4 มกราคม 2553 14:21 น.
เที่ยนหยด
๏ ลมหายใจเข้าออกเหมือนบอกรู้
กายเป็นอยู่สงบนิ่งไม่ติงไหว
สรรพสิ่งรายรอบคลุมครอบใจ
ระลึกได้ไม่หวั่นพลอยบรรเทา
อันใดเล่าเลือนลางอำพรางเหตุ
เกิดกิเลสขุ่นมัวดั่งตัวเขลา
ปล่อยอารมณ์ไร้หลักทึกทักเอา
ปราศเรื่องราวเร้นลับเพื่อดับจินต์
เหตุนี้หนอในอกวิตกสั่น
จึงไหวหวั่นหดหู่มิรู้สิ้น
สดับเสียงสับสนเคล้ามลทิน
คล้ายสูดกลิ่นเน่าเหม็นจีงเป็นไป
ลมหายใจเข้าออกเหมือนตอกย้ำ
จิตเพลี้ยงพล้ำมัวหม่นเกินทนไหว
เกิดที่เราปรุงแต่งคลางแคลงใจ
ลดละไซร์ปล่อยวางจึงบางเบา๚๛
เทียนหยด
4/1/53
27 ธันวาคม 2552 00:32 น.
เที่ยนหยด
๏ วังเวงหวิวเดียวดายฤทัยเปลี่ยว
แลจันทร์เสี้ยวอับแสงสิ้นแรงฉาย
พรมไพรพฤกษ์สงบเงียบยะเยียบกาย
รสสวาทวายขื่นขมระทมอุรา
รัตติกาลผ่านแล้วแววสะอื้น
ผวาตื่นรำพึงคำนึงหา
ดั่งลอยคว้างหมองหม่นเล่ห์มนตรา
ม่านมายาบังใจบ่มใยยวง
เหลือเพียงรอยฝันครวญรัญจวนจิต
พราวจุมพิตเคลิ้มไปดั่งใจหวง
สุดกำสรวลซาบซ่านสะท้านทรวง
ตรึงสู่ห้วงนิทราด้วยอาลัย
ท่ามอารมณ์หวามไหวดวงใจเอ๋ย
ยากจักเผยซ่อนกลบเลือนลบหาย
หว่านน้ำคำอาบรดซ่านจรดกาย
แท้จริงหมายเพียงลวงหลงบ่วงมาร
ดุจความรักพลิกผันสู่วันหมอง
สิ้นหวังครองเคียงพี่ฤดีผสาน
เหลือเพียงรอยช้ำหม่นระคนมาน
เจือจางหวานคลายฝันจนสั่นคลอน
พลันเรืองรองเบิกฟ้าอุษาสาง
สุดอ้างว้างหฤทัยยากไถ่ถอน
ดั่งวิหคหลงฝั่งไร้รังนอน
เที่ยวเร่ร่อนรำพึงคนึงครวญ ๚๛
22 ธันวาคม 2552 21:22 น.
เที่ยนหยด
๑. หยิบสายเดี่ยวในตู้เอามาทาบ
รัศมีช่างฉาบหน้าสุดสวย
ใกล้สิ้นปีขอให้เพื่อนยิ่งรวย
แถมผู้ชายมาด้วยก็ยิ่งดี (จะขัดสีฉวีวรรณยิงฟันรอ...ฮ่า)
๒. ปีสองห้าห้าสามเอาล่ะฟระ
ลงจากคานสิคะนานแล้วนี่
ขืนค้างเติ่งคนสอยก็ไม่มี
อาจต้องไปบวชชีในบั้นปลาย (คิดแล้วก็ใจหาย..แหมเสียดายจัง )
๓. ถึงอายุอานามจะเลยล่วง
ยังต้องการมีห่วงเน้อสหาย
ใครก็ได้งานนี้ฟรีสไตล์
เพียงแค่เป็นผู้ชายแท้ก็พอ ( งานนี้ต้องใช้แว่นขยายซะแล่วววว)
๔. อ้อ!ติดหน่อยขอแค่อย่าหน้าเหลี่ยม
เห็นแล้วจั๊กกระเดียมไม่ดีน่อ
ลิงจั๊กจั๊กรักจริงจริงจะเออออ
แค่นี้เองที่ขอไม่มากมาย (ให้เค้าน๊ะ..ตะเอง อย่าเกรงใจ)
๕. เร่เข้ามาพี่น้องอย่าร้อง...จ๊ากส์
สาวสายเดี่ยวเคี้ยวหมากอยากหมั้นหมาย
ปากแดงแดงน่าจุ๊บออกจะตาย
รีบไวไวอย่าช้ามาม่ารอ (งานนี้มีเส้นด้วย..อิอิ)
๖. ใครมือยาวสอยได้ต้องเสร็จแน่
สวยร้อยไมล์ของแท้ต้อนเข้าหอ
หนุ่มหน้ามนคนไหนใจถึงพอ
ข้าวหมกไก่สักห่อกำลังดี (น้ำหมากไหลเป็นทางเชียวเรา 555)
๗. อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อย่าคิดให้ยุ่งยาก
มาช่วยกันเคี้ยวหมาก..แซ่บอีหลี (ตั๊ว)
ถ้าไม่ลองก็ไม่รู้ว่ามีดี
ขาดไม่ได้แถมฟรีคือแจ่วบอง (ท้องเริ่มร้อง..เจี๊ยกๆ)
๘. กระจองงองกระจองงอง..เจ้าข้าเอ้ย
เข้ามาแล้วอย่าเฉยเชิญเข้าห้อง
ปืนบันไดขึ้นมาตีตราจอง
ไม่อยู่แล้วคานทองทุบทิ้งไป (โบกมือลาเสียที..อิอิ)
๙. หนุ่มคนไหนเอาบันไดมารอรับ
น้องจะแถมกระจับกับฝาไห
อีกทั้งคูโบต้า..แมงกะไซค์
นั่นประไรฝันค้างตอนกลางวัน (แค่ฝันก็ยังดีเนาะ 555)
๑o. พังหมดแล้ววิมานที่หวังวาด
โดนน้ำสาดสะดุ้งจนพุงถลัน
เอ๊ะ..อะไร คล้ายถุงกาแฟนั่น
อยู่ข้างฉันนอนเหี่ยวสายเดี่ยวแพลม (อ่ะๆ อย่าคิดลึกน๊ะ)
๑๑. เห็นน้องใส่สายเดี่ยวพี่เสียวตับ
อยากคว้าหมับบัวคู่ดูล่อแหลม
อุ๊ย..อะไร น๊ะนั่นวับวับแวม
โนพลอมแพลมซะอย่างพลางโบกมือ. (อีน้องคนงามแต๊ๆก๊า)
๑๒. สาวสายเดี่ยวเกี่ยวคานมานานเนิ่น
อายุเกินมันแปลกกระนั้นหรือ
มีบางไหมใครหนอจะอออือ
อยากช่วยถือสายเดี่ยวไว้เกี่ยวใจ (เพราะเราคู่กัน..ผีเน่ากะโลงผุ 555)
ขอเฉลยตามคำเรียกร้องค่ะ 1 2 3 4 โคลอน
5 6 7 8 เทียนหยด
9 10 11 12 ฉางน้อย
และผู้ที่โชคดี คือ คุณพจน์รำพัน...ผู้มุ่งมั่นในการทาย..อิอิ
แต่ยังไม่จบแค่นี้ค่ะ สำหรับท่านอื่นที่เข้ามาร่วมสนุกกัน
อ้อยจะส่งของที่ระลึกไปให้ค่ะ...รบกวนขอที่อยู่ด้วยนะคะ
ส่งมาได้ที่เมล์อ้อยเลยค่ะ (ทุกอย่างเป็นความลับค่ะ)
ดังต่อไปนี้ คุณวิทย์ ศิริ
คุณดาวศรัทธา
และแล้ว..สาวเจ้าก็ได้ลงจากคานทองซะทีเนาะๆ...
สำหรับกลอนบทนี้เป็นความร่วมมือร่วมใจของเราชาวแก๊งค์ค่ะ..
เพื่อไม่ให้เป็นการลืมกัน
แก๊งค์แกว่งเท้าหาเกิบ...กำลังจะเติบโตเต็มที่..เอ้า..ไปกันใหญ่
ซะแล้วเรา กลอนบทนี้อาจจะดูไร้สาระไปบ้าง..น้อมรับค่ะ..
เหตุเพราะเราคู่กัน เอ้ย ..ไม่ใช่เราตั้งใจอยากให้ออกมาแนวนี้อ่ะค่ะ...
ขำๆส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่...
ชาวแก๊งค์จึงส่งตัวแทนมาดำเนินการ จะเป็นใครไปได้หล่ะ
นอกจาก สามสหาย...อันได้แก่
โคลอน เทียนหยด และ ฉางน้อย....ซึ่งเหมาะที่สุดแล้วคงไม่ต้อง
บรรยายซ้ำนะคะว่าทำไมถึงเหมาะ...ภาพมันฟ้อง 555 ยังค่ะยัง
ยังไม่จบแค่นี้ กรุณาอ่านต่อให้จบ..น๊ะๆๆๆ
เพื่อเป็นการส่งท้ายปีเก่า..และต้อนรับปีใหม่ ที่จะมาถึง
อ้อยเลยถือโอกาสชวนพี่ๆน้องๆและเพื่อนๆ ร่วมสนุกด้วยกันนะคะ
ตามมาค่ะ ...
กลอนนี้มีทั้งบท 12 บทที่เราสามสหายช่วยกันแต่ง...อั้นแน่
ทราบแล้วใช่ม๊าว่าจะให้ทำอะไร...คือเราช่วยกันแต่งคนละ 4 บท
ไม่มีลำเอียงค่ะ...อยากให้ร่วมทายว่า โคลอน และ ฉางน้อย
แต่งบทไหนบ้าง...อิอิ
เนื่องจากว่ามีเสียงบ่นเล็กน้อยว่า ยากส์...แหะๆ
เราก็พร้อมลดราคา..เอ้ย จัดให้ค่ะ...ขอเปลี่ยน กติกาเล็กน้อย...
เอาเป็นว่าจากให้ทายถูก 4 บท ลดลงเหลือ 2 บท แล้วกัน..โอ.เค นะคะ
คิดว่าคงไม่ยากเนาะ...และสำหรับผู้ที่ทายถูก เรามีของที่ระลึก
มอบให้เป็นรางวัล
แต่ขออุบไว้ก่อนนะคะว่าเป็นอะไร....รับรองว่าเป็นของที่อยากให้ไว้
เป็นที่ระลึกจริงๆค่ะ ขอขอบคุณล่วงหน้านะคะ สำหรับทุกๆท่าน
ที่มาร่วมสนุกกันค่ะ
ท้ายนี้ ท้ายจริงๆค่ะ อ้อยขอขอบคุณสำหรับมิตรไมตรีที่มีให้กันนะคะ
16 ธันวาคม 2552 13:02 น.
เที่ยนหยด
๏ เธอกลับมาทำไมให้ไหวหวั่น
เพื่อย้อนวันเชยชิดสนิทหมาย
พล่ามเหตุผลเพียงเหงาเข้ากล้ำกราย
หรือเพราะพ่ายเกมรักสุดหักใจ
คงเห็นฉันเช่นของสำรองรัก
แวะพิงพักชั่วคราวปวดร้าวไหม
แท้เธอหวังแอบอิงแล้วทิ้งไป
ดุจหัวใจของฉันมันด้านชา
อกสะอื้นหนักหน่วงรั้งดวงจิต
ปล่อยชีวิตล่องลอยคอยผวา
ขังตัวเองจ่อมจมระทมอุรา
คร่ำครวญหาจวนสิ้นทั้งอินทรีย์
ท่ามวิโยคอกสั่นและฝันร้าย
รู้บ้างไหมยากกลบหรือหลบหนี
ปวดร้าวลึกเนิ่นนานสะท้านฤดี
กว่าชีวีหลุดพ้นห้วงมลทิน
สิ้นแววหมองทั่วหล้าขอบฟ้าสาง
เลิกหลงทางปั่นป่วนรัญจวนถวิล
ลืมภาพฝันเฉิดโฉมประโลมจินต์
พร้อมโบยบินด้วยใจใฝ่ภิรมย์
เธอกลับมาทำไมให้ไหวหวั่น
อย่าหมายฝันเคียงข้างร่วมสร้างสม
แม้เสี้ยวใจไม่เหลือไว้เผื่อชม
เชิญซานซมหนาวเหน็บเจ็บคนเดียว ๚๛
เทียนหยด
2 ธันวาคม 2552 20:15 น.
เที่ยนหยด
๏ ชายผู้หนึ่งเป็นหม้ายเมียตายจาก
ต้องลำบากทำไร่กลางไพรสณฑ์
แบกภาระยิ่งใหญ่ไว้กับตน
ลูกสี่คนเป็นชายให้หน่ายอุรา
๏ ด้วยทั้งสี่เกียจคร้านงานไม่จับ
ทิวาลับลาล่วงไม่ห่วงหา
ไม่เคยมีน้ำใจให้สักครา
ปล่อยพ่อชราคนเดียวไม่เหลียวมอง
๏ เพราะกลัวความลำบากไม่อยากรู้
น่าอดสูกระไรใจมัวหมอง
ไม่เคยเลยสักนิดคิดปรองดอง
ดุจพี่น้องร่วมครรภ์ผูกพันมา
๏ วันหนึ่งพ่อล้มป่วยด้วยสังขาร
ลุแห่งกาลใกล้ฝั่งดังปรารถนา
แต่ยังคิดห่วงใยในลูกยา
คงหมดท่าเสียสิ้นไม่ยินดี
๏ จึงเรียกลูกมาสั่งจงฟังพ่อ
เป็นคำขอก่อนตายกลายเป็นผี
ทรัพย์สินที่พ่อสร้างทั้งชีวี
ล้วนมากมีพอให้เจ้าใช้มัน
๏ ฝังเอาไว้ใต้ดินถิ่นเราอยู่
จงหาดูให้ทั่วอย่ามัวฝัน
สามัคคีรวมใจไปด้วยกัน
คงถึงวันที่พ่อจะขอลา
๏ พอสิ้นคำพ่อถึงซึ่งอาสัญ
ลูกชายหวั่นคิดไปใจผวา
ถึงคราวที่เสาหลักหักลงมา
ขาดบิดาชื่นชูเลี้ยงดูตน
๏ เช้าเร่งขุดนาไร่ไถไปทั่ว
ทั้งจอบพลั่วลงแรงทุกแห่งหน
จนพลบค่ำเหน็ดเหนื่อยเมื่อยเหลือทน
แปลกพิกลสินทรัพย์กลับไม่มี
๏ จวบหนึ่งปีผ่านไปไร่ที่ขุด
ใบเริ่มผุดยาวเรียวเขียวสดสี
ผลผลิตมากมายสายพันธุ์ดี
โตเต็มที่เก็บขายได้ราคา
๏ สี่พี่น้องตรองดูจึงรู้แจ้ง
คำที่แฝงความนัยให้ค้นหา
ทรัพย์สมบัติที่มีของบิดา
ช่างล้ำค่าเสียยิ่งกว่าสิ่งใด
๏ คิดได้จึงกลับตัวเลิกกลัวแล้ว
เดินตามแนวพ่อวางทางสดใส
ทรัพย์มีค่าหาได้อยู่ไม่ไกล
หากเมื่อไรเราขยันพลันได้มา
๏ ถ้ารู้จักทำกินไม่สิ้นสูญ
ทรัพย์เพิ่มพูนทุกวันชวนหรรษา
แม้นไม่ทำวันนี้ไม่มีมา
ลิขิตฟ้าหรือเท่าตัวเราเอง ๚๛
"เทียนหยด"