14 พฤศจิกายน 2552 23:57 น.
เที่ยนหยด
๏ เสมือนตีบตันหวั่นไหวในความคิด
ดุจเข็มทิศหลุดออกนอกวิถี
จิตสับสนไร้สิ้นไม่ยินดี
ในฤดีมืดมิดดั่งปิดตาย
๏ คิดร่ายกลอนป้อนคำแสนลำบาก
ช่างยุ่งยากหาเป็นเช่นใจหมาย
เริ่มบทแรกสับสนปนวุ่นวาย
สัมผัสหายไร้หลักทุกวรรคตอน
๏ ตั้งต้นใหม่วางทิศลิขิตถ้อย
ให้ล่องลอยยิ่งนักในอักษร
ฝืนใจนิ่งมิหวั่นแม้นบั่นทอน
กลับลิดรอนย้อนคำซ้ำเรื่อยไป
๏ อยากจะเขียนกลอนรักก็หนักอก
ครั้นเรื่องตลกโปกฮาท่าไม่ไหว
หรือแนวเพื่อชีวิตต้องคิดไกล
เพราะเหตุใดครานี้ไม่มีแวว
๏ แล้วจะทำเช่นไรเล่าใจเอ๋ย
ก่อนไม่เคยลืมสิ้นไร้ถิ่นแถว
วันนี้กลับสะดุดต้องหยุดแนว
ไม่เหลือแล้วให้ค้นเพื่อด้นกลอน
๏ คงต้องจบเสียทีจะดีกว่า
แล้วปิดตาหยุดพักเรื่องอักษร
ปล่อยอารมณ์ที่ปราศและขาดตอน
ทิ้งตัวนอนผ่อนคลายสบายอุรา๚๛
เทียนหยด
30 ตุลาคม 2552 15:57 น.
เที่ยนหยด
๏ รู้ตัวว่าครานี้ถึงทีแล้ว
ไร้สิ้นแววจึงหมองไม่ผ่องใส
พี่ทำร้ายข่มเหงมิเกรงใจ
ตัดเยื่อใยสายสวาทสิ้นขาดกัน
๏ รู้ดีว่าพี่ทำเจ้าช้ำหนัก
สัญญารักเลือนหายมลายฝัน
เคยพนอเคียงชื่นทุกคืนวัน
กลับสะบั้นเพราะพี่ย่ำยีใจ
๏ หากเจ้ายังฝังใจในความเจ็บ
ทนฝืนเก็บความเศร้าคราววั่นไหว
พี่มากรักทำลายซึ่งสายใย
ขอชดใช้ให้สิ้นด้วยยินดี
๏ ยอมรับกรรมเพราะทำให้ช้ำจิต
เผลอทำผิดทิ้งน้องจนหมองศรี
ขอพี่เจ็บทั้งกายพ่ายฤดี
สิ้นศักดิ์ศรีแห่งชายจวบวายปราณ
๏ แม้ชอกช้ำอาลัยฤทัยหวน
มิคร่ำครวญกับใครให้สงสาร
ดั่งถูกเถือเนื้อหนังเจ็บฝังนาน
ทนทรมานดุจไฟไล่สุมทรวง
๏ หากน้องยังเศร้าหมองและร้องไห้
ชอกช้ำในความรักสุดหนักหน่วง
จากผู้ชายคนนี้ที่เคยลวง
จนตกบ่วงเล่ห์กลหม่นอุรา
๏ ขอชดใช้ในบาปตราบชีพสิ้น
รอยมลทินเจ็บฝังรั้งใจผวา
ให้ตรอมตรมจมบ่วงห้วงเวลา
ทั้งชีวาสิ้นทางเวิ้งว้างไกล
๏ แม้นชาติหน้ามีจริงขออิงแอบ
สะเทิ้นแนบเนื้อนวลชวนขานไข
ซ่านรำพันฝันรักสลักใจ
วอนเทพไท้อุ้มสมภิรมย์ทรวง
"เทียนหยด"
15 ตุลาคม 2552 15:51 น.
เที่ยนหยด
๏ สายตาเฝ้าจับมองส้นรองเท้า
มือคอยเนาแต่งเก็บเย็บถ้วนถี่
เพราะชราจึงล้าด้วยท่าที
แต่ยังมีรอยยิ้มที่อิ่มใจ
๏ บนฟุตบาทเช้าเย็นมองเห็นอยู่
นั่งคุดคู้ทุกวันไม่หวั่นไหว
ฝ่าเปลวแดดกรำฝนทนทำไป
ไม่ท้อใจเพียงหวังประทังตน
๏ ขอแค่ได้เงินมาพอยาไส้
และกินได้นอนหลับไม่สับสน
ถึงชีวิตลำบากเพราะยากจน
ไม่เคยบ่นหรือรอขอใครกิน
๏ อยู่ลำพังคนเดียวไม่เกี่ยวข้อง
ใครจะมองไร้เงาเฝ้าหยามหมิ่น
แค่คนซ่อมรองเท้าเพียงเถ้าดิน
มิเคยสิ้นยอมแพ้แก่ชะตา
๏ ผ่านเรื่องราวหนาวร้อนค่อนชีวิต
สิ่งถูกผิดติดตนไม่ค้นหา
ใช้ชีวิตพอเพียงเคียงกายา
ไม่ไขว่คว้าสิ่งใดไกลเกินตัว
๏ ซ่อมรองเท้าเช้าตรู่สู้ไม่ถอย
ตะวันคล้อยลาดับลับสลัว
แม้สายตาอ่อนล้าและพร่ามัว
ปวดเมื่อยตัวยังขืนเฝ้าฝืนตน
๏ ด้วยทุกวันฉันเห็นเป็นเช่นนี้
ไม่เคยมีหยุดพักเลยสักหน
ฉันเคยถามเหนื่อยไหมใยต้องทน
แกไม่บ่นสักคำเฝ้าทำไป
๏ เป็นแค่เพียงชายชรารักษาเกือก
มิใช่เปลือกภายนอกบอกขานไข
หากหยั่งลึกแนบแน่นถึงแก่นใจ
ฝั่งรากไว้พอเพียงเคียงสิ้นกาล ๚๛
เทียนหยด
7 ตุลาคม 2552 13:51 น.
เที่ยนหยด
คืนเงียบเหงามีเราเฝ้ามองฟ้า
เคียงจันทราแอบฝันสุดหวั่นไหว
คิดถึงใครคนหนึ่งซึ่งห่างไกล
แอบฝันใฝ่เดียวดายใต้เงาจันทร์
เย็นน้ำค้างค่ำคืนสุดฝืนจิต
เคยแนบชิดเคียงใกล้ร่วมใฝ่ฝัน
ถึงคราวต้องพลัดพรากจากชีวัน
เหลือเพียงฝันเลือนรางจางหว่างทรวง
คิดถึงเธอคนดีที่ปลายฟ้า
ทุกเวลาเฝ้าคิดด้วยจิตห่วง
ฝากกระซิบแผ่วผ่านดาวล้านดวง
ราตรีล่วงเงียบเหงาเศร้าอุรา
พิณบรรเลงเพลงหวานผ่านดวงจิต
เฝ้าครวญคิดถึงเธอละเมอหา
ไม่เคยลืมถ้อยคำวันอำลา
ยอดชีวาคนไกลหัวใจเดิม
อยากให้รู้เป็นฉันทุกวันนี้
เธอคนดีเคียงข้างและสร้างเสริม
มอบใจภักดิ์รักมั่นคอยหมั่นเติม
ใจดวงเดิมสี่ห้องเป็นของเธอ
จะรอเธอคนดีตรงที่เก่า
และคอยเฝ้าเก็บใจไม่ไผลเผลอ
นานแค่ไหนขอผ่านพานพบเจอ
รักเพียงเธอคงมั่นตราบนิรันดร์
เทียนหยด
28 กันยายน 2552 23:17 น.
เที่ยนหยด
เพราะว่าเราไม่ดีเท่านี้หรือ
เพราะว่าคือไม่อยู่เคียงคู่ฝัน
เพราะว่าตัวสิ้นแล้วต้องแคล้วกัน
เพราะว่าฉันไม่พอจึงท้อใจ
เพราะเราไม่ซึ้งค่าคำว่ารัก
เพราะเราหักอารมณ์เกินข่มไหว
เพราะเราไม่กล้าเอ่ยเผยออกไป
เพราะเราไหวหวาดหวั่นไม่มั่นคง
เพราะไม่เคยหาทางกลับพรางไว้
เพราะไม่ได้หยุดคิดพาจิตหลง
เพราะไม่ยอมลดละความพะวง
เพราะไม่ตรงต่อกันจึงหวั่นอุรา
เพราะเลิกคิดถึงฝันวันเคียงคู่
เพราะเลิกอยู่ชิดใกล้ไร้เสน่หา
เพราะเลิกคิดแต่งเติมเพิ่มศรัทธา
เพราะเลิกพาหัวใจแนบใฝ่ครอง
เพราะไม่ไว้ใจกันจนวันนี้
เพราะไม่มีเยื่อใยใจจึงหมอง
เพราะไม่เคยเพ้อพร่ำน้ำตานอง
เพราะไม่ตรองให้เห็นจึงเป็นไป
เพราะบางสิ่งพลัดพรากยากฉุดรั้ง
เพราะบางครั้งท้อแท้เกินแก้ไข
เพราะบางเรื่องที่เกิดไม่เปิดใจ
เพราะบางใครขวางกั้นทั้งฉันเธอ
เทียนหยด