20 กันยายน 2552 15:42 น.
เที่ยนหยด
กว่าจะเป็นเช่นฉันในวันนี้
เหนื่อยเต็มทีอยากให้เธอได้เห็น
ทนฝ่าฟันทุกทางอย่างยากเย็น
แสนลำเค็ญขมขื่นต้องฝืนใจ
ที่เห็นฉันร่าเริงบันเทิงสุข
บางคราวทุกข์มาดมั่นไม่หวั่นไหว
ดูเข้มแข็งอดทนจนเกินใคร
ยืนหยัดในท่วงท่าสง่างาม
มีผู้คนมากมายที่รายล้อม
ทนจำยอมชิดใกล้ใช่ไหวหวาม
ภายนอกดูเป็นสุขทั่วทุกยาม
แต่ใจคร้ามหวาดหวั่นทั้งวันคืน
ใครจะรู้ว่าฉันนั้นโดดเดี่ยว
เพียงคนเดียวมืดมนจำทนฝืน
ทั้งอ่อนไหวเจ็บช้ำสุดกล้ำกลืน
แสร้งยิ้มชื่นออกไปแม้ใจตรม
อีกกี่ฝนกี่หนาวถึงคราวสิ้น
รอยมลทินมืดดับที่ทับถม
จะมีไหมวันคืนให้รื่นรมย์
ได้เชยชมแนบชิดสนิทอุรา
ฉันคอยเฝ้าทวงถามทุกยามเสมอ
คล้ายคนเพ้อรอใครฝันใฝ่หา
ร่วมเดินเคียงชิดข้างอย่างเมตตา
ด้วยศรัทธาซึ่งกันอย่างมั่นใจ
ไม่เคยคิดจะมีนาทีนี้
กับฝันที่เป็นจริงและยิ่งใหญ่
เธอคนดีที่รักประจักษ์ใจ
พร้อมก้าวไปด้วยกันวันแสนดี
ขอเพียงแค่เธอคิดด้วยจิตมั่น
ว่ารักนั้นงดงามตามวิถี
ฉันก็พร้อมทั้งใจและไมตรี
รักครั้งนี้สิ้นสุดหยุดที่เธอ
........................................
เทียนหยด
11 กันยายน 2552 01:35 น.
เที่ยนหยด
รุ่งอรุณเบิกฟ้าคราวันใหม่
หอมกลิ่นไอน้ำค้างที่กลางหาว
แสงสีทองผุดผ่องส่องสกาว
ปุยเมฆขาวลอยผ่านละลานตา
เจ้าลั่นทมดอกขาวขึ้นพราวทั่ว
แย้มบานยั่วเย้าหยอกดอกบุหงา
ทั้งกาหลงซ่อนกลิ่นรวยรินมา
กรรณิการ์ชูช่อช่างอรชร
หอมละมุนอุ่นไอในยามเช้า
ภมรเฝ้าเคล้าชมดมเกสร
บินขวักไขว่ไปมาเพื่อไชชอน
ละอองว่อนภมรหมายไอมาลี
แสนรื่นรมย์เบิกบานสราญจิต
ในชีวิตธรรมชาติแต้มวาดสี
สูดกลิ่นไออบอวลเย้ายวนฤดี
มวลมาลีสีสันแห่งวันวาร
เทียนหยด
8 กันยายน 2552 08:38 น.
เที่ยนหยด
๏จากท้องทุ่งหมายมุ่งเมืองกรุงใหญ่
ศิวิไลซ์หลงใหลชวนใฝ่หา
ด้วยแสงสียวนเย้าเร้าอุรา
สาวบ้านนาเริงร่าท้าราตรี
๏เพียงก้าวแรกเคลิ้มไปเพราะใจพ่าย
ยอมพลีกายขายใจไร้ศักดิ์ศรี
ปล่อยให้ชายชื่นชมพรหมจารี
เพลิงโลกีย์แผดเผาจนเมามัว
๏เป็นผีเสื้อราตรีมีชีวิต
ด้วยสิ้นคิดอ่อนไหวพาใจสลัว
ปล่อยกิเลสตัณหามาพันพัว
ยอมเปลืองตัวหลงเหลิงเพลิงมายา
๏ค่ำคืนนี้ผีเสื้อไม่เหลือปีก
ถูกเขาฉีกเหยียบย่ำคร่ำครวญหา
ไร้สิ้นเสียงวอนขอต่อชะตา
หลั่งน้ำตาอาดูรสิ้นสูญใจ
๏คิดถึงพ่อและแม่ที่แก่เฒ่า
คงนั่งเฝ้าครวญหาน้ำตาไหล
เจ้าทิ้งดินถิ่นฐานแห่งบ้านไพร
เดินจากไปไม่ลาและอาวรณ์
๏สำนึกได้ซมซานกลับบ้านป่า
เพลินมายาหลงใหลเกินไถ่ถอน
เหมือนตกลึกหลุมใหญ่แห่งไฟฟอน
กลับดงดอนบ้านเก่าเศร้าซบทรวง
๏เห็นลานบ้านเงียบเหงาเศร้าจริงแท้
ช้ำดวงแดยิ่งนักแสนหนักหน่วง
ภาพที่เห็นเป็นจริงใช่สิ่งลวง
น้ำตาร่วงล้นหยาดแทบขาดใจ
๏โอ้พ่อจ๋าแม่จ๋าลูกมาแล้ว
กอดดวงแก้วรับขวัญที่หวั่นไหว
เจ้าจงกลับมาเป็นเช่นคนไพร
ลืมสิ้นไฟสีแสงแห่งมายา
เทียนหยด
30 สิงหาคม 2552 12:48 น.
เที่ยนหยด
มาดแบบนี้สิชัดน้องจัดให้
แหมถูกใจพี่จริงหญิงทั้งห้า
ช่วยสับเปลี่ยนเวียนวนจนเข้าตา
ด้วยลีล่าท่านั้นแสนมั่นใจ
ช่างรู้ใจไปหมดเทียนหยดยิ้ม
หน้าจิ้มลิ้มพริ้มเพราเกลี้ยงเกลาใส
ใส่เสื้อยืดสวมยีนส์แย่งซีนใคร
ขออภัยไว้นิดอย่าคิดกัน
ดูแคล่วคล่องว่องไวและใสสด
แม่เทียนหยดงดงามแม้ยามฝัน
เจ้าดูดีเสียด้วยสวยรายวัน
เสียงลื่อลั่นสนั่นทุ่งทั่วคุ้งคลอง
น่าภูมิใจเสียจริงใช่กลิ้งกลอก
มิได้หลอกลวงใครให้ขุ่นข้อง
หรือว่ามีใครคิดแอบชิดปอง
โปรดยืนจ้องตรงตรงอย่าหลงทาง
ร่ายมาเสียหลายบทเทียนหยดเอ๋ย
อาจเกินเลยไปนิดสะกิดหลัง
เพียงอยากเห็นรอยยิ้มอิ่มใจจัง
มิได้หวังสิ่งใดที่ไกลเกิน
บทสุดท้ายยกให้ทั้งห้าสาว
ต้นเรื่องราวคราวนี้ให้พี่เขิน
ร่ายมาเป็นอักษรกลอนพาเพลิน
หากขาดเกินเทียนหยดรับหมดใจ
เทียนหยด
กลอนบทนี้ขอยกเครดิตให้ห้าสาวด้วยน๊ะจ้ะ
จริงๆที่เขียนกลอนครั้งนี้เพียงแค่อยาก
เห็นรอยยิ้มของทุกคนเท่านั้น เห็นว่า
สถานการณ์ในบ้านไม่ค่อยจะดีเท่าไร
กลอนอาจจะดูไม่สะสวยเท่าที่ควร
ไม่รู้ว่าถ้าคุณครูแก้วมาเห็นแล้วท่านจะ
มอบไม้เรียวให้เป็นของกำนัลหรือเปล่า..
ปล.ถึงห้าสาว..พี่อยากบอกว่าจริงๆแล้ว
พี่ไม่ใช่คนอ่อนหวานน๊ะจ้ะน้อง
ตรงกันข้าม หวานน่ะอ่อนซะจนเกือบ
ไม่มีแล้ว..สรุปพี่ไม่หวานจริงๆ
คอนเฟิมจ้า....
26 สิงหาคม 2552 23:21 น.
เที่ยนหยด
รุ่งอรุณทั่วหล้านภาผ่อง
สวยเรืองรองส่องทางสว่างไสว
พันธุ์พฤกษาดาษดื่นระรื่นใจ
ในราวไพรพรายพร่างกระจ่างตา
มวลมาลีคลี่ช่อหยอกล้อเล่น
น้ำค้างเย็นเป็นหยดรินรดหล้า
หมอกละลิ่วพลิ้วผ่านลานเทวา
ดั่งม่านฟ้าจ้าเจิดพริ้งเพริศทรวง
เหมือนมีมนต์ดลใจให้ไหวหวั่น
หลงสีสันพฤกษาอุราล่วง
มิอาจหยุดฉุดรั้งทั้งแดดวง
ตกในห้วงรำพึงติดตรึงใจ
อยากจะหยุดพักใจไว้ตรงนี้
เหนื่อยเต็มทีในวันที่หวั่นไหว
ขอรื่นรมย์ชมป่าพนาไพร
ซาบซึ้งในห้วงฝันทุกวันวาร
........................................
เทียนหยด