บ่าย 2 โมงเศษๆของวันนี้ เสียงโทรศัพท์มือถือฉันดังขึ้น ฮัลโหล ฉันกดรับโดยไม่ทันมองหมายเลขที่หน้าจอ อ้อยเหรอ เสียงจากปลายสายถาม ค่ะ ไม่ทราบจากไหนคะ ฉันถามเพราะไม่คุ้นในน้ำเสียง แต่ก็คิดว่าน่าจะเป็นคนที่ฉันรู้จักนั่นแหล่ะ..ไม่งั้นจะเรียกชื่อเล่นได้ไง จำได้มั๊ย ว่าเสียงใคร ไม่ได้อ่ะ" ฉันบอกตามจริง ลอง ฟัง ให้ ดีๆซิ เสียงพูดยานๆของเพื่อนนิรนาม อืม..จำไม่ได้..ตกลงเป็นใครเนี่ย บอกมาก่อนเร็ว ฉันกรอกเสียงพูดไป เพื่อนแกทั้งคน จำกันไม่ได้ซะแล้วอ้อยเอ๋ย จริงๆ เราจำไม่ได้จริงๆ ไม่ได้ล้อเล่นน๊ะเนี่ย โห..ดูดิเสียแรงคบกันมาตั้งนาน มีประชดเล็กๆอีกแน่ะ เอ้า..ก็จำไม่ได้จริงๆนี่ เบอร์ก็ไม่คุ้น บอกมาเลยและไม่ต้องเล่นยี่สิบคำถามน๊ะ ฉันดักคอ จริงๆแล้วฉันไม่ชอบเอาซะเลยไอ้ประเภทที่โทรมาแล้วถาม ใครเอ่ย? เนี่ย ครั้งหนึ่งครั้งสองพอทน แต่ถ้ามีสามสี่ห้านี่ เหลือทนค่ะ เออๆบอกก็ได้.. โอ๋ไง...จำได้ป่ะ เพื่อนนิรนามพูดกึ่งหัวเราะ โอ๋.. โอ๋ไหนง่า ที่ถามไม่ใช่ว่าฉันไม่มีเพื่อนชื่อนี้...มีค่ะมี เธอเป็นเพื่อนสมัยเรียนพาณิชย์มาด้วยกัน..แต่เราไม่ได้คุยกัน นานนับสิบปี...ฉันเลยไม่ค่อยแน่ใจในน้ำเสียงของเธอเท่าไร โอ๋ที่เรียนมาด้วยกันกับแกไง เธอช่วยทวนความจำให้ สมัยที่เราเรียนด้วยกันฉันกะโอ๋สนิทกันมากมีโอ๋ที่ไหนก็ต้องมีอ้อยที่นั่น... อืม..โอ๋จริงหรอเนี่ย..ฉันไม่อยากเชื่อ แกเอาเบอร์โทรฉันมาจากไหน ฉันถาม ด้วยความสงสัย เพราะตั้งแต่ฉันเปลี่ยนเบอร์โทรใหม่ฉันก็ ไม่เคยได้คุยกับโอ๋เลย โธ่ แค่เบอร์โทรเพื่อน.. ไม่เกินความสามารถหรอก" แน่ะ...มีคุยอีก หลังจากที่เราต่างคนต่างเรียนจบ เราก็แยกย้ายไปศึกษาต่อแต่คนละที่.. แรกๆก็ยังมีนัดพบกันบ้าง..แต่พอนานๆไปต่างคนต่างมีภาระ เลยทำให้ขาดการติดต่อไปและวันนี้ก็เรียกได้ว่า เซอร์ไพส์ สุดๆที่ เพื่อนโอ๋โทรมาหาฉัน ไม่ได้เจอกันนานมากๆ แกเป็นไงบ้าง ฉันถามเพราะอยากรู้จริงๆ ก็ดีแก ฉันมีครอบครัวแล้วลูกสองคนเป็นชายทั้งคู่ โอ๋พูดเรื่อยๆ เหรอ ดีจังแก ฉันไม่แปลกใจเพราะโอ๋เป็นคนน่ารักและมีเสน่ห์.. ใครอยู่ใกล้ก็อดรักไม่ได้ ฉะนั้นคงไม่อยู่รอดเป็นโสดหรอก..อิอิ แกหล่ะ อ้อย สบายดีหรือเปล่า มีลูกกี่คนแล้ว โอ๋ถามฉัน ฉันฟังแล้วก็ งงๆ อะไรน๊ะ..ลูกๆที่ไหน..ตรูมีลูกตั้งแต่เมื่อไรหว่า? นี่ๆ ไอ้โอ๋แกไม่ต้องมาถามแบบนี้เลย ห้ามตอกย้ำเว๊ย ฉันพูดไปหัวเราะไป อ้าว..ตกลงแกไม่มีลูกหรออ้อย อะไร แกแต่งงานก่อนฉันตั้งนาน เจ้ย! แต่งงานหรอ ..แต่งกะใครว๊า..ไอ้นี่มั่วอีกและไปเอาข่าวมาจากไหน รู้ไม่จริงซะแล้ว ฉันอึ้งไปสักครู่ ก่อนที่จะพูดว่า เดี๋ยวๆใครบอกแกว่าฉันแต่งงานแล้ว ฉันคาดคั้นทันที นี่ๆ ไอ้อ้อย ไม่ต้องทำตลกเลย...ใครจะบอกหล่ะ..ในเมื่อฉันก็ไปงานแกด้วยนี่ งานฉันนี่น๊ะ ฉันถามมัน งง ๆ ตรูไปแต่งกะเขาเมื่อไรว่ะนี่?????? ก็เออดิ พอเลยแกอย่ามาทำไขสือ ฉันไม่พูดแต่สมองเริ่มทำงาน คิดๆๆๆ..โอ๋มันแกล้งอำเราเล่นหรือเปล่าหว่า? อืมเป็นไปได้ (คิดเข้าข้างตัวเองไว้ก่อน) แต่น้ำเสียงของโอ๋ไม่ได้บ่งบอกว่าจะแกล้งเลยนี่นา..มันยังไงกันเนี่ย.. ตกลงมันใช่โอ๋เพือนเราหรือเปล่านี่...หรือว่า? ไวเท่าความคิดฉันรีบถามทันที เอ่อ เดี๋ยวน๊ะ ถามหน่อย.. ตกลงแกใช่โอ๋ที่เคยเรียนพาณิชย์กับฉันหรือเปล่า พาณิชย์อะไรอ้อย...แกเพี้ยนหรือเปล่า เสียงโอ๋พูดกลับมา อะจึ่ย! อ้อยเอ๋ย ตกลงใครกันแน่ที่เพี้ยนฟร่ะ....ฉันเริ่มคิดและพูดต่อว่า เอ้า..ก็ใช่หรือเปล่าหล่ะ บอกมาก่อนซิ ฉันเร่งเพื่อต้องการคำตอบ เปล่านี่..ฉันไม่เคยเรียนพาณิชย์ อ้าว...แล้วแกเรียนที่ไหนง่า ก็ที่โรงเรียนชิโนรสไงแกกับฉันเรียนด้วยกันจนจบ ม.6 อ่ะ หา..ชิโนรสหรอ เป็นไปได้ไง..ก็ฉันน่ะไม่เคยเรียนที่นั่น ที่สำคัญไม่เคย มีเพื่อนที่เรียนที่นั่นด้วยแล้วมันเป็นโอ๋ไหนว่ะเนี่ย..เวร แล้วมั๊ยหล่ะ เดี๋ยวๆ แล้วโอ๋เคยอยู่แถวบางแคหรือเปล่า เออ หมายถึงบ้านน่ะ ฉันถามกลับ ซึ่งโอ๋ตอบกลับมาชัดถ้อยชัดคำว่า ไม่นี่ ไม่เคย บ้านฉันอยู่ อิสระภาพไง เอ้ย! อ้อยแกเป็นอะไรมากหรือเปล่านี่" นั่นปะไร...ตามที่คิดไว้เล๊ยยย... เป็นไปได้ไงว๊า...โอ๋ กะ อ้อย คิดได้ดังนั้นฉันจึงพูดต่อ เออ...เราว่า เธอโทรผิดแล้วหล่ะ เพราะเราไม่เคยเรียนที่ ชิโนรสเลย ฉันเปลี่ยนสรรพนามแทนตัวเองทันที.. ฮ้า..เป็นไปได้ไง เสียงโอ๋ อุทานออกดัง จริง..เราไม่เคยเรียนที่ชิโนรสจริงๆ..เราเรียนพาณิชย์ต่างหาก ว่าแต่ทำไมถึงได้โทรมาเบอร์นี้ได้หล่ะ ฉันถามด้วยความสงสัย ก็เพื่อนเราบอกมา โอ๋ตอบฉัน เพื่อนที่บอกชื่ออะไรเหรอ ชื่อ บอยอ่ะ ชัดเลยค่ะ...เพราะคนชื่อบอยฉันก็ไม่รู้จักอีก เขาบอกให้โทรมาเบอร์นี้เนี่ยน๊ะ ไหนลองทวนเบอร์ให้ฟังหน่อยได้มั๊ย ได้ซิ โอ๋ ก็ทวนเบอร์ให้ฟัง นั่นปะไรเหมือนที่คิดโทรผิดจริงๆ เบอร์โทรฉันลงท้าย 85 แต่ทีโอ๋บอกมา มันลงท้ายด้วย 35 ฉันจึงบอกเบอร์โทรของฉันกับโอ๋ไป..โอ๋อึ้งไปสักพัก คงจะเริ่มรู้ตัวแล้ว ว่าตัวเองกดเบอร์ผิด..ฮ่า และเมื่อทุกสิ่งทุกอย่างกระจ่างชัด ฉันกับโอ๋หัวเราะขึ้นมาพร้อมกัน... ก็มันน่าขำจริงๆนี่นา...อะไรมันจะบังเอิญได้ขนาดนี้เนาะ... หลังจากหัวเราะจนหนำใจ โอ๋ขอโทษเป็นการใหญ่ ก่อนจะวางสายไป บอกตามตรงฉันเองก็ไม่ได้รู้สึกอะไรเลยจริงๆ..นอกจากตลกกับเรื่องที่เกิดขึ้น ก็แหม..คุยกันซะดิบดีเชียว...อิอิ และที่ฉันไม่ได้นึกสงสัยตั้งแต่แรกคงเป็นเพราะฉันกะโอ๋ไม่ได้คุยกันนานมาก และโอ๋คนนี้การพูดจาก็มีส่วนคล้ายโอ๋เพื่อนฉันอยู่เหมือนกัน.... เฮ้อ....โอ๋โทรหาอ้อย..อ้อยก็ดันรับสายพอดี..555 เล่าเรื่องโดย...เทียนหยด