายไหม้เลย อิอิอิ				
Calendar
Lovers  3 คน เลิฟเปเป้ซังแม่มู๋ผู้เดียวดาย
Lovings  เปเป้ซังแม่มู๋ผู้เดียวดาย เลิฟ 6 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเปเป้ซังแม่มู๋ผู้เดียวดาย
Lovings  เปเป้ซังแม่มู๋ผู้เดียวดาย เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเปเป้ซังแม่มู๋ผู้เดียวดาย
Lovings  เปเป้ซังแม่มู๋ผู้เดียวดาย เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงเปเป้ซังแม่มู๋ผู้เดียวดาย