24 กันยายน 2550 17:08 น.
เปเป้ซังแม่มู๋ผู้เดียวดาย
อยู่ท่ามกลางสายฝยอันเหน็บหนาว
นี่กี่คราวแล้วนะนี่กี่หน
มรสุมรุมเร้าจับจิตจน
สั่นสับสนหนทางที่จะไป
ทุกหยาดหยดกระหน่ำซ้ำผสานลม
ยิ่งขื่นขมกายระริกแทบไม่ไหว
สั่นสะท้านคล้ายน้ำแข็งลึกเข้าไป
อยู่ข้างในความคิดและตัวตน
หนาวเหน็บเหนื่อยจักเจ็บเกินกรีดร้อง
มีรอยร่องของชีวิตที่แห่งหน
ที่ต้องรู้ต้องเผชิญต้องอดทน
เหลือเพียงหม่นคราบน้ำตาที่หลั่งริน
ท้อเหลือเกินกับการต้องสู้ฝน
เกิดเป็นคนมิได้มีใจเป็นหิน
เจอเรื่องทุกข์คละความเศร้ามิอาจชิน
วิญญาญ์บินโบยโบกยามอัปรา
หากว่ามีเรือนใจให้พิงพัก
ใจคงหนักแน่นแกร่งกว่าภูผา
แต่เรือนใจนี้ล่มมานานมา
เลยต้องล้าแรงโรยกลางลมวน
18 กันยายน 2550 22:32 น.
เปเป้ซังแม่มู๋ผู้เดียวดาย
ก็แค่คนไร้ค่า
แค่ปรายตาอาจหมองมัว
เอาใจไว้ไกลตัว
แม้ว่ากายอยู่ใกล้กัน
วันนี้หรือวันไหน
สัมพันธ์ใจมิอาจสั้น
ยิ่งไกลกัปชั่วกัลป์
ไร้วีวันจะครอบครอง
มิมีทางอันใด
ทำให้ใจตอบสนอง
แค่เพื่อนมิอาจจอง
อย่างมากปองคนเคยเจอ
เนิ่นนานเนาแนบนิตย์
ใจเธอปิดมิเผยอ
ปิดกั้นฉันและเธอ
เจ็บจนเบลอเกินรับทน
ขอจบ ณ ตรงนี้
ณ ตรงที่ใจสับสน
มิอยากได้ยิยและยล
เจอหน้าคนเคยรำพัน
10 กันยายน 2550 20:50 น.
เปเป้ซังแม่มู๋ผู้เดียวดาย
ลมหวีดหวิวปลิวปลิดใจให้ไกลห่าง
เมื่อขาดร่างคอยคิดสนิทแนบ
ก่อนเคยเคียงเคล้าคลอเคยอิงแอบ
ทิ้งรอยแสบแปลบปร่าซ่านฤทัย
จากวันนี้เราก็ไกลกันเกินเอื้อม
เหลือความเอือมระอาหน้าแลหมั่นไส้
หยามน้ำหน้าด่าทอทิ้งระทมใจ
เมื่อมีใหม่ใจหมดค่าปร่าขวัญจริง
ทำไมหนอผู้ชายมีสิทธิ์เลือก
คบเพียงเปลือกเลือกคบอยู่เบื่อก็ทิ้ง
มีรักเดียวยังไม่พอดังกับปลิง
กระโจนกลิ้งแอบดูดเลือดตามรายทาง
คนที่หนึ่งคนที่สองมิยอมหยุด
จุดสิ้นสุดอยู่ไหนนะ ณ ปลายหาง
จุดสุดท้ายแห่งชีวิตที่เบาบาง
รึไร้ทางมีเพียงหนึ่งประหวั่นใจ
........................................................
..........................................................
.........................................................
........................................................
4 กันยายน 2550 20:06 น.
เปเป้ซังแม่มู๋ผู้เดียวดาย
วะวาบวับรับลมรื่นชื่นดวงจิต
ไฟดวงนิดลอยละล่องล้อลมหลง
หิ่งห้อยน้อยเจ้าล่องลอยอยู่ในดง
พร่างพรายพงพนาไพรดาราดิน
อีกแสงจันทร์เงินยวงลวงใจจิต
ทาบทุกทิศประกายแสงเสกเสริมศิลป์
ดั่งจันทร์เจ้ามีมนต์ร่ายตามใจจินต์
ให้ถ้วนถิ่นระเรื่อรัศมีทอง
ค่ำมากแล้วน้ำทิพย์ฉ่ำพรำพารา
เติมอุราที่ล้าแรงทั่วทั้งผอง
นิมิตรเทพที่เสกสันต์จะประคอง
คลายเศร้าหมองท่ามนิทรามนตรากาล
หลับเถิดนะพริ้มตาลงบนอกพี่
ไม่คิดหนีพี่จะอยู่คู่สมาน
ให้น้องนางอิงอกอุ่นสนิทนาน
ให้เจ้าผ่านวารวันอันโรยรา
3 กันยายน 2550 18:18 น.
เปเป้ซังแม่มู๋ผู้เดียวดาย
อดีตาผ่านพ้นไปแสนไกล
แต่หัวใจยังอยู่คู่สถาน
ที่ที่เดิมที่ตรงนี้อย่างเดียวดาย
มิเคยคลายกับอาวรณ์อารมณ์เดิม
ครบอีกปี่สินะวันพี่แก้ว
ครบรอบแล้วอีกปีน่าส่งเสริม
พี่อายุมากขึ้นกว่าจากเดิม
และยังเสริมอีกปีหนึ่งที่ลาไกล
แม้นพี่ไปลงหลักกับรักใหม่
แต่หัวใจน้องนั้นมิไปไหน
ยังคงรักและรอรอคอยกอบดวงใจ
มิให้ไหลเรื่อยรินกับน้ำตา
พรอันใดในโลกหล้าว่าประเสริฐ
ขอบังเกิดแด่ตัวพี่ที่จิตหา
แม้ตัวไกลใจคงอยู่กับเวลา
จากแก้วตาที่ลงหลักปลักรักตรม