15 มีนาคม 2550 05:21 น.
เปเป้ซังแม่มู๋ผู้เดียวดาย
ติ่มเอย ติ่มซำ
เจ้าได้นำ ความสุข มารู้ไหม
ทั้งฮะเก๋า ขนมจีบ กุ้งห่อไง
อีกเซี่ยงไฮ้ เกี๊ยวซ่า ซาลาเปา
มีมากมาย หลายหลาก ล้วนน่าทาน
เป็นอาหาร เลิศรส ขึ้นในเหลา
มีคุณค่า โภชนา มิมอมเมา
ดีกว่าเอา ของโทษแปะ ยี่ห้อดี
ทั้งกรุบกรอบ กรอบแกรบ เคี้ยวหนุบหนับ
ถุงวิบวับ หลอกล่อ หลากหลายสี
ดูเป็นเหมือน ของกิน มีดีกรี
แต่ความดี หาไม่ ในตัวตน
ถึงติ่มซำ เป็นอาหาร มาจากนอก
มิปอกลอก ความแต่ไทย ไม่พองขน
ยังสามารถ กลืมกลืน กับตัวตน
เข้ากับชน หมู่ไทย ได้อย่างดี
ติ่มซำ
ภาษาจีนกลางอ่านว่า เตี่ยนซิน
หรือที่คนไทยเราคุ้นเรียกกันตามภาษาจีนกวางตุ้งว่า ติ่มซำ แปลว่าขนม
การกินติ่มซำเป็นวัฒนธรรมเฉพาะของชาวจีนกวางตุ้ง
ซึ่งกำเนิดอาศัยในมณฑลกวางตุ้งทางใต้ของจีน
ปกติคนกวางตุ้งกินติ่มซำตอนเช้า แต่ถ้าช่วงบ่ายๆ มีแขกมา
ก็จะเอาติ่มซำเสิร์ฟเป็นอาหารว่างรับรองแขก ไม่ได้กินเพื่ออิ่ม
อีกด้านหนึ่ง ติ่มซำจึงเป็นวัฒนธรรมของชาวกวางตุ้งชนชั้นสูง
ที่มักจัดเตรียมติ่มซำไว้รับรองแขกผู้มีเกียรติ
ปัจจุบัน ติ่มซำยังเป็นเครื่องมือทางวัฒนธรรมจีนอย่างหนึ่ง
ในการรับรองต้อนรับ ไม่ว่าจะเป็นการเจรจาธุรกิจ เลี้ยงลูกค้า
และการจัดคู่นัดดูตัวระหว่างฝ่ายชายกับฝ่ายหญิง
การกินติ่มซำต้องใช้เวลา ค่อยๆ เลือก ค่อยๆ สั่ง ค่อยๆ คีบ..
ละเลียดเคล้าการจิบชา ทำให้การสนทนาไม่รีบร้อน มีเวลาพูดคุยถามไถ่ดูเชิงเรียนรู้ กันและกัน
ขอขอบคุณ http://www.ar-long.com และ www.manager.co.th/MetroLife
ป.ล. วันก่อนโน้นนนนนนน ได้ดูสารคดีช่องไหนจำไม่ได้ เขาไปเที่ยวเมืองจีน แล้วเค้าก็คุยกันเรื่องติ่มซำเนี่ยะแหละ เท่าที่จำได้เป็นอาหารอย่างหนึ่งที่ไว้ "เติมเต็ม" เพราะคนจีนเค้าจะล้อมวงมากินกันแกล้มน้ำชาตอนบ่ายๆ เป็นคำที่ดีมากเลยนะ "เติมเต็ม...."
15 มีนาคม 2550 05:18 น.
เปเป้ซังแม่มู๋ผู้เดียวดาย
โอ้พี่แก่ ของฉัน เป็นอะไร
ทำไฉน ให้พี่ฟิต อย่างเดิมเล่า
อยู่กันมา แค่เจ็ดปี คิดจากเรา
ทำเราเศร้า เหว่หว้า และเดียวดาย
แค่เจ็ดปี ดูแลพี่ มาก็นาน
พี่คิดพาล อยากไป อยากแว๊บหาย
เราก็รู้ ว่าเป็นคน อันตราย
เคยทำร้าย พี่แก่ ก็หลายครา
แต่ครั้งนี้ น้องวอน จะได้ไหม
ขอให้ได้ งานก่อน นะพี่จ๋า
จะงี่เง่า จอเสีย หรือแรมลา
ให้น้องยา มีตังค์ อัพเครื่องเลย
อาลัยแก่...
พี่แก่...คอมฯที่น่ารัก(รึเปล่า) 10 วินาที อาเมน
โห..... ยังไม่ได้งานทำเลย
มีแต่ฟรีแลนซ์พอยาไส้ไปวันๆ
นี่พี่แก่ร่ำร้องอีกแล้ว ตายๆๆๆๆ
2-3เดือนก่อนโอดโอยโมเด็มพัง
คราวนี้จอ กับอะไรสักอย่างที่เป็นโปรแกรมแน่ๆ
ดันเน่าในอีก โอ้ว....อยากจะทุบๆๆๆๆ
แต่ก็นะอยู่กันมา 7 ปีแล้ว จะอภัยให้ละกัน
ไว้มีตังค์ก่อนจะยกเครื่องในใหม่ยกชุดเลย 555+
ป.ล.(1) 1-2 วันนี้ พี่แก่เกิดอาเพส
ทำให้ไม่สามารถเข้าไปตอบกระทู้ใดๆได้เลย
ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้นะค่า
ป.ล.(2) พี่แก่ให้อภัยกับการใช้งานหนัก
(2พี่น้องช่วยกันทารุณ...สลับกันใช้เช้าเย็นแบบสลับวัน
แต่มันไม่ได้ช่วยอะไรพี่แก่ เพราะสองพี่น้องได้พัก
แต่พี่แก่ยังทำงานตัวร้อนแทบระเบิด อย่าเจ๊งเลยสาธุ)
แบกรับข้อมูล(นิยายพี่ กลอนน้อง และรูปภาพบ้าบอ
อันมากมายหลายกิ๊กกะไบท์)
ป.ล. (3) มิสยูจุ๊บๆทุกคนเลย (เฉพาะผู้หญิงผู้ชายไม่จุ๊บ)
13 มีนาคม 2550 00:04 น.
เปเป้ซังแม่มู๋ผู้เดียวดาย
อันความรัก นุ่มนวล ช่างหอมหวาน
แย้มผลิบาน กลางใจ ใครใฝ่ฝัน
หากเปรียบได้ จักเปรียบ สิ่งใดกัน
นิยามฉัน รักกับฝิ่น ช่างเหมือนกัน
ในยามแรก ไม่อยาก กล้าฝันใฝ่
กลัวหัวใจ เปลี่ยนแปลง กลับผกผัน
ใจหนึ่งกล้า ใจหนึ่งกลัว เอาไงกัน
แต่เมื่อครั้น ลองดู ถึงรู้ตัว
แรกลองเสพย์ ความรัก สักครั้งหนึ่ง
ติดตราตรึง หลงงมงาย ยากโงหัว
ประหนึ่งติด ฝิ่นพา ใจเมามัว
จิตระรัว หลงวังวน ในมายา
ไหนจะรส ละมุน กรุ่นหอมหวาน
ช่างซาบซ่าน ให้ใจ ให้ฝันหา
พอสักพัก เริ่มเคลิ้ม จิตนำพา
สุขอุรา ล่องลอย ฤทธิ์นำไป
พอหมดรัก หมดฤทธิ์ ฝิ่นนำพา
ให้อุรา หงุดหงิด คิดสงสัย
อยากได้อีก อยากกระหาย แทบขาดใจ
กระสันต์ได้ ความรัก มาครอบครอง
เมื่อต้องเลิก เพราะยาก มาเสพย์ไซร้
เหมือนดั่งได้ หักดิบ ยามไร้ของ
ปวดแปลบปลาบ ทั้งร่าง น้ำตานอง
ดวงใจพร่อง แห้งเหี่ยว เรี่ยวแรงโรย
12 มีนาคม 2550 19:32 น.
เปเป้ซังแม่มู๋ผู้เดียวดาย
ค่ำคืน เหว่หว้า เดียวดาย
ดวงดาว พร่างพราย เต็มฟ้า
จันทรา ส่งแสง นวลตา
ลมพา หนาวสั่น จับใจ
น้ำค้าง พร่างพรม ลงหญ้า
เมฆา เลื่อนลอย อ่อนไหว
เหม่อมอง สุดสาย ฟ้าไกล
ในใจ หวั่นหวั่น สั่นรัว
เหตุการณ์ ร้ายร้าย คาใจ
ทับถม จนน่า เวียนหัว
ทุกอย่าง เกิดขึ้น จากตัว
ใจมัว มุนงง หลงไป
ต้องลืม ให้สิ้น ที่อย่าง
ก้าวย่าง ผ่านทุกข์ ทนไหว
ลมเย็น ปะทะ กับใจ
ไร้ใคร กอดฉัน ใต้จันทร์
กอดกับ อ้อมกอด ตัวเอง
บรรเลง ลำนำ ไหวหวั่น
กระชับ แขนเข้า รำพัน
นึกวัน ฉันอยู่ เดียวดาย
เรียนรู้ โลกเก่า เคยทิ้ง
อุ่นอิง ความเหงา ไม่หาย
อุ่นเหงา หนาวทุกข์ ในกาย
สลาย ให้สิ้น อาวรณ์
ครานี้ อยู่เพื่อ ตัวเอง
ห้ามเกรง รักยาก ถอดถอน
รักง่าย รักหน่าย จากจร
ต่อกร ความเศร้า ในทรวง
จันทร์ฉาย by มาลีฮวนน่า
...คิดถึงคืนผ่าน เหตุการณ์ที่มันร้ายๆ ...
...ร้ายจนแผดเผาใจไหม้หมองเกรียม...
...ต้องเป็นคนผิดด้วยความจำยอม ...
...กลั้นน้ำตานอง ค่ำคืนสะอื้นอารมย์...
...วันคืนผ่าน เหตุการณ์ที่มันรวดร้าว ...
...ร้าวจน..เกินใจจะทนไหว...
...รอยแยกแปลก แตกตรงกลางใจ...
...ขอฝันของฉันเคียงข้างเธอ...
...เรียนรู้โลกใหม่ โอบกอดตัวเอง ...
...ภายใต้เสียงเพลง คืนจันทร์ฉาย...
...แม้ไร้ใคร...เป็นเงาเคียงกาย...
...ล่วงเลยผ่าน...ผ่านเลยไป...
...ทอฝันของฉันเป็นมาลัย...
...คล้องให้เธอภายใต้จันทร์ฉาย...
...รอฝันของฉันเคียงคู่เธอ...
...เรียนรู้โลกใหม่ จะเคียงข้างเธอ ...
12 มีนาคม 2550 06:37 น.
เปเป้ซังแม่มู๋ผู้เดียวดาย
ชะตาชีพ มิอาจ มีใครรู้
ว่าไปสู่ หนทาง ซึ่งแบบไหน
แต่ลงท้าย ดีเลว ยากบอกไป
วิถีกรรม ชักให้ รู้ได้เอง
สิ่งต่างต่าง อาจเดา คำตอบได้
ประหนึ่งไซร้ กร้านกร้าว ทำข่มเหง
บทจบลง ตรงความผิด ของตัวเอง
ย่อมอยู่เกรง กลัวกรรม คอยซ้ำเติม
แต่บางคราว บางชั่ว บางขณะ
ยากปล่อยละ ความรู้สึก อยากแต่งเสริม
ความสุขกาย สุขใจ มากกว่าเดิม
ใจอยากเพิ่ม ขวนขวาย หารตี
ต้นรักนั้น ออกดอก แต่ตอนไหน
ไม่มีใคร ทราบได้ จริงไหมนี่
ใครเพาะเม็ด รดน้ำ ในฤดี
ทราบอีกที เมื่อดอกรัก เริ่มเบ่งบาน
แต่ใครรู้ ว่าดอกรัก อยู่ทนไหม
แล้ววันไหน จะร่วงโรย ไร้แรงขาน
หรือดอกรัก จะเติบโต ได้ไม่นาน
ยากเกินการณ์ จะคิด คาดเดาดู
ทุกสิ่งใน โลกา มีจุดสิ้น
แตกดับดิ้น ฟังดู ไม่รื่นหู
แต่ความจริง ผลที่เกิด นับเป็นครู
ให้ลวงรู้ เหตุการณ์ อาจมาเจอ
Only Time by Enya
Who can say
Where the road goes,
Where the day flows?
Only time
And who can say if your love grows
As your heart chose?
Only time
Who can say why your heart sighs
As your love flies?
Only time
And who can say
Why your heart cries when your love lies?
Only time
Who can say
When the roads meet
That love might be
In your heart?
And who can say
When the day sleeps
If the night keeps
All your heart?
Night keeps all your heart
Who can say if your love grows
As your heart chose?
Only time
And who can say where the road goes,
Where the day flows?
Only time
Who knows? only time
Who knows? only time