17 กุมภาพันธ์ 2556 13:20 น.

เพลงพรที่ขอบฟ้า

เปลวเพลิง

แรกลืมตาฟ้าสวยด้วยเมฆขาว		
ดังเรื่องราวกถามุขอันสุขสันต์
สุดแผ่นดินถิ่นน้ำฉ่ำชีวัน			
สุดไพรสัณฑ์กว้างไกลสุดสายตา

หวานแว่วเพียงเสียงร้องทำนองนก		
กล่าวสาธกโชยพระพายผ่านชายป่า
รินเพลงพรสันติซึ้งอันตรึงตรา			
ของบินหลาจากวังกำบังไพร

จากอดีตซึ่งสลายมาไกลโพ้น			
เพลงอ่อนโยนกังวานอย่างหวานไหว
ภาพแผ่นภพสงบศานต์จารหัวใจ		
ที่สุดใต้แดนสยามจงรามเรือง

แล้ววันนี้เสียงสนั่นดุจฝันร้าย			
ก็ทำลายความสุขในทุกเรื่อง
ควันสีเทา  เขม่าปืนเข้ากลืนเมือง		
และตรงเบื้องหน้าที่พบคือ...ศพคน

เพลงบินหลาลาลับไปกับเมฆ			
กระสุนเสกความตายรายทั่วหน
ระเบิดเปรี้ยงเริ่มเวลาจลาจล			
ท้องถนนนั้นพบว่าทาเลือดแดง

เมื่อลืมตารับตะวันในวันนี้			
มิอาจมีคำเปรยเอ่ยแถลง
ดวงตาฉายประกายขลาด  หวาดระแวง 	
นวลแก้มแฝงรอยช้ำของน้ำตา

พรุ่งนี้หวังเฝ้ารอท่าบินหลากลับ		
เพื่อมาขับบทเพลงบรรเลงกล้า
แม้วันนี้คำตอบที่ขอบฟ้า			
สั่นและพร่าว่าอาจเฝ้านานเท่านาน				
13 กุมภาพันธ์ 2556 21:54 น.

วาเลนไทน์

เปลวเพลิง

กุหลาบสีโปรยฝากจากฟากฟ้า		
บ่งบอกว่าวาเลนไทน์ได้มาถึง
อันความรักสีชมพูดูซาบซึ้ง			
เป็นสิ่งซึ่งส่งผ่านจากม่านใจ

เดือนแห่งรักรมย์ละมุนอุ่นไอหวาน		
แสนสำราญเริงรื่นชื่นไฉน
หนุ่มบอกรักสาวสวยด้วยดอกไม้		
สาวก็รับรักไว้ด้วยไมตรี

อานุภาพมายามนตรารัก			
แดอะดักหากคิดผิดวิถี
นามสงวนนวลสง่าในท่าที			
อย่าผลามผลีตกเป็นข้ากามารมณ์

สุมาลีแรกแย้มอันแช่มชื่น			
อาจสะอื้นดลหวานพาลเป็นขม
วาเลนไทน์เพียงสัญญาค่านิยม			
จะน่าชมถ้าคิดได้ต่อไปนี้

“อันความหมายดีงามของความรัก		
จงตระหนักตริตรองให้ถ้วนถี่
อนุสรณ์วันมิคสัญญี				
นักบุญที่ชื่อเซนต์วาเลนไทน์

เพียงทุกผู้ตวงตักรักพิสุทธิ์			
มอบเพื่อนมนุษย์ทั่วไปทั้งไกลใกล้
อีกหวังดีทั้งปวงและห่วงใย			
แต่มิใช่สนุกสนานการเสียตัว”

วันแห่งรัก-วาเลนไทน์ได้ถึงแล้ว		
กุหลาบแก้วสะพรั่งพรูชมพูทั่ว
ขอภาพกายกอดรัดฟัดกันนัว			
อย่าเมามัวลดค่า “วาเลนไทน์”

................................................

ด้วยความปรารถนาดี
พรุ่งนี้วันแห่งความรักแล้ว
(แต่เราควรมอบความรักให้แก่กันในทุกๆวันนะ)				
ไม่มีข้อความส่งถึงเปลวเพลิง