19 กรกฎาคม 2552 18:40 น.
เที่ยนหยด
เสียงที่เคยได้ฟังยังคงอยู่
เฝ้าอุ้มชูเลี้ยงดูมิรู้หน่าย
คอยฟูมฟักด้วยรักลูกมากมาย
มิท้อใจขอให้ลูกได้ดี
ความฉลาดแม่อาจวาดไม่ได้
ลูกต้องใช้หัวใจใส่แต้มสี
ประสบการณ์ก้าวผ่านเนิ่นนานมี
ทางวิถีแห่งชีวีที่มีมา
แม่อยากให้ใจลูกคิดถูกต้อง
จงไตร่ตรองพิศมองผองปัญหา
ทางสายกลางคือทางสร้างปัญญา
รักศรัทธาความดีที่เจ้าทำ
เมื่อลูกเห็นใครลำเค็ญอย่าเข่นข้อง
เข้าทำนองไม้ล้มก้มเหยียบย่ำ
เฝ้าคิดร้ายกับใครไม่ควรทำ
ลูกจงจำถ้อยคำแม่ย้ำเตือน
จงก้าวเดินเผชิญจิตลองผิดถูก
เมื่อคิดผูกต้องลุกกระตุกเงื่อน
ด้วยตัวเราเท่านั้นอย่าฟั่นเฟือน
หากเลอะเลือน เงื่อนตายได้อายตัว
จงเรียนรู้สร้างทางอย่างอดกลั้น
มิหวาดหวั่นวิตกอกสลัว
ใช้สมองตรองพิศอย่าคิดกลัว
ดีหรือชั่วตัวเราย่อมเข้าใจ
ลูกมีสิทธิ์ คิดฝันทุกวันวี่
แต้มชีวีสีสันอันสดใส
แม้นไม่อาจวาดฝันได้ทันใด
สู้ต่อไปอย่าแพ้แก่ใจตน
ยามใดสุขเผื่อทุกข์เข้าปลุกปลอบ
นี่คือกรอบครอบใจได้ทุกหน
ทางชีวิตลิขิตวางอย่างแยบยล
เพื่อหลุดพ้นกิเลสทุกเภทภัย
แม่อยากให้ยิ้มไว้ทั่วใบหน้า
ใครว่าบ้าอย่างงและสงสัย
ยิ้มชื่นบานยิ้มได้ไม่อายใคร
ยิ้มสดใสนำชีวิตจิตเบิกบาน
มีสิ่งหนึ่งพึงจำในคำแม่
ความจริงแท้แน่วแน่ไม่แปรผัน
พูดโกหกเหมือนตกนรกพลัน
ทุกข์อนันต์มหันต์ภัยดั่งไฟฟอน
กำลังใจแม่ให้ไม่มีหมด
มิเลี้ยวลดจำจดทุกบทสอน
พระคุณแม่จริงแท้และแน่นอน
ประนมกรอ่อนแนบแทบเท้าเอย
เทียนหยด
13 กรกฎาคม 2552 22:01 น.
เที่ยนหยด
รุ้งงามตามที่เห็น มิหลีกเร้นในเส้นสาย
ทอสีส่องประกาย ราวม่านไหมใส่ลีลา
สายฝนหล่นพร่างพรู ยามฝนอยู่คู่กับฟ้า
ภาพงามกระจ่างตา มิส่างซาคราฝนพรำ
รุ้งงามและสายฝน มิหลุดพ้นวนเวียนซ้ำ
ธรรมชาติวาดชี้นำ แสนเลิศล้ำตามครรลอง
ใดใดในโลกนี้ สุขทุกข์มีทั่วทั้งผอง
สิ่งหนึ่งพึงคิดตรอง ธรรมคุ้มครองป้องคนดี
...........................................................................
10 กรกฎาคม 2552 13:19 น.
เที่ยนหยด
ยามดีอยู่ไม่รู้ดูไม่เห็น
กายจะเป็นอย่างไรใจมิหวั่น
มุ่งหาแต่สินทรัพย์นับอนันต์
คิดว่านั่นคือสุขสิ้นทุกข์ใจ
ทรัพย์มากมายยิ่งดีมีคุณค่า
ในสายตาคนมองยกย่องให้
เป็นฮีโร่มาดเก๋เท่ห์ว่าใคร
ยามไปไหนมากมายสหายเรา
เมื่อเวลาพ้นผ่านกาลเริ่มเปลี่ยน
ทรัพย์เสถียรเคยมีเศรษฐีเก่า
ใช้จับจ่ายทุกทางอย่างมัวเมา
ทรัพย์บางเบาโรคเร้าเข้ามารุม
ถึงคราหมดทรัพย์สินก็สิ้นสุข
ดั่งไฟลุกเผาผลาญพาลร้อนลุ่ม
มวลหมู่มิตรเคยห้อมรายล้อมรุม
ไม่เหลือกลุ่มให้เห็นเช่นวันวาน
ต้องโดดเดี่ยวเดียวดายไร้ญาติมิตร
มีชีวตติดบ่วงห้วงสังขาร
ปวดทั้งกายเจ็บใจให้ทรมาน
นอนรอวันชีพดับลาลับกาย
อโรคยาปรมาและลาภา....
นั้นหมายว่าไร้โรคาพาสุขหลาย
อย่าประมาทกับชีวิตคิดใส่ใจ
ทรัพย์ใดใดช่วยไม่ตายลูกเดียว
..............................................
เทียนหยด
8 กรกฎาคม 2552 09:03 น.
เที่ยนหยด
อยากทราบวิธีการนำรูปมาวางค่ะ หมายถึงรูปที่นอกเหนือจากที่มีให้ในบอร์ดอ่ะคะเคยลองทำแล้ว แต่ไม่สามารถวางได้ รบกวนผู้รู้กรุณาช่วยแนะนำด้วยน๊ะคะ...ขอขอบคุณล่วงหน้าค่ะ..
7 กรกฎาคม 2552 23:13 น.
เที่ยนหยด
ชีวิตดั่งเรือน้อยล่องลอยอยู่
จำทนสู้ทุกวันแม้หวั่นไหว
พายุร้ายโหมกระหน่ำสุดช้ำใจ
แต่ต้องฝืนยิ้มได้เมื่อภัยมา
เหมือนนาวาลำน้อยลอยหาฝั่ง
ไกลสุดหยั่งถึงได้ร่ำไห้หา
ขอบฟ้าช่างกว้างไกลสุดปลายตา
เกินไขว่คว้าหาฝั่งดั่งตั้งใจ
โลกนั่นคือห้วงใหญ่มิไร้คลื่น
ทุกวันคืนถาโถมพัดโหมใส่
คลื่นชีวิตติดตามทุกยามไป
เวียนวนว่ายตายเกิดกำเนิดกรรม
ในโลกธรรมตามคิดลิขิตชัด
คลื่นสาดซัดทำลายหมายกระหน่ำ
มีแปดคลื่นชวนคิดฝึกจิตจำ
คือโลกธรรมนำทางมิร้างไกล
หนึ่ง..คือคลื่นสุขขีบารมีจับ
พร้อมประดับหัวโขนที่โยนใส่
สอง..คือคลื่นผิดหวังเกินชั่งใจ
ดุจสิ้นไร้ลาภยศหมดบารมี
สาม..คือคลื่นอำนาจวาสนา
คนนับหน้าถือตาเพิ่มราศี
สี่..คือคลื่นหมดสิ้นความยินดี
อำนาจหนีห่างไกลไร้บริวาร
ห้า..คือคลื่นสรรเสริญและเยินยอ
ทั้งคำป้อยกให้เป็นนายฉัน
หก..คือคลื่นดูหมิ่นสิ้นฉับพลัน
ไร้ซึ่งวันเยินยอท้อทุกยาม
เจ็ด..คือคลื่นสุขใจไร้กังวล
ความสุขล้นพ้นเหตุทั่วเขตขาม
แปด..คือคลื่นความโศกทุกโมงยาม
จบคลื่นธรรมจงจำเพื่อย้ำเตือน
โลกธรรมดำริไว้เพื่อให้รู้
พินิจดูชีวิตลิขิตเหมือน
นาวาน้อยลอยอยู่ดูรางเลือน
คลื่นแปดเตือนบรรจบต้องพบพา
จงเตรียมตัวตั้งจิตและคิดรับ
ทุกสิ่งสรรพล้วนเหตุกิเลสหนา
ลุทางด้วยสติมั่นและปัญญา
นำนาวาถึงฝั่งดุจตั้งใจ
........................................
เทียนหยด