31 มีนาคม 2550 11:29 น.
เปเป้ซังแม่มู๋ผู้เดียวดาย
ฉันมั่นว่าฉันสวย
แม้ไม่รวยแต่น่ารัก
ถึงหุ่นน้องน้องยักษ์
แต่มิมักง่ายหน่ายลวง
คนจีบมีมากมาย
ใยเสียดายรักเคยหวง
เมื่อคนมันหัวกลวง
มิอยากควงก็ช่างมัน
ฉันสวยฉันเลือกได้
แล้วทำไมมิแปรผัน
จมปลักทำไมกัน
เมื่อทุกวันเป็นของเรา
ฉันสวยจึงอยากเปลี่ยน
รักเนียนเนียนมิใช่เหา
เลือกคนเคียงคู่เรา
ตราบนานเท่าสิ้นชีวา
30 มีนาคม 2550 17:25 น.
เปเป้ซังแม่มู๋ผู้เดียวดาย
ยากจักหา เหตุผลใด ให้คลายเศร้า
เมื่อความเหงา เฝ้ารุมเร้า ให้หวนคิด
ระลึกถึง คนหนึ่งคน เคยสนิท
เคยแนบชิด อิงแอบ เกี่ยวตระกรอง
แม้นจะรู้ แก่ใจ ว่าไร้รัก
แม้นประจักษ์ ว่า คนนั้น เขาทำหมอง
รักที่สร้าง เป็นมายา มิอาจครอง
แต่ใจตรอง ครองเศร้า เหงาชีวี
ฤาว่าเรา ชีวิตนี้ จะเดียวโดด
จักต้องโสด เดียวดาย มิอาจหนี
ความเหงาเศร้า น้ำตาพราย ทุกนาที
มิอาจมี คู่ใจกาย อยู่เอกา
25 มีนาคม 2550 12:27 น.
เปเป้ซังแม่มู๋ผู้เดียวดาย
เมืองที่ใหญ่โตโอ่อ่าสง่างาม
ประหนึ่งว่าอารามทั้งมวลนั้นเป็นชั้นฟ้า
บ้านเมืองพัฒนาทุกทิศทาง
และทางหนึ่งนั้นก็มิอาจพัฒนาได้....จากใจตน
คุณธรรม ศีลธรรม จิตสำนึก
น่าตรองตรึกเอาไว้ให้ถี่ถ้วน
แต่ทว่าคนส่วนมากลืมสิ่งสำคัญเหล่านี้หมดสิ้น
ล้วนใช้ประโยชน์จากคำลวงและหลอกกัน
บ้านเมืองพัฒนาไปไกลเกินกู่กลับ
คุณธรรมลับหายไปหล่นแห่งไหน
ศีลธรรมอันควรอยู่ในจิตใจ
จิตสำนึกนั้นไซร้..อยู่ไหนกัน
เมื่อสามสิ่งลับหายยากเกินแก้
เมืองที่เจริญพัฒนาจนถึงขีดสุด
ก็ไม่ต่างอะไรกับผลไม้ที่งอกงาม....และเริ่มงอม
เมื่อจิตใจร่วงลงหมาคลื่นแห่งโลภะก็ยากจะหลีกหนี
ผลไม้สุก สีสวย กลิ่นหอม ยั่วยวนใจ
มวลหมู่แมลงย่อมชอนไชเพื่อลิ้มลอง
หากผลไม้นั้นเปลือกแข็งก็อาจจะต้านอยู่
หมู่แมลงก็มิอาจทำอะไรได้
แต่ถึงอย่างไร ผลไม้สุก
ย่อมเน่าจากจุดเล็กๆ และเริ่มจากข้างใน
เมื่อถึงคราวหมู่มวลแมลงจะหวนมา...
ไม่ต่างเลยกับเมืองไทยขณะนี้
ขณะที่บ้านเมืองพัฒนาสู่ความรุ่งเรือง
และมีเหลือบไรคอยรังควาน
แต่กระนั้นก็มิอาจทำลายคนไทยได้ในตอนนั้น
ทว่าตอนนี้ช่างน่าปวดใจ.....นี่หรือคนไทย ทำกันได้ลง
สมแล้วที่ผลไม้สุกมันย่อมน่าจากข้างใน
เพราะแม้นเปลือกจะกล้าแกร่งสักแค่ไหน
หากภายในกัดกินกันเอง....
สักวัน......แม้แต่สิ่งที่จะให้ตักตวงก็ไม่มี
25 มีนาคม 2550 10:47 น.
เปเป้ซังแม่มู๋ผู้เดียวดาย
เธอบอกฉัน ว่าเข้มแข็ง อยู่เองได้
ผิดตรงไหน ที่ข้างนอก ฉันเข้มแข็ง
รู้บ้างไหม ในหัวใจ ฉันอ่อนแรง
เมื่อเธอแกล้ง บอกว่าเขา ไม่มีใคร
ไม่มีใคร และยังไง ต้องไปหรือ
คำสัตย์ซื่อ มิเคยมี เลยใช่ไหม
แม้นเข้มแข็ง แต่ก็เหงา สุดหัวใจ
เมื่อเธอไป ดูแลเขา คนอ่อนแอ
25 มีนาคม 2550 10:24 น.
เปเป้ซังแม่มู๋ผู้เดียวดาย
ถนนสายนี้ มันคง ไม่ปวดร้าว
มีคนก้าว ผ่านไปมา ไม่แยแส
ไม่มีจิต ไร้วิญญา ไม่เปลี่ยนแปร
ก็เป็นแค่ ถนน ที่ทอดยาว
แต่ว่าฉัน มันไม่ใช่ เพียงถนน
มิอดทน ผ่านคืนวัน แสนปวดร้าว
โดนเขาเหยียบ เขาย่ำ น้ำตาพราว
จะกี่หนาว ฉันถึง จะลืมเธอ
ผ่านมาที่ หนทางนี้ เคยร่วมเคียง
อยู่ร่วมเรียง เคียงคู่ ชวนพร่ำเพ้อ
ยามเกี่ยวก้อย โอบไหล่ ให้ละเมอ
น้ำตาเอ่อ ไหลรู่ สองดวงตา
แผ่นหลังนั้น เคยกอด ยามนั่งซ้อน
เคยออดอ้อน ให้เขา เล่นซ่อนหา
ได้ยินคำ หวานพร่ำ เจรจา
สบดวงหน้า ดวงตา พร้อมดวงใจ
แต่วันนี้ ไม่มีเธอ คอยเคียงคู่
ฉันก็อยู่ กับดวงใจ ที่มอดไหม้
ที่เธอสุม เพลิงรัก เชื้อชู้ใจ
ก้าวเดินไป บนทางเก่า อย่างระทม