17 กุมภาพันธ์ 2550 08:44 น.
เปเป้ซังแม่มู๋ผู้เดียวดาย
แม้ชีวิตผ่านอะไรมามากมาย
สิ่งร้ายร้ายยังคงฝังแน่นสมอง
แต่ชีวิตดำเนินไปตามครรลอง
ต้องตรึกตรองมองดูชีวิตจริง
ฝ่ายกระทำย่อมไม่รู้ถึงใจเรา
ที่โดนเขาย่ำยีใจแล้วทอดทิ้ง
ถูกกระทำช้ำชอกเจ็บแสบจริง
ใจฝังดิ่งบ่อน้ำตาแสนปวดใจ
นั่งเหม่อลอยคอยคิดแต่เรื่องเขา
แต่ฉันเศร้ารวดร้าวเขารู้ไหม
ร้องฟูมฟายคิดถึงเขาแสนอาลัย
ปวดแปลบไปคนเดียวเขาไม่มา
ชีวิตนี้ไม่ได้อยู่เพียงเพื่อเขา
แต่เพื่อเราเท่านั้นที่สมค่า
ทำชีวิตให้ดีใหม่สมราคา
ที่เกิดมาเป็นคนควรทำดี
แม้วันนี้จะเจ็บต้องมีหาย
มันไม่ตายหรอกนะเรื่องแค่นี้
เจ็บแบบนี้คิดเสียว่าก็ยังดี
ฉันยังมีชีวิตลมหายใจ
ศิลปิน : พั้นช์ (Punch)
อัลบั้ม : ผู้หญิงต้องสู้
เพลง : แปลว่ายังหายใจ
ชีวิต คือความไม่แน่นอน
ก็เหมือนละครในแต่ละตอนที่เปลี่ยนไป
สุขได้ไม่นาน เดี๋ยวมันก็ทุกข์ใจ
มียิ้มมีร้องไห้มีปวดร้าว
ขาดเขาแต่เราก็ต้องอยู่
ถึงแม้ว่าเขาไม่รับไม่รู้ก็ช่างเขา
แค่คนไม่รักจริง ทิ้งกันลงใช่รึป่าว
แล้วจะแคร์แต่เขาไปทำไม
* ไม่เห็นต้องโทษตัวเอง ไม่มีใครสมน้ำหน้า
วันนี้แค่เสียน้ำตา เดี๋ยวไม่ช้าก็หาย
อย่างน้อยที่เรายังเจ็บ แปลว่าเรายังหายใจ
ยังมีวันเริ่มต้นใหม่ได้ทุกวัน
** ชีวิตยังเป็นของ ของเรา
ที่ไม่มีใครมาพรากออกไปได้ทั้งนั้น
ใครเขาไม่รักเรา ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องหวั่น
พรุ่งนี้จะยิ้มให้ตัวเราเอง
(ซ้ำ * , **)
ใครเขาไม่รักเรา ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องหวั่น
พรุ่งนี้จะยิ้มให้ตัวเราเอง
17 กุมภาพันธ์ 2550 08:14 น.
เปเป้ซังแม่มู๋ผู้เดียวดาย
เรียนจบแล้วได้อะไรมาบ้างฤา
จงยึดถือคำสั่งสอนควรประสงค์
เอาวิชาความรู้ใช้ดั่งใจจง
สังคมคงพัฒนาอีกยาวไกล
จงยึดมั่นถือมั่นในสิ่งดี
ในสิ่งที่ชั่วช้าอย่าเผลอไผล
เรียนจบแล้วดีชั่วรู้ในใจ
อย่าทำไปเป็นเห็นค่าราคาเงิน
สังคมเราตอนนี้เริ่มจะแย่
ขาดคนแท้ต่างแย่งชิงช่างห่างเหิน
แม้อดีตเป็นเพื่อนเคยหยอกเอิน
แต่ต้องเมินด้วยสังคมต่างกัดฟัน
ด้วยเงินตราตอนนี้ค่าสูงล้ำ
ต่างครอบงำวิถีชนเกินใจฝัน
ประกอบการงานใดต้องใช้มัน
ไม่มีพลันทุกข์ใจจรต่างมาเยือน
และถ้าหากคนเราทำเพราะเงิน
ไม่ขัดเขินความชั่วที่ขับเคลื่อน
สังคมนี้คงแก่งแย่งไร้สิ่งเตือน
เป็นเมืองเถื่อนไร้คนที่ทำดี
เปรียบดุจดั่งผลไม้ที่งอมสุก
ความเสื่อมลุกคลืบคลานไปทุกที่
เริ่มจากจุดจุดเดียวที่เน่ามี
แล้วคนนี้เหลืออะไรใคร่คิดดู
เป็นบัณฑิตควรคิดหัดสังเกต
เหตุอาเพศที่ทำเสื่อมควรจะรู้
ประพฤติดีตามคำสอนของคุณครู
แล้วเชิดชูการทำดีเพื่อสังคม
16 กุมภาพันธ์ 2550 15:14 น.
เปเป้ซังแม่มู๋ผู้เดียวดาย
น้ำตาหลั่งอีกทำไมหนอน้ำตา
ใจปวดปร่าคิดภาพหลังวันเคยซึ้ง
ภาพเธอฉันเคยหยอกล้อยังติดตรึง
ยังคิดถึงด้วยน้ำตาแลอาลัย
แม้จะไกลเกินกันเกินกู่ขาน
แม้จะนานผ่านมาสักเพียงไหน
แม้เธอจะไปรักกับใครใคร
ในหัวใจยังคงรักแลภักดี
ที่ฉันเป็นเช่นนี้ไม่อาจรู้
ยังไม่สู้กับทุกข์สับสนนี้
ยังคิดถึงทุกเวลาผ่านนาที
ที่เคยมีร่วมกันครั้งวันวาน
อาจเป็นเพราะความรักสมัครมั่น
หรือว่าฉันอาจเกเรใจเดือดพล่าน
เมื่อใจหนาวมันคุ้นอุ่นแสนยาวนาน
ไร้อุ่นพาลเรียกร้องทั้งใจกาย
ต้องไม่คิดเรื่องรักสมัครมั่น
ทำเช่นนั้นได้จริงก็คงหาย
แต่ว่านี่ภาพเคียงเธอยังพริ้มพราย
มาเป็นสายคล้ายน้ำตาที่อาลัย
15 กุมภาพันธ์ 2550 03:38 น.
เปเป้ซังแม่มู๋ผู้เดียวดาย
แต่ก่อนนั้น ฉันยัง จำได้ดี
เธอวิ่งหนี ความรัก ที่ฉันให้
แม้ว่าฉัน จะทำดี สักเท่าใด
เธอก็ไม่ เหลียวแล สักนิดนึง
ไม่ว่าจะ ส่งเพจ ส่งเมลล์หา
พูดค่ะขา หาข้าวปลา ก็ไม่ซึ้ง
นวดแขนขา หลังเล่นบอล กล้ามเนื้อตึง
ทั้งหมดซึ่ง อาจวุ่นวาย เธอมากไป
แม้เธอไม่ เอ่ยปาก บอกว่ารัก
ไม่ประจักษ์ สิ่งที่ทำ มันอยู่ไหน
เปรียบเสมือน ฉันโยนหิน ทิ้งน้ำไป
แล้วเมื่อไหร่ บ่อจะเต็ม ไม่รู้เลย
และต่อมา รักที่ให้ มันเริ่มท้อ
เพราะเธอส่อ แววว่า ไม่อยู่เฉย
เธอเริ่มไป หารักใหม่ ใฝ่เกินเลย
เธอไม่เคย เห็นใจคน ที่รักเธอ
ดังฟ้าฟาด ลงกลางใจ เมื่อได้ยิน
เมื่อใจสิ้น เยื่อใยรัก เหมือนคนเพ้อ
คนรักใหม่ เขามาพรอด รักกับเธอ
ดวงตาเบลอ เอ่อนองน้ำ ทั้งสองตา
แม้นไม่รัก ก็อย่าหลอก ให้ฉันหลง
ให้งวยงง ในหลุมรัก เสน่หา
พอเจอเขา คนที่ใช่ ก็พามา
เหยียบอุรา ของคน ที่รักเธอ
และวันนี้ เธอกลับมา มาหาฉัน
บอกวันนั้น เธอพลั้งไป อย่างไผลเผลอ
บอกว่าเธอ ฝันไป และละเมอ
ที่พลั้งเผลอ ทำร้ายใจ ของฉันไป
เขาคนนั้น ที่เธอ เคยบอกรัก
ได้ประจักษ์ ว่าไม่ซื่อ ไร้ใจให้
ปากที่บอก ว่ารัก แค่บอกไป
แต่ในใจ มีชายมาก ไม่รักจริง
วันวันนี้ เธอจึงได้ แจ้งประจักษ์
ว่าความรัก ที่ฉันให้ ไม่ทอดทิ้ง
เธอรู้แล้ว ว่าฉันรัก เธอจริงจริง
ไม่ได้กลิ้ง กลอกกลั้ว เหมือนบางคน
แต่รู้ไหม ในวันนั้น ฉันรู้แจ้ง
ว่าเธอแกล้ง หลอกใช้รัก ฉันหลายหน
เธอไม่เคย รักฉัน ที่ตัวตน
เมื่อมีคน ใหม่มา เธอก็ไป
โปรดอย่าบอก ว่าตอนนี้ รักฉันจริง
ใจที่ทิ้ง มันแหลกราญ หมดรู้ไหม
แก้วที่แตก มิประสาน คล้ายกับใจ
ที่แหลกไป ด้วยมือเธอ กี่ครั้งกัน
หากแม้นว่า รักครั้งนี้ เป็นรักแท้
จากใจแน่ ไม่ได้หลอก เพื่อขำขัน
ฉันเจ็บจน ขยาดรัก เคยรำพัน
เรารักกัน แต่ในวัน ที่สวนทาง
15 กุมภาพันธ์ 2550 02:45 น.
เปเป้ซังแม่มู๋ผู้เดียวดาย
ตั้งแต่วัน ที่ฉัน ได้พบเธอ
นึกเสมอ เมื่อไหร่ จะสมหวัง
เธอทำให้ กำแพงใจ ของฉันพัง
ตั้งแต่ครั้ง พบหน้า สบตาเธอ
แม้จะเฉย แกล้งเมิน ว่าไม่สน
แต่ใจคน คนนี้ คิดเสมอ
ทำอย่างไร จะได้ สบตาเธอ
เฝ้าละเมอ ถึงเธอ เพียงผู้เดียว
วันต่อวัน เดือนต่อเดือน ที่เลื่อนผ่าน
เธอระราน ในใจ ให้ฉุนเฉียว
เดี๋ยวก็คิด เดี๋ยวก็เพ้อ บ้าจริงเชียว
ใจมันเลี้ยว หาเธอ ไม่ทำการ
ได้ยินเสียง สักนิด ก็พอแล้ว
ให้น้องแก้ว แอบชื่นใจ และซาบซ่าน
ได้ยินเสียง มีกำลัง ไปทำงาน
ไม่อาจหาญ บอกรักเธอ คิดในใจ
ยิ่งได้พบ ยิ่งได้เจอ ยิ่งอยากอยู่
อยากเป็นคู่ ของพี่ จะได้ไหม
ผู้หญิงดี ที่พี่ชอบ เป็นอย่างไร
มีน้องไหม ในสายตา ที่พี่มอง
แต่สุดท้าย มันก็เพียง ความในใจ
ไม่อาจบอก ออกไป ให้เธอหมอง
ฉันรักเธอ มิเพียงได้ อยากครอบครอง
ได้เพียงมอง แค่นี้ ก็สุขใจ