29 ตุลาคม 2547 03:41 น.
เทาสีเงิน
เป็นธรรมดาเพ็ญดวงอยู่สรวงสูง
ย่อมจับจูงจิตชนให้หม่นหมาย
เพราะเกินเอื้อมเรียมจึงหมั่นฝันมิวาย
พอคลับคล้ายชายเช่นได้เพ็ญครอง
แม้นเสียงเทียนเวียนวับอยู่กับมือ
ยังดึงดื้อถือจุดหมายอยู่ปลายสรวง
น้ำใจเทียนเพียรเผาเขลากับลวง
จวบเทียนดวงล่วงลับค่อยกลับใจ
นั้นเพียงเพราะมิอาจแยกที่แตกต่าง
นัยระหว่างความเป็นจริงที่หญิงให้
กับความฝันนั้นย่อมงามกว่าน้ำใจ
แต่พอไขว้คว้าได้จับกลับไม่จริง
28 ตุลาคม 2547 06:07 น.
เทาสีเงิน
คือรู้สึกลึกล้ำที่งำเงียบ
แต่ย่ำเหยียบเกือบทำฉันนั้นแทบบ้า
คือเกลียวคลื่นคืนคลั่งอหังกา
แต่กลับมาซาสงบเมื่อซบทราย
ความรู้สึกขัดแย้งที่แฝงเร้น
ก่อเกิดเป็นสุขเหงาเศร้าเวียนว่าย
ที่คิดฝันสั่นคลอนรอนหดหาย
เพียงเพราะได้สติเห็นที่เป็นจริง
ว่ารักไปไกลเกินจะเดินถึง
หมั่นคำนึงเสพสมจึงจมดิ่ง
แต่อกเอ๋ยกลับวิตกเมื่อฉกชิง
กลัวทุกสิ่งพังพับให้อับอาย