12 กุมภาพันธ์ 2551 16:33 น.
เปเป้ซังแม่มู๋ผู้เดียวดาย
ที่จากไปห่างไกลลับสายตา
ยังห่วงหาอาวรณ์ถึงตัวพี่
แม้นจักผ่านกี่เดือนหรือกี่ปี
ใจดวงนี้มิเคยแปรตามเวลา
วันเวลาแม้นลบเลือนความโกรธแค้น
แต่รักแน่นเต็มดวงใคร่ควรญหา
ยังคงภักดิ์และจงรักภัสดา
แม้นพี่ยาเลือกที่จะเปลี่ยนคนนอน
จากสัปดาห์เลื่อนเป็นเดือนเคลื่อนเป็นปี
แต่น้องนี้ยังคำนึงมิถอดถอน
พยายามตัดใจให้พ้นอาวรณ์
แต่ยากถอนเยื่อใยรักที่มัดใจ
ทุกทุกวันเปรียบเสมือนไร้อารมณ์
มิสุขสมขมขื่นจิตยากแก้ไข
มีเพียงรักที่ชอกช้ำระกำใจ
คอยหวลไห้ทุกโมงยามคราคำนึง
รักรักรักพี่ได้ยินบ้างไหมหนอ
คิดแล้วท้อเพราะพี่มีคนคอยซึ้ง
เบื่อน้องแล้วจึงทอดทิ้งให้พรั่นพรึง
กับวันซึ่งไร้พี่ยาประโลมใจ
วาสนาของสองเราคงไม่สิ้น
บนฟ้าดินอย่าให้พรากจากไปไหน
ขอให้พี่กลับตัวและกลับใจ
หวนคืนใจมิปันให้หญิงใดเลย
12 กุมภาพันธ์ 2551 16:31 น.
เปเป้ซังแม่มู๋ผู้เดียวดาย
รักรุมเร้ารุ่มร้อนอยู่ภายใน
ดังเปลวไฟผลาญเผาพลุ่งพล่านหนา
รักร้อนแรงลึกลุ่มเกินพรรณนา
ดังอัคคาลุกไหม้มิเห็นใคร
รักเร็วร้อนย้อนย้ำสติเลือน
เข้าเชือดเฉือนหัวอกให้มอดไหม้
ดั่งไฟกรดมิอาจมอดด้วยชลนัย
สายเกินไปที่ป้องกันรักเมามัว
เมื่อแรกเริ่มเจอรักพาหวานชื่น
ลืมวันคืนเสพย์สุขสิ่งชวนหัว
ดั่งน้ำทิพย์ชุบชโลมใจระรัว
มิเกรงกลัวต่อกรรมที่ควรทำ
เรื่องควรทำก็หลีกลี้แกล้งไม่เห็น
สิ่งควรเป็นแกล้งไม่รู้แสร้งทำขำ
ภาระกิจควรรับมิกระทำ
จิตใจร่ำร้องเรียกแต่หัวใจ
คิดพะวงเมื่อไม่ได้พบเห็นหน้า
ปรารถนาแต่ให้รักมิไปไหน
อยู่คงคู่ชู้ชื่นปลื้มจิตใน
เกรงกลัวใครกรายกล้ำล้ำลอบทรวง
เมื่อรักจากจรลีลี้ไปไกล
ไร้สิ่งใดจะยื้อยุดฤๅบวงสวรง
จักเซ่นไหว้ไท้เทพใดให้คืนรวง
ใจหลุดร่วงโรยราไร้เรี่ยวแรง
รักร้อนแรงเหลือเพียงใจหม่นไหม้
ธุลีใจเหลือซากของแสลง
ยิ่งมองเห็นยิ่งตรองตรึกภาพจำแลง
ศรรักแผลงแทงทิ่มให้ปร่าใจ
รักเคยร้อนสอนใจเตือนสติ
อย่าเพิ่งริเทใจให้แก่คนไหน
ต้องคอยดูคอยมองพฤตินัย
ค่อยเทใจไปให้แค่ครึ่งเดียว
รักตัวเองให้มากกว่ารักเขา
หัวอกเราหมองไหม้ใครจะเหลียว
รักน้อยน้อยแต่จงภักดิ์ซื่อสัตย์เจียว
ถึงรักเปลี่ยวร้างไกลก็ไม่ตรม