9 มกราคม 2550 08:35 น.
เบรฟฮาร์ท
หากฉันเหมือน ซ่อนกลิ่น สิ้นความหอม
หรือพะยอม โรยรา ดูน่าหยัน
คล้ายมะลิ ผลิบาน ไม่นานวัน
ก็มีอัน เหี่ยวเฉา ใครเขามอง
มิอยากเป็น ลั่นทม ตรมหัวอก
หากช้ำฟก ดั่งจำปา ชื่อพาหมอง
ไม่อยากเหมือน เฟื่องฟ้า เกินคว้าครอง
สูงเกินปอง ดั่งชื่อ นั่นหรือไร
อยากหอมเด่น หนักหนา การะเกด
หอมวิเศษ แถมเป็นยา พาสดใส
ดอกขจร กลัวจาก จำพรากไกล
ด้วยฟุ้งไป ที่อื่น อดชื่นชม
หากฉันเป็น กาหลง คงจะแย่
กลัวหลงแม่ ร้อยชั่ง นั่งขื่นขม
ถ้าฉันเป็น ลำดวน น่าชวนดม
ความระทม คงห่าง สิ้นร้างที
แต่ถ้าเป็น ดอกโศก วิโยคมาก
เหมือนดังจาก ขวัญตา มารศรี
ฉันขอเป็น ดอกรัก ที่ภักดี
แม้ชีวี สิ้นไป รักไม่คลาย
8 มกราคม 2550 08:29 น.
เบรฟฮาร์ท
ทางชีวิต มากมาย อุปสรรค
หันเหหัก เลี้ยวตรง งงหนักหนา
บ้างขรุขระ ราบเรียบ เปรียบชีวา
ที่ผ่านมา ได้พบ ประสบการณ์
เป็นชะตา ฟ้าหรือ ใครลิขิต
ให้ชีวิต เดินก้าว เกินกล่าวขาน
ได้พบเจอ เรื่องสมหวัง ทั้งราวราน
จากวันวาน ถึงวันนี้ มีมากมาย
ประสบการณ์ ได้สอน กลอนชีวิต
ให้รู้ผิด รู้ถูก ผูกความหมาย
ทั้งชั่วดี ที่ทำ กรรมติดกาย
ยากทำนาย ทายชีวิต ทุกทิศนา
หลอมพลัง รวมใจ ไม่ท้อแท้
คลื่นลมแปร มิหวั่น แก้ปัญหา
ยืนหยัดยิ้ม สู้โลก โชคชะตา
ฝั่งข้างหน้า เรือมนุษย์ รุดแล่นไป
หวังทางใหม่ ฟ้าสีคราม ยามผ่านพ้น
คลื่นสับสน กลบหาย กลายสดใส
ขอทวยเทพ อวยพรแก่ แด่ผองไทย
รวมจิตใจ สามัคคี ทวีธรรม
เรือถึงฝั่ง หลังคลื่นลม โหมพัดผ่าน
กลับถึงบ้าน ซ่านจิต ให้คิดขำ
รอดชีวิต จิตตระหนก หกคะมำ
ฟ้ามืดดำ ค่อยสดใส ไร้เมฆคลุม
ยามชีวิต ฟันฝ่า ท้าแรงลม
คือยาขม หลุดพ้น มรสุม
เมื่อสดใส ไร้เงาร้าย ที่หมายรุม
ดั่งปทุม งามปลั่ง ริมฝั่งธาร
มาทันเขา ขึ้นฝั่ง ยังนั่งจ้อ
บางคนก็ สมสุข สนุกสนาน
อีกหลายคน ทนเหนื่อย เมื่อยกับงาน
เชิญสำราญ ท่องต่อ ทุกข้อคำ
อันความหมาย ความจริง สิ่งที่หวัง
คือพลัง สามัคคี ดีงามขำ
ที่สร้างสรร กันไว้ ให้จดจำ
จนสุขล้ำ ฉ่ำชื่น รื่นชีวา
เสียงดนตรี บรรเลง เพลงเชิญขวัญ
อยู่ไหนนั่น อย่าเตลิด กลับเถิดหนา
เชิญพระขวัญ สถิตย์อยู่ คู่กายา
อย่าหลบลี้ หนีหน้า โปรดอาทร
หลอมพลัง ดวงใจ ไทยทั้งชาติ
ใครบังอาจ ใช้อธรรม จำสั่งสอน
ดับความยุ่ง วุ่นวาย ให้คลายคลอน
แหละม้วยมรณ์ ด้วยไฟ บรรลัยกับป์
ยามเมื่อแสง ส่องฟ้า นภาผ่อง
ก็สิ้นหมอง สดใส ใจสุขสันต์
ชะตาดี ปรีเปรม เกษมพลัน
ชาติไทยนั้น ต้องรุ่งเรือง ประเทืองเอย.
8 มกราคม 2550 08:10 น.
เบรฟฮาร์ท
เปรียบชีวิต ดั่งนาวา มาลอยล่อง
อยู่กลางท้อง สายธาร อุฬารหนา
ถูกคลื่นลม โหมพัด ซัดเข้ามา
ให้ระอา ปวดร้าว เศร้ากมล
ช่างเวิ้งว้าง กลางทะเล เร่ลอยลิ่ว
ทะเลกริ้ว พายุโหม โถมด้วยฝน
คลื่นกระหน่ำ ซ้ำกระแทก แทรกเวียนวน
จะผ่านพ้น วิกฤตินั้น นั่นอย่างไร
หรือจะเป็น กรรมเก่า เราอยากถาม
ที่ติดตาม ฉันมา ว่าจริงไหม
เข้ามาเถิด เชิดหน้า ช้าอยู่ไย
จะเอาชัย จากชีวิต อนิจจัง
หากคลื่นลม แรงมา ฝ่ามิไหว
ทำไฉน จึ่งมิหลง ดำรงหวัง
พยุงเรือ เอาไว้ มิให้พัง
หากชีพยัง คงจะพา นาวาเดิน
แม้คลื่นแรง แฝงลม โหมซัดสาด
เรือเอนลาด โยกยก แทบหกเหิร
ประคองเรือ ฝ่าไป มิให้เยิน
พายุเชิญ พัดมา จงอย่าเกรง
อย่าคิดต้าน ทานแรง พายุร้าย
ที่มุ่งหมาย ระดม ดังข่มเหง
แม้เรือน้อย ลอยลำ จ้ำโทงเทง
ก็ครื้นเครง เพลงคลื่น อย่างรื่นรมย์
ไม่อ้อยอิ่ง รีรอ คุณขอมา
เปิดสามช่า น่าฟัง เสียงดังขรม
เสียงกลองลั่น สั่นสะท้าน ต้านคลื่นลม
เศร้าระทม จมหาย สายน้ำไป
เมื่อโชคร้าย มาเยือน เหมือนพายุ
ก้มหน้ามุ มานะ คิดแก้ไข
ตั้งจิตมั่น เชิดหน้า ช้าอยู่ไย
เพียงมีใจ แกล้วกล้า มาสู้กัน
รวมพลัง ความคิด พิชิตเชือด
ทุกหยาดเลือด รินหยด ไม่หมดฝัน
แต่คลื่นลม โถมถี่ ทุกวี่วัน
ต้องมุ่งมั่น ถึงชนะ อย่าละเลย
ขอย่ามัว อ่อนแอ ยอมแพ้เล่า
ให้คนเขา ดูแคลน ทั่วแดนเอ๋ย
สามัคคี กันไว้ ให้เหมือนเคย
เขาจะเชย ชมว่า มีค่าคุณ
คราวครั้งที่ เรือโคลง เพราะลมคลั่ง
แม้มนต์ขลัง ก็ยังคร้าม ยามลมหมุน
สองมือเกาะ กันไว้ ได้เจือจุน
จะอบอุ่น แม้คลืนลม ถาโถมมา
ทางชีวิต มากมาย อุปสรรค
หันเหหัก เลี้ยวตรง งงหนักหนา
บ้างขรุขระ ราบเรียบ เปรียบชีวา
ที่ผ่านมา ได้พบ ประสบการณ์......
ผู้ร่วมแต่งกลอนนี้ ทั้งตอนที่ 1 และตอนที่ 2 มีหลายท่านนะครับ คือ คุณเบรฟฯ คุณสาระศิริ คุณแว๊กๆ คุณ 777 คุณปันปัน คุณน้องใหม่ตัวดำ คุณหวานหวาน คุณมิตรรัก นักกลอน คุณพายุ คุณคอนพูทน คุณpim Rx คุณรสมะดัน ต้องขอกราบขอบพระคุณทุกท่านมา ณ ที่นี้หากมีสิ่งใดผิดพลาดผมขอรับไว้แต่เพียงผู้เดียวครับ
2 มกราคม 2550 03:57 น.
เบรฟฮาร์ท
ขอกราบไหว้พระพุทธสุดประเสริฐ
พระธรรมเลิศล้ำค่ากว่าสิ่งไหน
ทั้งพระสงฆ์ทรงตัดวงวัฏฏ์ไป
พ่อแม่ไซร้มากแหล่แท้พระคุณ
อีกครูอุปัชฌาย์แหละอาจารย์
ผู้ที่พานพบเราเขาเกื้อหนุน
ด้วยดวงจิตคิดให้ได้การุณ
ทั้งเจือจุนขอรำลึกติดตรึกตรา
จักน้อมนบครบห้าพระคุณท่าน
ขอยึดมั่นอยู่ในใจหนักหนา
ทุกเช้าเย็นเว้นไม่ใคร่บูชา
ขอทิวาราตรีมีสุขเอย.
29 ธันวาคม 2549 08:42 น.
เบรฟฮาร์ท
หัวใจว่าง ร้างรัก พักอาศัย
ผมเปิดใจ ให้จอง ลองเถิดหนา
เพียงเฉพาะ อิตถี ให้ตีตรา
มิเสียค่า เงินผ่อน ทำอ่อนใจ
อยากจะมี ฅนเรียง ร่วมเคียงคู่
เป็นเพื่อนอยู่ เชยชิด พิสมัย
ทั้งสาวน้อย สาวมาก หลายหลากไป
อย่าสงสัย เคลือบแคลง ใช่แกล้งอำ
หากจะจอง ต้องมา อย่าช้าชัก
เดี๋ยวคุณจัก พลาดแน่ แม่งามขำ
ฅนอื่นเขา แย่งไป ใจระกำ
คุณต้องช้ำ ชอกจิต โปรดคิดดู
ผมรักเดียว เชียวนะ จะบอกให้
ถ้าคุณได้ ชื่นชม ภิรมย์หรู
เหมือนได้เพ็ชร เม็ดน้อย พลอยเชิดชู
ประดับอยู่ บนเรือนแหวน ที่แสนงาม.
29 ธันวาคม 2549
เบรฟ